แม่เด็ก 8 ขวบแฉ ทนายดัง ช่วยมือยิงลูกรอดคดี สุดแสบตีซี้อัดเสียงเก็บข้อมูล (คลิป)

จากกรณีวานนี้ (23 ก.ย. 61) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เปิดเผยเรื่องราวผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เกี่ยวกับทนายดัง โดยมีเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับคดีเด็กอายุ 8 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิต ที่ทนายดังเข้ามาล้วงความลับฝ่ายผู้เสียหาย แล้วนำไปต่อสู้คดีให้ผู้ก่อเหตุ รวมถึงคดีที่ทนายดังรับปากช่วยผู้เสียหาย โดยเรียกเงิน 500,000 บาท และคดีที่เกี่ยวข้องกับคนที่ชื่อเก่ง ที่ถูกพยานซัดทอดว่าเป็นผู้ค้ายารายใหญ่ จนกระทั่งต้องโทษถูกกุมขังนั้น (อ่าน : “อัจฉริยะ” ยื่นหลักฐานพิรุธคดียา “เอมี่” – เอาผิดกลุ่มวิ่งเต้นล้มคดียา)

วันที่ 24 ก.ย. 61 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่สำนักงานผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้มีความเกี่ยวข้องหลายฝ่ายจึงเดินทางมาเพื่อยื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับข้อบกพร่องในการดำเนินคดียาเสพติดของ น.ส. อาเมเรีย นอกจากนี้ หลักฐานระบุชัดเจนว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีทั้งข้าราชการ พลเรือน รวมถึงอัยการอีกด้วย เบื้องต้น จะมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใน 3 วัน นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ระบุว่า เรื่องของกระบวนการค้ายาเสพติด ถือว่าเป็นบ่อนทำลายชาติ และเป็นวาระของรัฐบาล หากมีกระบวนการวิ่งเต้นล้มคดี ถือว่าเป็นบ่อนทำลายชาติยิ่งกว่า ดังนั้นในการดำเนินเรื่องครั้งนี้ "ถึงแม้ผมจะถูกยิงตาย ผมก็ยินดี" ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะไปที่ สนง.อัยการสูงสุด เพื่อให้ตรวจสอบมีคนแอบอ้างเป็นอัยการและสามารถวิ่งเต้นได้จริงหรือไม่

นางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด ยืนยันว่า คดีของดาราสาวเอมี่พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ส่งสำนวนมาให้อัยการในการฝากผัดที่ 7 ซึ่งเป็นฝากสุดท้าย ทำให้อัยการไม่มีเวลาในการตรวจสอบสำนวน ซึ่งอัยการที่ทำคดีนี้เป็นรูปแบบคณะทำงานเป็นพนักงานอัยการจำนวน 5 คน ทุกคนล้วนมีประวัติดีไม่เคยมีการร้องเรียน ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการรายงานในเบื้องต้นจากคณะอัยการชุดนี้แล้วซึ่งจะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ ส่วนการอุทธรณ์คดีนี้ได้รับรายงานว่าอัยการได้คำพิพากษาคดีนี้มาเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาอาจต้องขอขยายเวลาในการยื่นอุทธรณ์เพราะตามกฎหมายนั้นต้องยื่นภายใน 30 วัน เพราะอัยการต้องพิจารณาคำพิพากษาอย่างละเอียดว่าจะอุทธรณ์ในประเด็นใด

นอกจากนี้ ประเด็นที่เพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ระบุว่า "เรื่องที่มีผู้ร้องเรียนว่า พี่ชายของเลขาทนายดัง ได้ไปยิงเด็กเสียชีวิต แล้วทนายคนดังกล่าวก็ได้ไปทำคดีให้ แพ้ชั้นต้น ชนะอุทธรณ์ ขณะนี้อยู่ในศาลฎีกา น้องอายุแปดขวบ เดี๋ยวรอรวบรวมข้อมูลก่อน จะเอามาเผยแพร่กันในภายหลัง ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นกันอย่างสุภาพชน"

นางแอ๊ว (นามสมมติ) แม่ของเด็ก 8 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้าน จ.สมุทรสาคร เล่าว่า ช่วงเข้าวันที่ 25 พ.ค. 58 เวลาประมาณ 00.30 น. ขณะนั้นตนนอนอยู่ในบ้านชั้นล่าง ส่วนแม่และลูกชาย อายุ 8 ขวบ นอนด้วยกันที่ชั้น 2 ของบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงรถกระบะมาจอดหน้าบ้าน จึงลุกขึ้นมาดูผ่านหน้าต่าง เห็นคนขับลดกระจกลง และใช้ปืนหันมาทางบ้าน ตนได้ยินเสียงปืนดัง 2-3 นัด จากนั้นคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไป จากนั้นตนจึงขึ้นไปที่ชั้นสอง พบว่าแม่ถูกยิงเข้าที่แขน ขณะนั้นไม่ทราบว่าลูกชายถูกยิงด้วย เพิ่งมาทราบภายหลังว่ากระสุนที่ฝังอยู่ที่แขนแม่นั้น เป็นกระสุนนัดเดียวกันกับที่ทะลุหัวใจของลูกชายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นางแอ๊ว กล่าวต่อว่า ตนทราบสาเหตุในภายหลังว่า ที่คนร้ายมายิงบ้านตนนั้น เป็นเพราะมีเรื่องขัดแย้งกับพี่ชาย เรื่องที่พี่ชายไปเอายาเสพติดมาแล้วไม่จ่ายเงิน คนร้ายจึงบุกมาเล่นงานครอบครัว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่ จ.เชียงใหม่ ในข้อหาเจตนาฆ่า แต่คนร้ายเป็นญาติกับเลขาของทนายดัง โดยคนร้ายบอกกับพี่ชายตนว่า "ไม่กลัว ยังไงก็หลุด เพราะทนายดังรับประกันมา" ซึ่งวันที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ทนายดังก็มารอประกันตัวที่สถานีตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการต่อสู้คดีในศาลชั้นต้น ฝ่ายของตนไม่มีทนายโจทก์ร่วม เพราะไม่มีเงินจ้าง แต่ฝ่ายผู้ก่อเหตุมีทนายดังช่วยทำคดี โดยทนายดังมักจะมาที่บ้านเกือบทุกวันในเวลาหลัง 21.00 น. โดยตนมารู้ภายหลังว่ามาแอบถ่ายรูปบ้านไป จนกระทั่งหลังจากที่ตนไปให้ปากคำในฐานะพยาน ทนายคนดังกล่าวมาหาที่บ้านในวันเดียวกัน แล้วบอกตนว่า จะให้ลูกความยอมรับสารภาพ

กระทั่งวันต่อมา ทนายดังกลับคำพูด แทนที่จะให้ลูกความรับสารภาพ แต่กลับต่อสู้คดี ต่อโดยอ้างว่าที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะถูกซ้อม และข่มขู่ว่าจะนั่งยาง อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงวันที่ 14 ก.ค. 59 ตัดสินจำคุกจำเลย 17 ปี 19 เดือน 30 วัน จากนั้น ทนายดังได้ยื่นอุทธรณ์ แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ตนไม่สามารถเข้าไปนั่งฟังในศาลได้ เพราะไม่ได้จ้างทนายโจทก์ร่วมมาตั้งแต่ต้น โดยทนายดังได้ใช้หลักฐานที่มาแอบถ่ายบ้านของตนในการต่อสู้คดีโดยอ้างว่าวันเกิดเหตุตนมองเห็นคนร้ายไม่ชัด ซึ่งตนทราบในภายหลังว่า ศาลตัดสินยกฟ้องในวันที่ 29 ธ.ค. 59 แต่ให้ขังจำเลยไว้ ในระหว่างฎีกา โดยทราบมาว่าขณะนี้ คดียังมีการต่อสู้กันอยู่ในชั้นศาลฎีกา