ย่างสด! หนุ่มถูกแก๊งทวงหนี้ล่ากลายเป็นศพปริศนา เมียเปิด 3 พิรุธเชื่อฆ่าจัดฉาก (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเหตุพบศพในป่าละเมาะพื้นที่หมู่ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายถูกไฟเผา เหลือเพียงโครงกระดูก นอนหงายอยู่บนพื้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 6 วัน

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายสิทธิไกร ชัยสิทธิ์ อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุการตายว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม

วันที่ 26 ก.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นป่ารกร้างอยู่ห่างจากถนนประมาณ 300 เมตร ข้างทางเป็นต้นไม้บดบังจุดที่เจอศพ บริเวณดังกล่าวมีเถ้าถ่านจากการเผาไหม้กองอยู่บนพื้น และมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง ตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชน จึงไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดเหตุ

นายสิทธิชัย สุวรรณชู อายุ 23 ปี เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า ปกตินายสิทธิไกรทำงานขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับขนผัก โดยมาทำงานวันสุดท้ายวันที่ 15 ก.ค. จากนั้นวันที่ 16 ก.ค. ช่วงบ่าย นายสิทธิไกรโทรศัพท์มาลางาน โดยไม่ได้บอกเหตุผล

จนเวลาประมาณ 20.00 น. นายสิทธิไกร ส่งข้อความมาหาตนบอกว่า "พี่ไปก่อนนะ" จากนั้นก็โทรศัพท์มาหา พร้อมพูดซ้ำ ๆ เหมือนที่ส่งข้อความมาว่าจะไปแล้ว ตนก็ถามว่าจะไปไหน อีกฝ่ายไม่ตอบ ตนบอกให้ใจเย็น ๆ และบอกให้ไปคุยกับลูกเมีย จากนั้นนายสิทธิไกรโทรศัพท์มาอีกหลายครั้ง แต่ตนไม่รับ พร้อมบล็อกเบอร์โทรศัพท์ทิ้ง เนื่องจากกำลังทำงานอยู่ กลัวจะเสียงาน

จากนั้น นายสิทธิไกรก็ไม่ได้มาทำงานอีกเลย ส่วนตัวเริ่มใจคอไม่ดี แต่ไม่รู้จะโทรศัพท์ไปถามใคร เพราะไม่รู้จักครอบครัวของอีกฝ่าย
กระทั่งวานนี้ทราบข่าวว่าพบศพนายสิทธิไกรก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ปกตินายสิทธิไกรเป็นคนขยันทำงาน ไม่สุงสิงกับใคร ส่วนตัวไม่ทราบถึงปัญหาของอีกฝ่าย และไม่เคยรู้ปัญหาเรื่องเงิน เพราะนายสิทธิไกร ไม่เคยโทรศัพท์มายืมเงินแต่อย่างใด ตอนนี้ไม่มั่นใจว่านายสิทธิไกรฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม

ด้านนางสาวอมราพร สายศรีโกศล อายุ 46 ปี ภรรยานายสิทธิไกร กล่าวว่า วันที่ 16 ก.ค. ช่วงเย็นมีข้อความส่งมาที่มือถือของตัวเอง เป็นการทวงเงินที่สามีไปยืมเงินมา ตนจึงสอบถามสามีว่าเป็นหนี้เท่าไร สามีบอกว่า 2,500 บาท เอามาใช้จ่ายและซื้อหวย จากนั้นก็มีปากเสียงกันเพราะตนไม่ชอบเรื่องการพนัน แต่ไม่ได้ทะเลาะกันใหญ่โต เพียงแค่ตัดพ้อกับสามีในเชิงน้อยใจ อีกฝ่ายก็ร้องไห้ ไม่ตอบโต้ พร้อมขอโทษ ก่อนที่ตนจะขึ้นห้องนอนชั้น 2 ส่วนสามีนอนด้านล่าง ช่วงเช้าตื่นมาสามียังนอนอยู่ด้านล่าง

จนเวลาประมาณ 15.00 น. ตนถามสามีว่า "ไม่ไปทำงานเหรอ" อีกฝ่ายบอกว่าจะไปแล้ว ก่อนออกจากบ้านไป โดยคืนวันที่ 17 ก.ค. สามีไม่กลับบ้าน แต่ตื่นเช้ามาพบว่าเสื้อผ้าของสามีที่ตากอยู่หน้าบ้าน 2-3 ตัวหายไป คิดว่าสามีน่าจะโกรธจึงเก็บเสื้อผ้าไปนอนบ้านเพื่อน

วันที่ 19 ก.ค. โทรศัพท์ไปหาสามีแต่ติดต่อไม่ได้ จึงติดต่อไปหาญาติสามี เพราะคิดว่าอีกฝ่ายอาจน้อยใจกลับไปบ้าน แต่ญาติบอกว่าสามีไม่ได้ไปหา ตนยังคิดว่าสามีอาจน้อยใจจนไปบวช แต่ตอนนั้นไม่สามารถออกไปตามหาได้ เพราะอยู่ระหว่างกักตัวเนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 โดยคิดว่ากักตัวเสร็จจะไปตามหา กระทั่งวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาบอกว่าพบศพสามี ตนช็อกมาก

ส่วนตัวคิดว่าสามีไม่น่าจะฆ่าตัวตาย เพราะสภาพศพลักษณะเหมือนนอนนิ่ง ไม่ทุรนทุราย ทั้งนี้ อยากได้ข้อสรุปทางคดี หากเป็นเรื่องฆาตกรรมก็อยากให้จับคนร้ายให้ได้ แต่หากเป็นการทำตัวเองก็แล้วแต่การตัดสินใจ ตนเสียใจมาก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี