ลูกบ้านจ่อย้าย สยองต่างด้าว 200 ชีวิตย้ายเข้าคอนโด นิติฯ ยันตรวจโควิดแล้ว (คลิป)

21 ก.ค. 64

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพแฉการเคลื่อนย้ายแรงงานชาวเมียนมา ด้วยรถโดยสาร 6 ล้อ ประมาณ 3 คัน และรถกระบะเสริมหลังคาอีก 1 คัน หลังขับเข้ามาในพื้นที่ของคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนคร หมู่ 3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งแต่ละคันบรรทุกคนมาแน่นรถ จนสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้พักอาศัยในคอนโดฯ และประชาชนรอบข้าง

165997

ล่าสุดวันที่ 21 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว จากการสังเกตพบว่ามีชาวเมียนมาเดินอยู่บนถนนในคอนโดฯ ประมาณ 5-10 คน บางคนก็ออกมายืนหน้าตึก บางคนก็เดินไปซื้อของกิน ซึ่งทุกคนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตามมาตรการของภาครัฐ

406581

นายสุขสันต์ โพธิ์แก้ว อายุ 28 ปี ซึ่งเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่ชั้น 1 ของตึก G5 มาได้ 2 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนแรกที่เห็นก็ตกใจมาก เพราะรถที่บรรทุกคนมาแทบจะไม่มีช่องว่างเลย บรรยากาศทำให้ชวนคิดไปต่าง ๆ นานาว่าจะเกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 เป็นคลัสเตอร์คอนโดฯ หรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งชัดเจนว่าห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานด้วย

ที่สำคัญคือก่อนเคลื่อนย้านแรงงานเข้ามาในพื้นที่ นิติคอนโดฯ ก็ไม่ได้ประกาศแจ้งให้ผู้พักอาศัยทราบ ยิ่งไปกว่านั้นตนยังเห็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ของกลุ่มคนงาน ทั้งเดินถมน้ำลายตามพื้น บ้วนน้ำหมากลงมาจากชั้น 4-5 แม้ว่าตนจะไม่เคยรังเกียจชาวต่างชาติ เพราะรู้ดีว่าท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนล้วนต้องทำงานเลี้ยงชีพ แต่ตนก็อยากให้รักษาความสะอาดในการอยู่ร่วมกันด้วย

นอกจากนี้ เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว ตนและเพื่อนได้ยินมาว่ามีการลักลอบขนย้ายแรงงานเข้ามาที่คอนโดฯ แล้วรอบแรก ตนก็ร้องเรียนไปยังนิติคอนโดฯ ชี้แจงกลับมาดังต่อไปนี้ 

770211

“ตามที่เรียนแจ้งลูกค้าในเบื้องต้นนะคะ พนักงานกลุ่มที่มาเช่า เขาได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 แล้ว 2 รอบ ซึ่งการที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เนื่องจากสาธารณสุขให้ย้ายมานะคะลูกค้า หากต้องการดูเอกสารยืนยัน ลูกค้าสามารถมาติตต่อทีออฟฟิศได้เลยนะคะ”

แต่อย่างไรก็ตาม ทางนิติยังไม่ได้มีการประกาศให้ผู้อยู่อาศัยคนอื่นทราบ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันนี้ (21 ก.ค.64) ถึงจะมีประกาศชี้แจงผ่านเสียงตามสายของคอนโดฯ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พักอาศัยอยากขอร้องให้ปฎิบัติดังต่อไปนี้

1.แยกแรงงานชาวเมียนมาที่ย้ายเข้ามาไปอยู่ตึกใดตึกหนึ่ง ที่ไม่ใช่การอยู่รวมกับผู้อยู่อาศัยเดิม

2.ตั้งจุดตรวจเชิงรุกให้กับชาวเมียนมา เพื่อยืนยันผลตรวจว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 จริง ๆ และเพื่อความสบายใจของผู้อยู่อาศัยเดิม หรือหากเป็นไปได้หลังจากนี้ 7 วันอยากให้ตรวจเชิงรุกกับผู้ที่พักอาศัยทั้งหมด

3.แสดงใบขออนุญาตการขนย้ายแรงงาน ผลตรวจของแรงงานอย่างเป็นทางการ ผ่านเฟซบุ๊กหรือไลน์กลุ่มของคอนโดฯ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ

633069

“คุณศิราณี” นิติคอนโดฯ เปิดเผยว่า หลังมีข่าวออกไปทางคอนโดฯ ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน ซึ่งภาพที่ถูกปล่อยออกไปนั้น เป็นการขนย้ายแรงงานเมียนมาจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งแรงงานที่ขนย้ายมาเป็นแรงงานเมียนมาจากบริษัทประกอบกิจการประเภทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ และทั้งหมดมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ไม่พบเชื้อ

สำหรับการเตรียมรองรับแรงงานทั้งหมด ตอนแรกบริษัทต้นสังกัดของแรงงาน บอกว่าจะขอเช่าแค่ 40 ห้อง จึงจัดไว้เป็นชั้น 4 ของตึก G7 เพราะเป็นชั้นที่คนอยู่น้อย แต่เมื่อถึงวันที่จะย้ายเข้ามาจริง แรงงานคนอื่น ๆ ก็ลงทะเบียนขอย้ายเพิ่ม จนกลายเป็น 100 ห้อง ประมาณ 200 คน ซึ่งทั้งหมดไม่มีใครติดโควิด-19 อย่างแน่นอน จึงจัดให้อยู่ในตึก G7 ชั้น 4-5 จำนวน 63 ห้อง และตึก G8 ชั้น 4-5 จำนวน 37 ห้อง กระจายกันไปห้องละครอบครัว ประมาณ 2-3 คนต่อห้อง เพราะลูกค้าเดิมที่เป็นคนไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้น 1-3 ของตึกเป็นหลัก

319211

หลังจากนี้ ทางคอนโดฯ ก็จะมีมาตรการควบคุมดูแลคนงานกลุ่มนี้ ดังต่อไปนี้

1.ให้รถโดยสาร 6 ล้อที่รับ-ส่ง คนงาน เข้ามารับ-ส่งคนงานที่หน้าตึก G7 และ G8 เพื่อไม่ให้เกิดความพลุกพล่านระหว่างไป-กลับจากที่ทำงาน

2.คนงานทุกคนก่อนขึ้น-ลงจากรถ จะต้องวัดอุณหภูมิร่างกาย และฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ทุกครั้ง

3.สั่งกำชับให้มีการสวมหน้ากากอนามัยทุกคนตลอดเวลา

4.ประกาศเสียงตามสายให้ลูกบ้าน หรือผู้ที่อยู่อาศัยทราบ ถึงความเคลื่อนไหวของแรงงาน 3 เวลา คือ 08.00 น., 12.00 น. และ 18.00 น.

889308

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ “หยิงชันเอ” อายุ 30 ปี อาศัยอยู่ในตึก G7 ชั้น 4 กับน้องสาว แรงงานชาวเมียนมาที่เพิ่งย้ายเข้ามา กล่าวยืนยันว่า ตนและเพื่อน ๆ ที่ย้ายเข้ามาล้วนผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาแล้ว 2 รอบ ซึ่งผลออกมาเป็นลบไม่พบเชื้อ ทางหัวหน้าคนงานจึงบอกให้ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ แต่เมื่อมาถึงสิ่งหนึ่งที่ตนสัมผัสได้คือสายตาแปลก ๆ จากคนไทย บางคนมองด้วยความหวาดระแวง ซึ่งตัวก็ยอมรับว่าเสียใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิด 

อย่างไรก็ตาม ตนพยายามใช้ชีวิตให้เหมือนปกติ ออกไปทำงานเวลา 07.00 น. กลับมาคอนโดฯ เวลา 20.00 น. หรือหากวันไหนหยุดก็ลงมาซื้อของ ซื้ออาหารด้วยตัวเอง โชคดีที่พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่เป็นมิตร จึงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร และตนก็ดูแลตัวเองตลอด ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ชำระร่างกายทุกครั้งก่อนและหลังจากทำงาน

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส