รอเตียงครึ่งเดือน พิษโควิดคร่าชีวิตสาวใหญ่ตายคาห้องเช่า ผัวนั่งเฝ้าศพ 5 ชม.หาวัดเผาไม่ได้ (คลิป)

19 ก.ค. 64

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.บุญวิโรจน์ ขันไชย รองสว. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งมีหญิง ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ถนนพิษณุโลกซอยที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.วชิระ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นางพัฒนี อายุ 47 ปี โดยมีนายวินัย อายุ 66 ปี สามี ติดเชื้อป่วยโควิด-19 เช่นเดียวกัน เฝ้าศพไม่ห่างตั้งแต่เวลา 13.00 น.

499243

เวลา 15.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่พบกับเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 สโมสรวัฒนธรรมหญิง ชี้แจงให้ฟังว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตทางศูนย์มีส่วนช่วยเหลือทั้งการหาถังออกซิเจนและประสานหายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ให้ผู้ป่วย ซึ่งทำเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องถังออกซิเจน สามีผู้เสียชีวิตปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับ

897143

ขณะเดียวกันทีมข่าวพบนางกรณภา ตั้งจิตเพิ่มความดี อายุ 63 ปี และนางสุธีรา งามประสิทธิ์ อายุ 50 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นคนที่ช่วยดูแลครอบครัวนี้ ทั้งการส่งอาหาร น้ำดื่มให้ทุก 3 มื้อ ประกอบกับช่วยประสานหาเตียง

697011

นางกรณภา เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบ ๆ รวมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูกโดยห้องเช่าเป็นห้องน้ำรวม เริ่มต้นมีน.ส.เกษราภรณ์ ศรีศักดิ์ดี อายุ 24 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิตติดโควิด-19 และไปตรวจโควิด-19 ที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านบางแค เมื่อวันที่ 4 ก.ค.64 พร้อมกับผู้เสียชีวิต

603080

โดยผลลูกสาวออกเมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ว่าติดเชื้อโควิด-19 ส่วนแม่ผลออกวันที่ 6 ก.ค.64 ว่าติดเชื้อโควิด-19 มีรถมารับลูกเข้าฮอสพิเทลวันที่ 7 ก.ค.64 จากนั้นนายวินัย ไปตรวจเชื้อโควิด-19 วันที่ 8 ก.ค.64 ผลออกติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 แต่ทั้งคู่ก็ยังรอเตียงอยู่ภายในห้องเช่า ตนจึงแนะนำว่าการไปตรวจคลินิกไม่มีการรับรอง ตนจึงประสานศูนย์ให้ส่งตรวจอีกครั้งเพื่อให้ได้การรองรับ แต่สุดท้ายก็ต้องรอเตียงอยู่ดี

จากนั้นพยายามประสาน รพ.ประกันสังคมของทั้งคู่ก็ไม่มีเตียงไม่รับรักษาหรือให้ข้อแนะนำอะไร ตนจึงประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 6 สโมสรวัฒนธรรมหญิง ให้ช่วย ซึ่งก็ได้แค่ยาฟาวิพิราเวียร์มากินเมื่อวันที่ 17 ก.ค.64 จากนั้นตนก็ต้มน้ำขิงส่งอาหารให้ กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.64 ผู้เสียชีวิตมีการแจ้งว่าหายใจไม่ออก แต่สามีปฏิเสธไม่อยากได้

696158

ด้านนางสุธีรา งามประสิทธิ์ เปิดเผยว่า การที่ผู้ป่วยปฏิเสธเรื่องถังออกซิเจน อาจจะเป็นเพราะผู้ป่วยไม่รู้วิธีการใช้งานอุปกรณ์ เพราะเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าสามารถเอาถังมาให้ได้และวางให้ได้แค่หน้าบ้าน จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์สอนวิธีการใช้งาน ตนจึงเชื่อว่าผู้ป่วยอาจจะคิดว่ายุ่งยาก และอยากรับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้รับก็ไม่ส่งผลดีให้ผู้เสียชีวิตอาการดีขึ้น ประกอบกับไม่มีพยาบาลมาดูแลหรือให้ข้อแนะนำใด ๆ ถ้าเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับการรองรับ ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาวัดไข้ และรับตัวไปตรวจปอด จนได้เตียง ตนมองควรทำให้เท่าเทียมกัน แต่กลับเป็นชาวบ้านที่ต้องดูแลกันเอง ส่วนเรื่องศพตนแจ้งไปตั้งแต่ 13.00 น. จนขณะนี้ 17.00 น .ก็ยังไม่มีเจ้าหน้ามาเลย จึงเริ่มท้อแล้ว

323920

นายวัฒนา บุญเฟรือง อายุ 57 ปี ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังทราบว่าน้องสาวติดโควิด-19 ตนจึงประสาน 1330 เป็นระยะเวลา 3 วัน ได้รับคำตอบจากสายอัตโนมัติ (AI) ว่ารอคิวอยู่อันดับที่ 39 ซึ่งทั้ง 3 วันได้รับคำตอบแบบเดิมตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.64 น้องสาวโทรศัพท์มาหา "หนูหายใจไม่ออก ให้หาถังออกซิเจน" ตนอยู่ไกลก็ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร จึงประสาน 191 ก็บอกจะประสานเตียงให้ และมีแต่ขอข้อมูลแบบซ้ำ ๆ เดิม ๆ

เบื้องต้นตนก็แนะนำน้องว่าให้ต้มกระชายดำ ต้มขิง และกินฟ้าทะลายโจร เพราะน้องมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ตนยอมรับเป็นห่วงน้องมาก ๆ แต่ช่วยอะไรน้องไม่ได้เลย นอกจากนี้ตนทราบว่าน้องมีประกันโควิด-19 ที่เจอ จ่าย จบ และประกันสังคม แต่ไม่รู้ทำไมหาเตียงไม่ได้ อาการของน้องแย่ลงตามลำดับ ทั้ง ไอ มีน้ำมูก มีไข้ และเริ่มหมดแรงจนหายใจไม่ออก อย่างไรก็ตาม ตนขอถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทำไมมีเบอร์ให้ติดต่อมากมาย แต่สุดท้ายก็ช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่เสียงอัตโนมัติ (AI)

526361

เวลา 17.00 แพทย์จาก รพ.วชิระ พร้อมด้วยร้อยเวร สภ.นางเลิ้ง ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยแพทย์เวรเข้าไปชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น จากนั้นเวลา 17.45 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมาเก็บร่างผู้เสียชีวิตไปยัง รพ.วชิระ ก่อน เนื่องจากญาติประสานวัดโสมนัสราชวรวิหาร แต่ปรากฏว่าคิวเต็ม ทางญาติจึงไปสานวัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว) ซึ่งมีคิวเผาว่างในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.64) จากนั้นมูลนิธิ จึงนำร่างไปฝากวัดที่นิติเวช รพ.วชิระก่อน

433386

นายวินัย อายุ 66 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในช่วงที่ตนและภรรยาป่วยนั้นตนได้พยายามช่วยเช็ดตัวภรรยาตลอด เพราะภรรยามีไข้สูง กินยาไข้ก็ไม่ลด แต่ภรรยาก็สู้ที่สุด ซึ่งขณะนั้นมีแต่หน่วยงานโทรศัพท์เข้ามาถามอาการ ตนจึงได้ย้ำว่าขอเตียงรักษาได้หรือไม่ เพราะภรรยาอาการแย่ลงเรื่อย ๆยืนยันว่าเรื่องยาชาวบ้านช่วยหาให้และมีเพียงพอ

ส่วนเรื่องถังออกชิเจนที่หน่วยงานจะนำมาให้ 5 ถังใหญ่ ตนซึ่งอายุเยอะออกไปยกก็ไม่ไหว ประกอบหากเอามาแล้วต้องทำเองทุกอย่าง ตนกลัวจะแย่ เพราะใช้อุปกรณ์ไม่เป็น จึงถามภรรยาว่า "ไหวไหม" เมื่อภรรยาตอบว่ายังไหว ตนจึงปฏิเสธรัเพราะมีก็ใช้งานไม่เป็น

596764

แต่เมื่อเช้าอาการภรรยาเริ่มแย่ ช่วงเวลา 11.00 -12.00 น. ภรรรยาหายใจไม่ออกแล้ว ตนรีบโทรศัพท์ไปหารถฉุกเฉินให้มาช่วย ก็ไม่มีใครช่วยได้ ตนรู้สึกแย่มาก ๆ แต่สุดท้ายภรรยาก็ทนไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนตัวเข้าใจว่าผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากทุกวัน เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจะมาดูแลคนป่วยทั้งหมด แต่ตนมองว่าเรื่องรถฉุกเฉิน หรือการรับคนไข้ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ จึงอยากให้ปรับปรุงเรื่องนี้ เพราะคนเราถ้าไม่แย่จริง ๆ คงไม่ขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉิน

704874

อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง กลัวจะเป็นแบบภรรยาไปอีกคน กลัวคนอื่นรังเกียจและติดเชื้อไปด้วย สิ่งเดียวตอนนี้ตนขอแค่เตียง อย่างน้อย ๆ ได้อยู่ใกล้หมอใกล้แพทย์ แต่การอยู่แบบนี้ไม่รู้อาการว่าเชื้อลงปอดหรือไม่ จะทรุดวันไหน อาการตนตอนนี้ไอ เจ็บคอ แต่ช่วงกลางคืนมักมีไข้สูง กินฟาวิพิราเวียร์ที่ศูนย์สาธารสุขให้มาก็ดีขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส