โผล่แล้ว! สาวปริศนาทิ้งศพหนุ่มคารถอ้างเปิดม่านรูดกินข้าว ผัวน้ำตาตกจ่อตัดขาด (คลิป)

16 ก.ค. 64

จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีเงิน บริเวณโค้งร่มประดู่ซอย วัดหลวงพ่อโต ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะดังกล่าวในห้องโดยสาร พบนายวิเชียร ธรรมยาวัฒนา หรือ บุญ อายุ 56 ปี ผู้เสียชีวิต นั่งตำแหน่งคนขับสภาพฟุบหน้ากับพวงมาลัย มีอาเจียนทั่วร่างกาย จากการตรวจสอบภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งข้างคนขับพบขวดน้ำดื่มเกือบหมดขวด และเซ็กซ์ทอย

376601899388

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกันว่า รถยนต์ดังกล่าวได้ขับออกมาจากโรงแรมม่านรูด ใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวจะขับส่ายไปส่ายมา และจอดตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้นก็มีผู้หญิงเปิดประตูรถลงมาตะโกนขอความช่วยเหลือว่าผู้เสียชีวิตช็อกในรถ ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีไป

745367

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มออกม่านรูดขับส่ายเป็นงูก่อนช็อกดับคารถ สาวปริศนาเผ่น เมียรุดดูศพกรี๊ดลั่น

747512

ล่าสุด วันที่ 16 ก.ค. 64 นางสาวอลิยา (นามสมมติ) ลูกสาวผู้เสียชีวิต อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า พ่อมีโรคประจำตัวตัวทั้งเบาหวานและความดัน ตนได้เจอพ่อเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ที่ จ.ปทุมธานี และพ่อก็พาไปเที่ยวน้ำตกที่ จ.นครนายก ทุกอย่างปกติดี ไม่ได้มีอาการกำเริบ แต่ย้อนไปต้นปี 2564 และช่วงเดือนเมษายน พ่อตนมีอาการกำเริมจนเข้าโรงพยาบาล 2 ช่วง และล่าสุด 2 วันก่อนที่จะเสียชีวิตชีวิต พ่อบอกกับแม่เลี้ยงว่ามีอาการแน่นหน้าอก เหมือนมีเสมหะในลำคอ เมื่อวานเป็นวันที่หมอนัด แต่พ่อกลัวโควิดจึงให้แม่เลี้ยงไปรับยาที่โรงพยาบาลแทน โดยที่พ่อบอกว่าที่ไปทำงานรามคำแหง

842832

อีกทั้งแม่เลี้ยงได้บอกว่าพ่อก็อาการปกติดี และไม่ได้บอกใครว่าจะไปม่านรูด บอกแค่คนงานว่าจะไปซื้อเหล็ก ทุกคนจึงงงกันหมดว่าพ่อมาเสียชีวิตตรงนี้ได้อย่างไร กระทั่งมาทราบว่ามีผู้หญิงอีกคนมาด้วย ดูกล้องวงจรปิดก็พอนึกออกว่าผู้หญิงเป็นใคร เพราะก่อนหน้านี้เคยรู้ว่าพ่อมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น แต่ไม่ใช่หญิงคนนี้ ตนจึงงงว่าหญิงคนนี้มากับพ่อได้อย่างไร เพราะอยู่บ้านใกล้เคียงกัน และได้พยายามติดต่อหญิงคนนี้แล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ ตอนนี้พยายามหาเบาะแสหญิงคนนี้

160503

ซึ่งหากเป็นหญิงคนที่สงสัย ผู้หญิงคนนี้รู้ดีแน่นอนว่าพ่อมีโรคประจำตัว จึงติดใจมากว่าตอนที่พ่ออาการกำเริบทำไมทิ้งกันไป ทำไมไม่ช่วยตามหมอ เพราะคิดว่าถ้าช่วยกันพ่ออาจจะรอด หรือหนีไปเพราะเป็นคนทำให้พ่อตายหรือไม่ ส่วนเรื่องสารกระตุ้นไม่คิดว่าพ่อจะกิน แต่ปกติพ่อน็อกบ่อย สงสัยแค่ว่าทำไมหญิงคนนั้นถึงหนีไป ตนเองจึงขอร้องให้หญิงคนนี้ออกมา ยืนยันว่าหากพ่อตายด้วยโรคประจำตัวก็จะไม่ติดใจ

สำหรับตอนนี้ยังไม่สามารถนำร่างพ่อออกมาประกอบพิธีการทางศาสนาได้ เพราะรอผลตรวจเชื้อโควิด-19 คาดว่าเป็นวันพรุ่งนี้ 17 ก.ค. 64 สิ่งเดียวที่ขอคือขอให้ผู้หญิงที่มากับพ่อมาพูดคุยกัน

932552

นางวิลาวัณย์ สุทธิศิริ อายุ 55 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้นำยาความดันแผงคล้ายยาไวอากร้า มี 10 เม็ด ให้ทีมข่าวดู ประกอบกับยาชนิดอื่นที่สามีทานอยู่ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดว่าแผงยาที่แม่บ้านพบคือยาอะไร เพราะยาความดันสามีจะกินก่อนอาหาร และสามีได้กินก่อนออกไปทำงาน และส่วนใหญ่จะเอายาไว้ในรถ

นางวิลาวัณย์ เปิดเผยว่า สามีบ่นแน่นหน้าอก และหายใจไม่ค่อยออกมาหลายวัน ตนเองพยายามบอกให้ไปหาหมอ แต่สามีบอกว่าไม่อยากไป กลัวโควิด กลัวว่าหมอจะไม่ตรวจให้ กระทั่งตอนเช้า 15 ก.ค. แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ ส่วนตนเองก็รับปากว่าจะไปเอายาความดัน เบาหวาน ให้สามี

จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ตนเองสงสัยว่าทำไมสามีไม่โทรมาหา ปกติช่วงเที่ยงของทุกวันสามีจะโทรมาสอบถามว่า กินข้าวหรือยัง และถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป แต่เมื่อวานเงียบหายจนประมาณ 12.50 น. มีคนโทรศัพท์ไปหาตน บอกว่าเห็นรถสามีจอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ น้ำลายฟูมปาก ตนเองจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ก่อนทราบว่าสามีมากับผู้หญิงคนหนึ่ง และมีการพากันเข้าโรงแรมก่อนเกิดเหตุ จึงยังสงสัยว่าสามีพาผู้หญิงโรงแรมทำไม และแปลกใจเพราะโรงแรมกับสถานที่ทำงานสามีอยู่คนละทาง

จากนั้นเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็รู้สึกช็อก เพราะในภาพคล้ายคลึงหญิงสาวที่อยู่ใกล้บ้าน พยายามติดต่อหาผู้หญิงต้องสงสัย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้นตนขอให้หญิงรายนี้รีบมาคุยกัน เรื่องราวจะได้กระจ่าง ตนเองจะได้รู้ว่าสามีเป็นอะไรก่อนตาย ขอให้เห็นใจกันหน่อย ซึ่งถ้าโรคประจำตัวสามีกำเริบตนก็ไม่ติดใจอยู่แล้ว ขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งก็คิดสงสัยว่าสามีจะกินอะไรเข้าไปหรือไม่ ซึ่งหากผลชันสูตรออกมาว่าสามีได้กินอะไรเข้าไปตนเองก็รับไม่ได้ แต่ตนเองก็ยังมั่นใจในตัวสามีว่าจะไม่มีทางไปกินยาปลุกเซ็กซ์ แน่นอน เพราะสามีเป็นคนรู้ตัวดีว่ามีโรคประจำตัว

127072

นายเอ (นามสมมติ) พนักงานโรงแรม เล่าว่า เคยเห็นผู้ตายมากับหญิงสาวที่ปรากฎในวงจรปิด ซึ่งมีรูปร่างท้วม ผิวดำ หน้ามีอายุ พากันมาใช้บริการประมาณ 2 ครั้ง คือปลายเดือนมิถุนายน และเมื่อวานนี้ซึ่งเข้าใช้บริการประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชม. เท่านั้น แต่เมื่อวานนี้ลักษณะผู้หญิงเหมือนรีบพาผู้ตายออกจากห้อง ผู้ตายออกมาใส่เสื้อในรถ และพากันขับรถออกไป

391074

ขณะเดียวกัน พนักงานพาทีมข่าวเปิดห้องที่ผู้ตายมากับหญิงสาวให้ดู แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ พบว่าห้องทำความสะอาดหมดแล้ว

281909

จากการที่ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่าหญิงที่ปรากฏในวงจรปิด เป็นบุคคลที่คล้ายคลึงกับหญิงสาวใกล้บ้านคือ นางสาวอ้วน อายุ 30 ปี ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านของนางสาวอ้วน พบนางลำดวน (นามสมมติ) เป็นพี่สะใภ้ของหนุ่มที่นางสาวอ้วนคบหาอยู่ และอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน

961457

นางลำดวน เปิดเผยว่า เมื่อวานพบนางสาวอ้วนสวมเสื้อสีเหลืองครีม กางเกงขาสั้น เดินทางออกจากบ้านตอนเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. ก็กลับเข้ามาบ้านช่วง 20.00-21.00 น. เพราะตอนนั้นตนเองได้ยินเสียงหมาเห่า จึงเดินออกมาดูเห็นไม่มีอะไรก็กลับเข้านอน และเช้าวันนี้เห็นแต่งกายชุดเดิม สะพายกระเป๋าใบเล็ก ออกจากบ้านไปตอน 08.00 น. และได้ยินเสียงพูดคุยโทรศัพท์บอกว่ากำลังออกไป และมาช่วงบ่ายตำรวจมาที่บ้าน ตนเองก็ให้การกับตำรวจว่านางสาวอ้วนออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว

100408

ส่วนตัวตนเองไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับนางสาวอ้วน จึงไม่เคยพูดคุยกัน ส่วนความสัมพันธ์กับผู้ตาย ตนเองมักเห็นว่าเจออยู่บ่อยครั้ง แต่คิดว่าเป็นญาติกัน จึงไม่ได้สงสัยอะไร ส่วนที่ชาวบ้านมีการพูดถึงว่านางสาวอ้วนคล้ายกับสาวในวงจรปิด ตนเองก็ไม่แน่ใจ ก็ยังสงสัย แต่ในมุมตนเองมองว่าถ้าตนเป็นผู้หญิงในวงจรปิดตนเองก็หนีเพราะกลัว ตกใจเพราะไม่ใช่เมียคนตายด้วย

653687

ล่าสุด ทีมข่าวได้รับรายงานว่านายกลม สามีสาวต้องสงสัย ถูกเรียกมาสอบปากคำที่ สภ.บางพลี นายกลม เปิดเผยว่า เมื่อวานก็อยู่กับนางสาวอ้วน และแยกกันไปทำงานตอน 09.00 น. กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ภรรยาโทรศัพท์บอกว่าน้าเชียร ผู้ตาย เสียแล้ว ตนเองก็ยังพูดว่าหลอกรึป่าว เพราะคิดว่าภรรยาโทรมาหยอกเล่น ไม่รู้ว่าภรรยาไปกับผู้ตายหรือไม่ ต่อมาช่วง 17.00 น. น้าตนก็บอกว่าน้าเชียรเสียแล้ว ก็เลยตกใจ และไม่ได้เอะใจ

133695

จากนั้นนางสาวอ้วนกลับเข้ามาตอน 20.00 น. ก็ปกติดี และไม่คุยหรือสอบถามอะไรกัน พอช่วงเช้าเจ้าหน้าตำรวจมาก็ยังงง แต่ก็ให้ความร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่ เพราะตนไม่รู้เรื่องอะไร นอกจากนี้ การที่ภรรยาตนกลายเป็นบุคคลต้องสงสัย จุดนี้ต้องถามภรรยาเองว่าเหตุเป็นอย่างไร ทั้งคู่ไปทำอะไร และตนเองก็ยังไม่ได้คิดอะไร เพราะน้าเชียรมีโรคประจำ ดังนั้นเรื่องการตายภรรยาก็น่าจะบริสุทธิ์ใจ ตนเชื่อว่าภรรยาไม่ใช่คนใจร้าย ส่วนก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่าภรรยากับน้าเชียรมีสัมพันธ์อะไรกัน แต่ก่อนหน้านี้ตนกับน้าเชียรรู้จักกันดี ไปไหนก็ไปกันโดยมีภรรยาตนไปด้วย "สำหรับใจลึก ๆ ก็พูดไม่ออก และได้เตรียมใจ พร้อมตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเอายังไงกับภรรยาต่อไป ตอนนี้เสียใจไม่น้อย"

792932

ล่าสุดตำรวจได้ควบคุมตัวนางสาวอ้วน มาสอบปากคำนานกว่า 3 ชม. โดยระหว่างที่ทีมข่าวสัมภาษณ์สามีนางสาวอ้วน ก็ออกมาจากห้องสอบสวน และรีบวิ่งหนีทีมข่าวไปเรียกวินจักรยานยนต์

509457

ทีมข่าวพยายามวิ่งตาม และสอบถามถึงความสัมพันธ์กับผู้ตาย นางสาวอ้วน ยอมรับว่าแค่คนรู้จักกัน วันเกิดเหตุไปกินข้าวด้วยกันที่โรงแรม ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นวินจักรยานยนต์ออกไปทันที

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส