ยายเดือดหลาน 7 ขวบถูกพ่อเลี้ยงตีหน้าปูด แม่ป้องผัวใหม่ ญาติฝั่งพ่อขอเลี้ยงเอง (คลิป)

14 ก.ค. 64

จากกรณีการเผยแพร่วิดีโอไลฟ์เฟซบุ๊ก ขณะที่เด็กชายวัย 7 ขวบ สวมเสื้อสีแดง กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล หน้าบวมซ้ำดวงตาปูดบวม และฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง โดยระบุว่า พ่อเลี้ยงทำร้ายเด็กสาหัส และในคลิปนั้นพบเด็กยังอยู่ในอาการหวาดกลัวและร้องไห้ ก่อนที่ผู้โพสต์พยายามปลอบเด็กว่า "ไม่ต้องกลัวพี่มาช่วยแล้ว" จากนั้น ผู้โพสต์มีการกล่าวประชาสัมพันธ์ตามหาญาติเด็ก

340127

สืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่มีการแจ้งประสานไปยังอาสาสมัครร่วมกตัญญู และตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ว่ามีชายคลุ้มคลั่งทำร้ายร่ายกายเด็กชาย ก่อนมีการเข้าตรวจสอบเหตุ บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบชาวบ้านได้ช่วยกันรุมจับตัวชายก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายจีระศักดิ์ กล่ำมะณี อายุ 25 ปี ตำรวจได้ควบคุมตัวมาที่หน่วยบริการประชาชน ต.สวนหลวง เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้ในที่เกิดเหตุอีกสักพักอาจจะถูกรุมประชาทัณฑ์ได้ ก่อนมีการควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก

812766

ขณะที่ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายคือเด็กชายสตางค์ (นามสมมติ) อายุ 7 ปี ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยมียายของเด็กตามไปดูแล

268438

ล่าสุด วันที่ 14 ก.ค. 64 นายประเสริฐ ภู่ยอดยิ่ง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสวนหลวง หรืออาสาสมัครร่วมกตัญญู จุดธรรมศาลา 10 เป็นหนึ่งในอาสาที่รุดเข้าช่วยเหลือเด็กชายสตางค์ อายุ 7 ปี วันนี้เดินทางมาที่ รพ.กระทุ่มแบน เพื่อเยี่ยมเด็ก ปรากฏว่า รพ. ยังไม่ให้เข้าเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จากนั้นนายประเสริฐได้พบกับนางมณีวรรณ ยายเด็ก ก่อนพูดคุยกันถึงแนวทางการช่วยเหลือในเบื้องต้น

517341

นายประเสริฐ เปิดเผยว่า จุดนี้เป็นพื้นที่ดูแลของตนมีเหตุอะไรชาวบ้านจะโทรแจ้งตนตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านโทรแจ้งว่าเด็กถูกทำร้าย แต่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยินเสียงเด็กถูกทุบตี ร้องไห้อยู่ในห้องบ่อยครั้งมาก เมื่อตนเองไปถึงเห็นสภาพเด็กก็รับไม่ได้ จึงประสานคนในพื้นที่ และสามารถช่วยกันตามหาพ่อเลี้ยงเด็กจนเจอ

ส่วนสาเหตุที่ไลฟ์ เจตนาคือต้องหาตามหาญาติของเด็ก และไม่ต้องการให้เด็กอยู่ในการดูแลของคู่ผัวเมียนี้แล้ว อีกทั้งจากสภาพร่างกายเด็กบ่งบอกได้ว่าถ้าเด็กยังอยู่ตรงนั้น วันต่อไปต้องเป็นแบบนี้อีก ตนเองจึงขอบคุณชาวโซเชียลมาก ๆ ที่ช่วยกัน สำหรับภาพรวมในตอนนี้มีทั้งผู้ใหญ่ในจังหวัด และผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนยื่นมือมาช่วยเหลือเด็กเป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้ ตนเองยืนยันตามไลฟ์ที่ทุกคนเห็นคือแม่เด็กไม่มีการปลอบเด็ก หรือหันมองมาดูลูกเลย ภาพที่เห็นคือคุยกันแต่กับตัวพ่อเลี้ยง และจับมือสามี อีกทั้งตนถามอะไรคู่ผัวเมียก็ไม่ตอบอ เป็นภาพที่รับไม่ได้ และการคุยกับยายเด็กก็เสียใจ ยายก็รับปากแล้วว่าจะรับดูแลเด็กต่อไป

439123

ขณะที่นางมณีวรรณ (นามสมมติ) อายุ 66 ปี ยายของเด็ก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวยอมรับว่ามีการตีลูกปกติ เวลาลูกดื้อ แต่ไม่ได้รุนแรง ซึ่งตนก็รู้แค่นี้ เพราะหลัง ๆ ลูกสาวพาหลานมาอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และตนก็เดินทางไม่เป็น จึงได้แต่โทรศัพท์พูดคุยกับหลาน หลานก็ปกติดี และไม่เคยบอกว่าถูกตี อีกทั้งจากการติดตามทางโซเชียลก็เห็นว่าหลานได้ไปเที่ยว ก็ดูมีความสุขดี

960748

ส่วนความสัมพันธ์ลูกสาวกับสามีใหม่ตนเองไม่เคยรู้ว่าไปเจอกันอย่างไร อีกอย่างทั้งคู่คบกันเองโดยที่ฝ่ายชายไม่เคยมาบอกกล่าวหรือทำพิธีอะไร ทุกครั้งที่เจอฝ่ายชายก็แค่ยกมือไหว้สวัสดี จึงไม่รู้ว่านิสัยเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องยาเสพติดตนเคยถามลูกสาว เพราะทางย่ามักฝากความห่วงใยมาบ่อย ๆ เพราะเห็นผู้ชายมีรอยสัก และดูลักษณะแล้วไม่ค่อยเข้าตา แต่ลูกสาวยืนยันว่าไม่เคยเห็นว่าสามีใหม่เสพยาเสพติด ทั้งนี้ จากการพยายามพูดคุยกับลูกสาวตลอดทั้งคืน ลูกไม่ยอมคุย ยังนิ่งเฉย ตนจึงอ่านใจไม่ออก จึงพูดคำสุดท้ายกับลูกไปว่า "ถ้าอ้อยรักเขา อ้อยก็รอเขา ส่วนแม่ก็อย่าเจอกัน ขอตัดขาด ไม่ต้องมาเรียกแม่" แล้วลูกสาวก็เอาแต่ร้องไห้ สำหรับตนมองว่าคนที่ทำหลานมันชั่ว ตนขอเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด

151505

นายสมหมาย (นามสมมติ) อายุ 61 ปี ลุงของพ่อเด็ก เปิดเผยว่า ปู่ ย่า เด็กจริง ๆ มาไม่ได้ ติดสถานการณ์โควิด-19 ตนเองจึงอาสามาดูหลาน เพราะที่ผ่านมารักและเอ็นดูหลานมาตั้งเด็กหลานเกิด ยอมรับว่าทราบข่าวหลานโดนทำร้าย ตนร้องไห้และรีบมาหาหลานตั้งแต่เมื่อคืน เห็นหลานกำลังนอนหลับในสภาพหน้าตาบวม ก็น้ำตาไหล

435479

ส่วนแม่หลาน ตนเองบอกไปแล้วว่าจะไปอยู่กับลูกก็ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแก้ไขได้ และปู่ย่ายืนยันว่าดูแลหลานได้ อีกทั้งคดีนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี จะมานั่งรอผัว ตนบอกว่ารอไม่ได้หรอก ต้องกลับตัวกลับใจเพื่อลูกได้แล้ว ตนเองพูดไปเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าแม่หลานจะรับฟังหรือไม่ "ยืนยันจะดำเนินคดีกับคนก่อเหตุถึงที่สุด ไม่ยอมเด็ดขาด ใครทำกรรมอะไรก็รับกรรมไป ให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย ตนไม่ขอพูดซ้ำเติม"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส