จากกรณี เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 7 ก.ค. 64 ร.ต.อ.เจนณรงค์ ละครรัมย์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองกรับ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยองจุดบ้านค่ายว่า มีศพลอยในสระน้ำวัดละหารไร่ (หลวงปู่ทิม) ขอให้ไปตรวจสอบ
บริเวณสระน้ำวัดละหารไร่ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำเรือออกไปยังกลางสระฝั่งทิศตะวันออก เพื่อนำศพมาขึ้นฝั่ง สภาพศพขึ้นอืด เหลือแต่กะโหลก โครงกระดูกติดหนัง สภาพศพไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร
จากการชันสูตรในเบื้องต้น ผู้ตายเนื้อตัวเปื่อยยุ่ย กะโหลกยังสมบูรณ์ ที่เอวสวมตะกรุด และปลัดขิกสีดำ สภาพศพมีความสูงประมาณ 170 ซม. เป็นผู้ชาย ยังไม่ทราบสาเหตุการตาย จึงส่งศพตรวจพิสูจน์หาสาเหตุตรวจดีเอ็นเอที่ รพ.ตำรวจ และรอการตรวจสอบว่ามีใครมาแจ้งคนหายในพื้นที่หรือไม่
ล่าสุด วันที่ 8 ก.ค.64 ทีมข่าวเดินทางมาที่สระน้ำวัดละหารไร่ ห่างจากหน้าวัด 2 กม. พบสระน้ำดังกล่าวมีความยาว 500 เมตร กว้าง 80 เมตร ลึก 80 น้ำเป็นสีเขียวมรกต รอบสระมีรั้วรอบขอบชิด ความสูงด้านในกว่า 5 เมตร ส่วนความสูงด้านนอนเพียง 2 เมตร สามารถปีนขึ้นได้ แต่มีทางเข้าและเชิงบันไดลงสระเพียงทางเดียวคือฝั่งทิศตะวันตก
ล่าสุด ในจังหวัดระยอง มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ตามหาคนหายแถววัดละหารไร่ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64 โดยระบุว่า ตามหานายแดง ศักดา รินทร์รักสงวนชื่อ มา 2 วันแล้ว หายไปตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 64 และมีการโพสต์เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 64 และเพจข่าวในจังหวัดระยองมีการลงข้อมูลช่วยกันตามหา โดยมีผู้แชร์ตามหาเป็นจำนวนมาก
ทีมข่าวสำรวจเชิงบันได ยังคงมีกลิ่นสาบ และเดินวนไปทางทิศตะวันออกจุดที่พบศพ ยังมีรอยคาบน้ำมันจากศพอยู่ในน้ำเป็นเวิ้งริมขอบสระ นายธีระศักดิ์ ถนอมพจน์ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศล จุดบ้านค่าย อาสาพายเรือกู้ศพ เปิดเผยว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบมีทางลงเพียงทางเดียว โดยรอบทางชันหมดเลย แต่ถ้าด้านนอกสามารถปีนได้
โดยการกู้ศพขึ้นมาคือต้องพายเรือไปจุดที่ศพลอย พบศพนอนหงายตัวพบห้อยไปด้านหลัง มีการสวมเสื้อคอปกสีดำ สวมถุงเท้าหุ้มข้อปกติ แต่ไม่เห็นกางเกง พบสายคาดตะกรุด สภาพศพเนื้อยุ่ย หัวยังเหลือกระโหลก ส่วนตัวเหลือแต่โครงกระดูกเนื้อแผนหลัง และเส้นเอ็นยังอยู่ เหลือมือข้างขวา และส่วนเบ้าล่างก็ยุ่ย ขาและเข่ายังอยู่ครบ และในร่างกายไม่เหลือเครื่องในแล้ว ไม่สามารถใช้เชือกลากศพได้ จึงต้องใช้ผ้าขาวห่อดึงไว้ข้างเรือมาถึงฝั่งก็ใช้เปลบอร์ดยกขึ้น
ทั้งนี้ จากประสบการณ์มองว่าเคสนี้ตายมาประมาณ 7 วัน คาดว่าถูกปลาตัวใหญ่ในสระตอดกินไปบ้าง และยังสงสัยว่าถูกใครทำให้ตายหรือไม่ ส่วนตัวปฏิบัติหน้าที่มาในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเจอศพแบบนี้ การแจ้งสูญหายกู้ภัยก็ไม่ทราบมาก่อน ซึ่งหากใครตามหาญาติอยู่ให้ลองไปติดต่อตรวจสอบที่ รพ.บ้านค่าย ไว้ก่อน
ขณะที่นายอนุชา แสงอรุณ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศล จุดบ้านค่าย อาสาที่สมทบกู้ศพ เปิดเผยว่า คนพบศพคนแรกคือคนตัดหญ้าในวัด ที่ตัดหญ้าอยู่ข้าง ๆ รั้ว และได้กลิ่นสาบเน่า เช่นเดียวกับตอนที่ตนเองมาถึง และพบศพก็มีแต่หนอนเต็มตัวแล้ว
นายปราโมทย์ เจริญประโยชน์ หัวหน้าคนงานตัดหญ้า เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด ขึ้นลงได้ทางเดียว ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนที่มาทำบุญส่วนใหญ่อยู่ในโซนกราบไหว้หลวงปู่ทิม ไม่มีคนเดินไปย่านนั้น เพราะระยะทางไกล อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ว่าจ้างคนงานเข้าไปตัดหญ้ากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ล่าสุด 2-3 วันที่ผ่านว่า เจ้าอาวาสได้จ้างให้คนงานมาตัดหญ้า และเวลาประมาณ 11.00 น. ของเมื่อวานนี้ คนงานโทรมาหาตน บอกเห็นลอยอืดในน้ำ ตนเองย้ำให้คนงานไปดูอีกที คนงานก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นศพ ตนจึงประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ให้เข้าพื้นที่ และประสานกู้ภัยกับตำรวจ
สำหรับวัดในช่วง 1 เดือน ไม่มีใครมาตามหาคนหายในวัด และในวัดก็ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ผิดปกติ ทุกอย่างสงบดี ตนยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนมาตายในสระน้ำได้อย่างไร ทั้งที่เป็นสระน้ำนี้เป็นแอ่งกระทะลึกทำไว้ใช้รดน้ำต้นไม้ และวัดยังมีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ อยู่ก็จะใช้น้ำในบ่อแทน ส่วนงานในวัดอยู่ครบไม่มีใครหายไปไหน
ทีมข่าวทราบว่าผู้สูญหาย ทำงานอยู่ที่บริษัทแอร์ใน อ.นิคมพัฒนา นายนันทวัน (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เพื่อนร่วมงานผู้สูญหาย เล่าว่า ตนเองเห็นนายแดงครั้งสุดท้าย วันที่ 1 มิ.ย. วันนั้นได้เข้ามาที่ร้าน แจ้งกับเจ้าของร้านว่าอยากจะขอกลับบ้าน แต่จะแวะทำบุญที่วัดละหารไร่ก่อน และมีการเบิกเงินกับเจ้าของร้านไปประมาณ 2,000-3,000 บาท แต่งกายสวมเสื้อยืดสีกรมท่า กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แต่ใส่ถุงเท้า เป็นชุดที่นายแดงแต่งมาทำงานตามปกติ
ส่วนเรื่องตะกรุดใส่หรือไม่นั้น ตนเองไม่ค่อยได้สังเกต แต่หลังมีข่าวเกิดขึ้นว่าพบศพชายอยู่ในน้ำหลังวัด ร่างกายสวมใส่ตะกรุด ในส่วนของเพื่อนร่วมงานมีการพูดคุยกันว่าเคยเห็นนายแดงใส่ตะกรุด บางคนก็บอกว่าคล้องปลัดคิกที่เอวด้วย เนื่องด้วยนายแดงไม่ภรรยาใช้ชีวิตคนเดียว แต่นิสัยเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวเป็นประจำ วันไหนกินน้อยก็สามารถทำงานได้ตามปกติ วันไหนกินมาก เมามากเจ้าของร้านก็จะให้หยุดพัก ซึ่งนายแดงเองก็จะกลับไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของคนงาน ห่างจากร้าน 2 กิโลเมตร
ซึ่งก่อนหน้านายแดง มักประสบศพอุบัติเหตุเดินล้มหัวทิ้ม และหัวทิ่มบ่อก็มี แต่เพื่อนร่วมงานไปเจอก็ช่วยได้ บางวันขับรถจักรยานยนต์ล้ม เดินเมาตกคลอง กู้ภัยไปเจอนำกลับมาส่งที่ร้านก็ยังมี อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นายแดงหายไป ทางร้านได้ออกตามหาอยู่ตลอด มีการแจ้งไปยังครอบครัวนายแดงให้ดำเนินการเรื่องคนหาย แต่ทางครอบครัวก็ยังไม่มาดำเนินการ จนเมื่อวานมีการพบศพคนที่หลังวัด ทางเจ้าของร้านจึงมีการประสานแม่ของนายแดงมาดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ ตนเองยังคงมีความหวังว่าจะเจอนายแดง เพราะแม้ว่านายแดงจะชอบดื่มเหล้า แต่นายแดงก็เป็นคนดีขยันทำงาน ไม่เคยมีปัญหากับใคร จึงไม่ห่วงว่าจะถูกคนทำร้าย แต่เรื่องที่ห่วงคือกลัวไปตกน้ำ
ล่าสุด ทีมข่าวสอบถาม นางสง่า แม่ของผู้สูญหายผ่านทางโทรศัพท์ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 1-4 มิ.ย. 64 จำไม่ได้ว่าวันไหนได้คุยกับลูกครั้งสุดท้าย ลูกบอกว่าจะกลับบ้าน แต่จะไปทำบุญที่วัดละหารไร่ก่อน จะไปรดน้ำมนต์ ถวายสังฆทาน เพราะมีคนตามฆ่า ซึ่งตนนิสัยลูกดี คือลูกติดเหล้าหนัก ดื่มเดือนละ 29 วัน แต่เรื่องเงินไม่ขาด ตนขอ 4,000-5,000 ลูกก็มีให้ตลอด แต่เมื่อกินเหล้าที่ไรมักจะเพี้ยนหลอน อีกอย่างตนไม่มีความหวังแล้วด้วยว่าลูกจะมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้ไร้เงาลูก เพื่อน ๆ ลูกก็ไม่มีเบาะแส
