นายอำเภอ กลั้นน้ำตาไม่ไหว รุดช่วย 4 แม่เฒ่าให้มีที่อยู่ หลังหลานชายนำบ้านไปค้ำประกันเอาไปทำงานต่างประเทศ แต่ถูกหลอกกลับมาไม่มีเงินเหลือพอจะส่ง จึงถูกยึด
จากกรณีแม่เฒ่า 4 คน อายุไล่เรียงกัน ตั้งแต่ 94 ปี 82 ปี 80 ปี 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม. 4 ต.สาม เรือน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ ใต้ถุนสูง ปลูกบนพื้นที่ 3 งานเศษ นั่งร้องไห้วอนขอความช่วยเหลือ ช่วยเจรจาให้เจ้าหนี้ใจอ่อนขายบ้านคืน สาเหตุจากหลานชายนำไปค้ำประกันเงินกู้เพื่อไปทำงานที่ไต้หวัน และไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนเจ้าหนี้ได้นั้น
ล่าสุดนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง พร้อมยุติธรรมจังหวัดสุโขทัย และเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดี ลงพื้นที่สอบถามและให้คำแนะนำ พร้อมยืนยันว่าจะช่วยดำเนินการให้แม่เฒ่าทั้ง 4 คน มีที่อยู่ และกล่าวด้วยความสะเทือนใจว่าในกระบวนการทางกฎหมายดำเนินการไปเสร็จแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง และสะเทือนใจผู้พบเห็น โดยต้องดูว่าผู้ที่ซื้อไปแล้วจะขายบ้านและที่ดินคืนให้หรือไม่ ซึ่งราคาที่ซื้อไปนั้นถูกมาก ถือเป็นกรณีตัวอย่างไม่อยากให้เกิดกับปู่ย่าตายายแบบนี้ ยาย 4 คนทำกินไม่ได้แล้ว จะอยู่อย่างไร จังหวัดจะไม่ย้อนกลับไปดูเรื่องที่ตัดสินไปแล้ว แต่จะเดินหน้าแก้ไขและหาทางช่วยแม่เฒ่าทั้ง 4 คนถึงที่สุด พร้อมนำถุงยังชีพจากกิ่งกาชาดอำเภอศรีสำโรง มามอบให้แม่เฒ่าทั้ง 4 เพื่อเป็นกำลังใจในเบื้องต้น
ทางด้านนายสมศักดิ์ โตจริง อายุ 49 ปี หลานชายที่นำที่ดินไปจำนองเพื่อขอกู้เงินหวังไปทำงานต่างประเทศอนาคตจะที่ขึ้น แต่พอได้ไปทำงานก็ถูกหลอกกลับมาไม่มีเงินเหลือพอจะส่ง แถมเป็นหนี้สินเพิ่มเติม ปัจจุบันทำงานรับจ้างอยู่จังหวัดระยอง และในวันนี้ตนก็ทำได้เพียงกลับบ้านมาช่วยแม่ ยาย น้าเก็บของออกจากบ้าน มาเช่าบ้านอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน โดยแบ่งเป็นสองหลัง ซึ่งยายและน้าๆ ต้องแยกกันอยู่ ซึ่งทั้ง 4 คนไม่เคยแยกกันอยู่เลย ไม่รู้สภาพจิตใจยายและน้าจะรับได้ไหม เรื่องหนี้สินนั้นตัวเองก็เสียใจที่เป็นต้นเหตุ แต่ที่ผ่านมาก็ได้ไปขอไกล่เกลี่ยและใช้ไปบางส่วนแล้ว แต่ก็หาเงินมาคืนเจ้าหนี้ได้ไม่หมด เห็นยายเป็นแบบนี้ก็ร้องไห้ทุกวัน ปัจจุบันก็หาเช้ากินค่ำ ลูกตัวเองก็พิการ ตอนนี้อยู่กับภรรยาที่ระยอง และความหวังสุดท้ายวอนขอความเมตตา อยากได้ที่อยู่อาศัยคืน ให้แม่แก่ ให้น้า ได้มีที่อยู่อาศัยคืน ได้กินข้าวหม้อเดียวกัน บ้านเดียวกันเหมือน 50 ปีที่ผ่านมา
