คดีพลิก! มือยิงเสี่ยรับเหมาที่แท้พ่อตาจ้างฆ่าฉุนตีลูก เมียปัดร่วมก๊วน แม่ผัวคาใจสะใภ้ไม่ติดต่อ (คลิป)

กรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 64 เวลาประมาณ 21.08 น. มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืน ขนาด.380 มม. สังหารโหดยิงนายประยูญ อุดนัน อายุ 42 ปี เสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข จ.น่าน ซึ่งคือเจ้าของบ้านมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาติดฝ้าเพดาน

ล่าสุด วันที่ 12 มิ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และภูธรจังหวัดน่าน ระบุว่าศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคือ นายมี สอนสมฤทธิ์ อายุ 67 ปี พ่อตาของผู้ตาย และนายอดุลย์ คำเหมย อายุ 56 ปี มือปืน พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องโดยกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ พบว่าผู้ตายมักทะเลาะทุบตี นางวรรณชลี สอนสมฤทธิ์ ภรรยาของผู้ตายบ่อยครั้ง ทำให้นายมี พ่อภรรยาไม่พอใจ และโกรธเคือง โดยกลางเดือนพฤษภาคม 2564 จึงติดต่อนายหนอง มหายศ ให้ติดต่อหาเบอร์โทรศัพท์นายอดุลย์ มือปืน

จากนั้นในวันที่ 30 พ.ค. นายมีจึงว่างจ้างนายอดุลย์ ให้ไปยิงนายประยูร ผู้ตาย คาสำรับกับข้าว 3-4 นัด ก่อนผู้ตายวิ่งหนีจึงยิงซ้ำที่หัวดับคาหน้าบ้าน จากนั้นได้หลบหนีไป

โดยวันที่ 11 มิ.ย. 64 ตำรวจชุดเฉพาะกิจได้บุกขนำกลางไร่ข้าวโพด เพื่อจับนายอดุลย์ มือยิง แต่พอมือยิงเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระโดนหนี เจ้าหน้าที่รู้ทางล้อมไว้หมดจึงจับได้ แค่เจ้าตัวยังปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นไม่รู้จักกับนายมี ตำรวจจึงนำทั้งคู่คุมสอบสวนตลอดทั้งวัน ก่อนนำส่งศาลฝากขัง และศาลค้านประกันตัว

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ นางคำน่าน (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ภรรยานายมี ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า นางวรรณชลี ภรรยาผู้ตายออกไปส่งคนงานทำฝ้าในตัวเมือง แต่ช่วงที่ผ่านนางวรรณชลีก็อยู่ในอากโศกเศร้ามาโดยตลอด และเมื่อวานวันที่ 11 มิ.ย. ตำรวจก็มาเรียกทั้งสามีและลูกสาวไปสอบ ปรากฎว่าลูกสาวกลับบ้านมาคนเดียว และทราบคำตอบว่าสามีถูกคุมตัว เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าลูกเขย

ซึ่งตนเองไม่เชื่อ 100% ว่าสามีจะจ้างวานฆ่า เพราะที่ผ่านมาแม้ลูก ๆ ทะเลาะกัน แต่สามีก็ได้แค่ดุด่า และรักใคร่ลูกเขยเป็นอย่างดี แต่มีช่วง 2-3 สัปดาห์ก็เห็นว่าลูกไม่ทะเลาะกันแล้ว ตนและสามีก็ดีใจ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ว่าสามีจะเกี่ยวข้อง อีกทั้งตนเองอาศัยอยู่กับสามีตลอด สามีไม่มีท่าทีพิรุธเลย อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าสามีจะต่อสู้ในชั้นศาล ตนเองก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้สามีสู้

ล่าสุด นางวรรณชลี หรือ นก สอนสมฤทธิ์ ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดทำตนเองสับสน เพราะวันเกินเหตุตอนที่นั่งอยู่กับหลานก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไฟในบ้านเปิดสว่างทุกดวง ประตูหน้าบ้านก็เปิดโล่ง ซึ่งพอไปเข้าห้องน้ำครู่เดียวยังได้ยินเสียงสามีบอกว่า "แม่เปิดเพลงได้ไหม" ตนเองยังตะโกนบอกสามีว่า "เปิดก็เปิดเลยแต่อย่าเสียงดังนะ" สามียังบอกว่า "ครับแม่" แต่ก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวดังจากไหนไม่รู้ และวิ่งออกจากห้องมายืนดูพยายามตะโกนเรียกและมองหาสามีแต่ไม่พบ จึงเดินออกมาหน้าระเบียง จนหันไปเห็นขาสามีโผล่จากหน้าบ้าน วิ่งไปดูสามีก็นอนจมกองเลือดแล้ว

ส่วนปมที่ขัดแย้งกับสามี ยอมรับมีจริงตามประสาสามีภรรยากัน แต่เรื่องราวไม่ได้ใหญ่โต ทะเลาะไม่นานก็คืนดีกัน ผลัดกันง้อ ส่วนชีวิตสามีก็ทำงาน เลิกงานก็ดื่มเหล้า กลับบ้านกินข้าวแล้วก็นอน ขณะที่ทำงานมีขัดแย้งกับคนงานบ้าน แต่เป็นการมีปากเสียงกันธรรมดา ไม่ใช่เรื่องใหญ่จึงทำให้ตนเองคิดไม่ออกว่าใครเป็นคนฆ่าสามี ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงปืนมาจากในบ้าน ตนเองยืนยันว่าถ้าเสียงปืนมาจากในบ้านตนเองต้องเห็นตัวคน แต่ตอนนี้ไม่เห็นใครเลย ไปเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ยินเสียงรถหรือเสียงใครเข้ามาบ้าน

ด้านพ่อตนเองกับสามีก็ไม่เคยมีปากเสียงกัน ทุกครั้งที่พ่อมาหาที่บ้านส่วนใหญ่จะเดินมาตามหลานชายลูกน้องสาว และจะถามไถ่แค่ว่ากินข้าวหรือยัง และไม่สุงสิงกับสามีหรือมีปากเสียงด้วยซ้ำ เพราะพ่อถือว่าต่างคนต่างอยู่ แต่หากพ่อจะเครียดเก็บกดที่เห็นลูกทะเลาะ พ่อต้องพูดต้องบอกไม่มีทางที่จะเก็บไว้ ดังนั้นยืนยันว่าพ่อบริสุทธิ์ ไม่มีทางจ้างวานฆ่าสามีแน่นนอน สำหรับเรื่องฮุบกิจการ ก็เช่นเดียวกัน อยากถามว่าตนจะฮุบเอาอะไร งานสามีก็มีน้อยนิด ตนเองก็ทำไม่เป็นด้วยซ้ำ ดังนั้นสามีถือเป็นเสาหลักของบ้าน แถมยังช่วยส่งเสียลูกชายกับผัวตนเองอายุ 18 ปีให้ด้วย ต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้เลย

ขณะเดียวกันจากการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ มีนายหนอง มหายศ อายุ 62 ปี ต้องเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะมีความเกี่ยวข้องในการติดต่อประสานงานหาเบอร์นายอดุลย์ ด้านนางสาวมีนา (นามสมมติ) อายุ 30 ปี หลานของนายหนอง เปิดเผยว่า ลุงตนเองเป็นคนทำงาน ทำไร่ทำนา ไม่มีรู้ว่านายมีให้ติดต่อนายอดุลย์ ไม่ฆ่าใคร เชื่อว่าลุงแค่เข้าใจว่าติดต่อให้ไปทำไร่ทำนา พร้อมย้ว่าำที่ตนเองเชื่อมั่นในตัวลุงเพราะไม่มีประวัติด้านนี้ ลุงเป็นคนดี วันเกิดเหตุ ตนเองซึ่งได้นั่งอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุกับภรรยาคนตายก่อนด้วย แต่ด้วยช่วงนั้นโทรศัพท์เหลือแค่ 12% ประกอบเจอผู้ตายขับรถเข้าบ้านพอดี จึงได้บอกผู้ตายว่าขอไปเอาที่ชาร์จแบต จึงเดินกลับมาบ้านห่างบ้านเกิดเหตุแค่ 100 เมตร จากนั้นตนเองได้แวะเข้าห้องน้ำบ้านย่าห่างจากบ้านเกิดเหตุแค่ 20 เมตร เข้าไปแค่ 1 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัดออกมาจากตัวบ้าน จนได้ยินเสียงแม่ตนเองบอกว่าลูกตายแล้ว

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองมีความสงสัยอยู่ในใจ และรู้ดีว่าครอบครัวภรรยาคนตายเป็นคนอย่างไร และยืนยันว่าได้ยินเสียงปืนออกจากในบ้านแน่นอน ส่วนใครยิงนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์

นางทา อุดนัน อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานทราบข่าวจากตำรวจว่าจับคนร้ายได้ ตนเองดีใจมาก สมกับการที่นอนไม่หลับมาหลานวัน ได้แต่บอกดวงวิญญาณลูก และภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยจับคนร้ายให้ได้ แต่เมื่อช่วงเข้าที่ผ่านมาก็ได้รับข่าวไม่ดีว่าคนร้ายไม่รับสารภาพ ใจตนเองก็ไม่ดี เพราะตำรวจบอกว่าต้องสืบพยานใช้เวลาเป็นปี จึงกังวลว่าคดีจะหลุด สำหรับที่ผ่านมาตนเองไม่อาจสงสัยใครได้ แม้วันที่ลูกชายทะเลาะกับภรรยาและเจ็บตัวกับมาบ้าน ลูกชายบอกตนเองครั้งหนึ่งว่า "เมียมันจะฮุบงาน" ตอนนั้นตนเองก็ได้แต่สงสัย และถามลูกว่า "จะฮุบยังไง เมียเป็นผู้หญิง" แต่ลูกก็ไม่ได้บอกอะไรต่ออีก

กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น ภรรยาลูกชายก็มาแค่ร่วมสวดพระอภิธรรมศพและก็กลับไป ทำนองเหมือนแขกคนหนึ่ง งานศพต่าง ๆ ไม่ได้มาช่วยจัดแจงหรือช่วยอะไรเลย จากนั้นหลังวันงานภรรยาลูกก็มาแค่ครึ่งวัน เอาลูกน้องมาตีฝ้าบ้านหลังน้อยที่ทำพีธีให้ลูกชาย ซึ่งเป็นความเชื่อชาวภาคเหนือว่าต้องสร้างบ้านให้คนตายได้อยู่ ขณะเดียวกันจากการสังเกตเห็นภรรยาลูกชายก็ไม่ได้มีอาการโศกเศร้าเสียใจใด ๆ เลย