หนุ่มซวยขี้ยาซัดทอดถูกหิ้วตรวจฉี่เมียโหนรถขวางตร. ญาติผู้ต้องหาเสียใจทำวุ่น (คลิป)

10 มิ.ย. 64

จากกรณี เพจเฟซบุ๊กสำนักข่าวตาสวรรค์ เพื่อความปลอดภัย และร้องทุกข์ สืบสวน โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความ "ตำรวจเข้าไปในบ้านโดยไม่มีหมายค้น และหมายจับ แล้วจับกุมใส่กุญแจมือพาตัวตัวไป โดยแจ้งเพียงว่าเป็นผู้เสพยา ..พาไปตรวจฉี่ที่โรงพักไม่พบว่ามีสีม่วงหรือเสพยา..แล้วปล่อยให้กลับบ้าน" โดยเหตุเกิดในพื้นที่ อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิปเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าไปจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดจำนวน 2 ราย และมีการซัดทอดมาถึงหนุ่มที่อยู่ในคลิปนั้น

685789828032

วันที่ 10 มิ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 9 ต.รังงาม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ ลักษณะเป็นบ้านพักชั้นเดียวสอง คูหา ขณะที่ลงพื้นที่พบว่าบ้านหลังดังกล่าวปิดสนิท ไม่มีใครอยู่

174531

นางสาวสวรรค์ ขึ้นกันกง อายุ 53 ปี ญาติพี่น้องของหนุ่มที่ถูกจับตามในคลิป เปิดเผยว่า บ้านที่เกิดเหตุอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน พ่อแม่ลูก คือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี หนุ่มที่ถูกจับตามในคลิป ภรรยา และลูกชาย อายุ 3 ปี เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 9.00 น. เจ้าหน้าที่จำนวน 4 คนได้ขี่รถกระบะมาที่หน้าบ้าน และลงมาจากรถ ก่อนจะเข้ามากระชากลากแขนนายเอที่นอนอยู่บ้าน และพาขึ้นรถแต่ไม่ได้ใส่กุญแจมือ เพราะนายเอไม่ได้ยินยอม ตนอยู่ใกล้จึงพยายามเข้าไปช่วยห้าม และร้องถามว่า "จะเอาไปไหน หมายค้นอยู่ที่ไหน" เพราะเจ้าหน้าที่ไม่แสดงหมายศาลหรือบัตรประจำตัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้คำตอบ และขับรถออกไป

879560

จากนั้น ภรรยารวมถึงหลาน ๆ ได้ช่วยกันเกาะรถ ส่วนตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไป เพราะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่จึงโทรตามกำลังเสริมให้เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ก่อนจะพากันไปที่สอบสวนที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พาทั้ง 3 คนเข้าไปสอบปากคำ และมีการตรวจปัสสาวะ แต่จากผลตรวจของนายเอไม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่เลยปล่อยตัวกลับบ้าน ส่วนญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ทั้งนี้ สาเหตุที่เข้าจับกุม เพราะมีการซัดทอด เจ้าหน้าที่เลยเข้ามาจับและขณะที่จับกุมไม่ได้มีการทำร้ายร่ายกายใคร ส่วนตัวไม่ทราบว่า นายเอเคยมีประวัติเรื่องยาเสพติดหรือไม่ เพราะต่างคนต่างทำงาน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมแบบนี้ ทำให้ตนรู้สึกตกใจ และอยากจะรู้เหตุผล เพราะน่าจะอธิบายกันดี ๆ ตั้งแต่ตอนแรก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกติดใจเพราะตนมองว่าทำเกินกว่าเหตุ ขนาดคนเกาะเต็มรถยังขับรถออกไปต่อ

217668

ด้าน พ.ต.อ.วิฑูลย์ ขุนบุญจันทร์ ผู้กำกับการ สภ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการเข้าจับกุมชายหนุ่มตามในคลิปที่ถูกเผยแพร่ เจ้าหน้าที่ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเป็นตำรวจชุดจับกุมยาเสพติด ร่วมกับภูธรจังหวัดชัยภูมิ โดยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุม 2 มีสารเสพติด 1 ราย จากนั้นทั้ง 2 คนได้ทำการซัดทอดไปถึงบุคคลที่ 3 คือนายเอ

140919

อย่างไรก็ตาม ภาพที่ออกมาตามโลกโซเชียล หลายคนคงจะมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตำรวจควรจะใช้ความละเอียดอ่อนกว่านั้น ทั้งนี้ อยากจะให้ทุกคน มองในอีกมุมหนึ่งว่าถ้ามีการยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี ภาพเหล่านี้คงจะไม่เกิด เพราะเจ้าหน้าที่คงจะไม่อยากใช้อำนาจโดยไม่ใช่เหตุ เพราะการที่อ้างอำนาจ โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วน เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอาจจะไม่คุ้มด้วยเหตุนี้จึงเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจใช้อำนาจนั้น

779207

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ หมู่ 1 ต.รังงาม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ จุดที่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดอีก 2 คนก่อนจะเกิดเหตุตามในคลิปขึ้น โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนชื่อ นายหมี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายเต้ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

นางสาวศิริพร พงษ์โอสถ อายุ 41 ปี น้าของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 07.00 น. นายหมี หลานชาย กำลังอาบน้ำอยู่ และเจ้าหน้าที่ได้เข้ามา พ่อแม่เลยไปเรียก กระทั่งอาบน้ำและแต่งตัวออกมาเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาล็อกตัวทันที แต่นายหมีไม่ได้ขัดขืน ซึ่งระหว่างที่จับกุม ตนสังเกตเห็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ได้คว้ามีดพกออกมาโชว์ แต่ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กุมตัวนายหมีออกไปจากบ้าน ก่อนจะขับรถกลับมาเอาหลักฐาน ซึ่งแอบไว้ในบ้านของนายหมี เป็นยาบ้า 5 เม็ด ที่แอบไว้ในกล่องโทรศัพท์ และทั้ง 2 คนได้มีการซัดทอดไปที่นายเอ หนุ่มที่ถูกจับตามในคลิปจนทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่า ทำไมทั้ง 2 คนถึงซัดทอดไปหานายเอ แต่เท่าที่ทราบทั้ง 2 คนนี้ไม่เคยมีประวัติเรื่องยาเสพติด ส่วนใหญ่จะดื่มเหล้า และเปิดเพลงเสียงดัง คาดว่าน่าจะซื้อมาเสพ เพราะอยากลอง โดยผลการสอบปากคำ และผลการตรวจสารเสพติด ทั้งคู่ให้ยอมรับสารภาพ ขณะนี้พ่อแม่กำลังเข้าไปทำเรื่องประกันตัวที่ศาลแล้ว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส