แม่ชีธุดงค์ข้ามจังหวัดสุดท้ายเป็นศพ ลูกร่ำไห้ตามหาร่วมเดือน จี้โชเฟอร์ตีนผีรับผิด (คลิป)

กรณีแม่ชีชื่อนางณัฐนิช แก้วชมภู อายุ 48 ปี ออกเดินธุดงถือศีลจากวัดอุบลรัตนาราม ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เพียงลำพัง โดยมุ่งหน้าไปน้ำตกโพนพิสัย จ.หนองคาย ทางญาติติดต่อไม่ได้จึงแจ้งความไว้ที่ลำปาง พบอีกทีเสียชีวิตข้างถนนสายเด่นชัย-อุตรดิตถ์

เมื่อเวลา 04.40 น. ของวันที่ 9 มิ.ย.64 ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุจุดทางโค้งข้างทางที่พบศพ พบเศษกระจกมองข้างรถโตโยต้าสีดำตกอยู่ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากการถูกรถยนต์เฉี่ยวชน เบื้องต้นสมาคมกู้ภัยเด่นชัยร่วมบุญ จึงนำร่างผู้เสียชีวิต นำส่งชันสูตรที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย

ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ อยู่ช่วงบริเวณทางโค้งไร่เกร็ดดาว ถนนสายเด่นชัย-อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นถนน 4 เลน เส้นทางคดโคงขึ้น-ลง เขา มีไฟส่องสว่างเว้นระยะห่าง 1 เมตร แต่เนื่องด้วยเป็นเส้นสวนลงมาและแม่ชีเดินสวนขึ้นไป เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของถนนธรรมชาติรถส่วนใหญ่ที่พบจะตีโค้งกินเลนซ้ายสุด จึงเป็นไปได้ว่ารถที่สัญจรลงมาในช่วงกลางคืน อาจจะมองไม่เห็นแม่ชีเดินขึ้นไป

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังพบร่องรอยเลือดของแม่ชีในที่เกิดเหตุ และเศษวัสดุกระจกแตกเต็มช่องทางที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นกระจกข้างรถ และริมถนนพบพังโคนหน้ารถสีบรอนซ์เงินตกอยู่

นายบี (นามสมมติ) ชาวบ้านที่พบเห็นแม่ชีเดินผ่านด่านตำรวจทางหลวงเด่นชัย ห่างจากจุดเกิดเหตุออกมา 7 กม. เล่าว่า ช่วงนั้นเป็นช่วง แวะเข้าห้องน้ำตรงด่านตรวจเวลาประมาณเกือบจะ 23.00 น. เห็นแม่ชีชุดขาวเดินผ่านลักษณะสวนเลน อยู่ในเส้นถนนเลนที่ 1 เกือบเข้าเลนที่ 2 ซึ่งรู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่าทำไม่ไปเดินตรงนั้น

แต่ด้วยท่าทางการเดินดูแข็งแรงดี และเดินรวดเร็วมาก ประกอบกับคิดว่าช่วงนี้มีพระสงฆ์ออกเดินธุดงค์กันเยอะจึงคุ้นชิน และไม่เอะใจอะไรมาก ส่วนรถในช่วงเวลานี้จะน้อยมีมากเป็นปกติ ซึ่งตนเองใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำนั้นจุดนี้เป็นทางขึ้นลงเขา ยิ่งช่วงนี้ถ้าคนใช้รถใช้ถนน พบเจอพระสงฆ์หรือแม่ชีเดินธุดงค์ ก็อยากให้ช่วยลดความเร็ว ระมัดระวังอีกทางหนึ่ง ในเรื่องการเดินธุดงค์ตนมองว่าเป็นอันตรายด้วย หากมาเดินบนถนนใหญ่แบบนี้

นายทวีศักดิ์ แก้วชมภู อายุ 24 ปี ลูกชาย เปิดเผยว่า ตนเองได้พยายามตามหาแม่ชีเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม คือนับตั้งแต่ทราบข่าวว่าแม่ชีเดินทางออกจากวัดอุบลรัตนาราม เมื่อประมาณวันที่ 8 พ.ค. 64 ได้เริ่มตามหาที่วัดป่าม่อนพระยาคำ เป็นวัดแม่ชีไปบวชเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก็ไม่พบ

จากนั้นได้โพสต์ตามหาแม่ชี ซึ่งก็ได้เบาะแสมาเรื่อย ๆ แต่ก็เป็นเส้นทางที่แม่ชีได้เดินเลยมาแล้ว ตนเองจึงไม่ได้ย้อนขึ้นไปติดตาม แต่พยายามเดินทางไปเรื่อย ๆ จนชาวบ้านแจ้งว่าพบแม่ชีอยู่บริเวณบ้านแม่สุก อ.แจ้ห่ม และช่วงดึกพบอยู่ อ.แม่เมาะ ชาวบ้านที่พบเห็นจึงช่วยเหลือพาไปนอนพักที่จุดตรวจบ้านหนองบอม ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ และเขียนหนังสือให้ชาวบ้านว่าจะไปน้ำตกโพนพิสัย ก่อนที่จะเดินทางถึง จ.แพร่ พบเจ้าหน้าที่ด่านตรวจห้วยไร่บอกว่าพบแม่ชีเสียชีวิต

สำหรับลักษณะการออกมาของแม่ชีเป็นการธุดงค์ช่วงถือศีล ไม่มีการบอกกล่าวให้พระลูกวัดทราบ เนื่องจากเป็นช่วงถือศีล แม่ชีจะปิดวาจา การสื่อสารก็ใช้วิธีเขียนบอก ด้วยวิธีการเดินเข้าไปหาโยม และจะทำท่าทางขอสมุดเขียน ซึ่งหลัก ๆ แม่ชีจะทำแบบนี้นานเป็นเดือน แต่ครั้งนี้ถือว่าแม่ชีเดินไกลมาก เพราะปกติไปธุดงค์ที่เขาหลังวัด 2-3 วันก็ออกมาแล้ว

ตอนนี้ตนทำใจไม่ได้เลย หากผู้ขับขี่พร้อมที่จะรับผิดชอบหรือเข้ามาพูดคุยกัน ตนก็เปิดรับไม่ปิดกั้น และไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย แต่ขอให้มาคุยกันว่าจะรับผิดชอบอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกเสียใจมาก เพราะแม่เข้าสู่การปฏิบัติธรรมประพฤติดีมาโดยตลอด แต่ทำไมต้องมาเจอคนแบบนี้ ต่อีกทางก็คิดว่าท่านคงหลุดบ่วงของท่านแล้ว