หลานสำนึกฆ่าโบกปูนซ่อนศพลุงแค้นเบี้ยว 3 หมื่น เมียช็อกขโมยทองศพใช้หนี้ (คลิป)

8 มิ.ย. 64

จากกรณีหลานชายฆ่าโบกปูนลุงของตัวเอง ภายในห้องนอนในบ้านพัก จังหวัดสระบุรี โดยทางครอบครัวไม่มีใครเอะใจ เนื่องจากนายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า หรือ หมี ผู้ตาย มักจะหายตัวออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งลูกเขยของผู้ตายเข้ามาพบกองปูนนูนลักษณะคล้ายร่างคน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น

451258

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สารภาพแล้ว! หลานเหี้ยมฆ่าโบกปูนน้าปม 3 หมื่นคุม 2 ซี้สอบ ผงะกลิ่นศพตามถึงบ้าน

559343

วันที่ 8 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า นายอานุภาพ กัญญาคำ หรือ อาร์ม อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา หลานชายของนายไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า ผู้ตาย ยอมรับว่าก่อเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ผู้ตายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 30,000 บาท โดยรับงานพฤศจิกายน 2563 เสร็จงานมกราคม 2564 หลังจากที่ติดตามทวงถามถึง 7 ครั้ง ในเดือนมีนาคม 3 ครั้ง และเดือนเมษายน 4 ครั้ง

373518844329

โดยในวันเกิดเหตุ วันที่ 22 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 06.30 น. ผู้ต้องหาได้เดินทางมาพบผู้ตายที่บ้านพัก จากนั้นได้หยิบไม้ 1 ท่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ความยาว 80 เซนติเมตร ซึ่งวางอยู่บริเวณหลังบ้านของผู้ตาย จากนั้นได้เดินเข้าไปในห้องนอนของผู้ตาย ขณะนั้นผู้ตายอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ลุกขึ้นมานั่งบนที่นอน ผู้ต้องหาใช้ไม้ฟาดที่ศีรษะของผู้ตาย 1 ครั้ง โดยเมื่อผู้ตายล้มลงบนที่นอน ก็ได้ใช้ไม้ตีซ้ำอีก 1 ครั้ง ซึ่งเมื่อแน่ใจว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหาก็ได้ปิดห้องนอนและหลบหนีออกจากบ้าน

cg1

จากนั้นในวันต่อมา 23 เม.ย. เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ต้องหาได้เดินทางไปซื้อปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุง ราคาถุงละ 75 บาท หนักถุงละ 40 กิโลกรัม จากร้านวัสดุก่อสร้างใกล้ที่เกิดเหตุ ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ย้อนกลับมายังบ้านที่เกิดเหตุ ในเวลา 17.30 น. พร้อมผสมปูนและทำการอำพรางศพของผู้ตาย แล้วกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย. 64 ลูกเขยของผู้ตายมาพบศพ

418005

โดยผู้ก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทของผู้ตายไปจำนำ ได้เงินมาจำนวน 20,000 บาท ได้นำรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวารา ของผู้ตายไปขาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามสร้อยคอทองคำและรถกระบะดังกล่าวคืนมา อีกทั้งผู้ต้องหายังได้นำ โทรทัศน์ 1 เครื่อง พัดลมตั้งโต๊ะ 1 ตัว ตู้เย็น 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารอีก 3 เล่ม ของผู้ตายไป ทรัพย์สินเหล่านี้ผู้ต้องหาได้นำไปเก็บไปที่บ้านของอดีตภรรยา

631331

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และ 3.ลักทรัพย์ของผู้อื่น

780260

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า เกิดจากความแค้นส่วนตัวที่ผู้ตายมักชอบพูดจารุนแรง และการที่ผู้ตายเบี้ยวค่าแรง ซึ่งผู้ต้องหาต้องการเงินไปใช้หนี้ จากการนำโฉนดที่ดินของอดีตภรรยาไปจำนอง จำนวน 40,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในงานแต่งงานวันที่ 18 เม.ย. 64

696544964311661225385429

สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาโดยรถตู้ เดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุในเวลา 11.00 น. โดยเมื่อผู้ต้องหาเดินลงมาจากรถตู้ ผู้สื่อข่าวสังเกตได้ว่าผู้ต้องหาร้องไห้เสียงสะอื้น มีน้ำตอคลอ ตำรวจก็ได้พาผู้ต้องหาไปชี้จุดหยิบไม้ ซึ่งอยู่ข้างบ้านของผู้ตาย จากนั้นได้พาผู้ต้องหาเข้าไปชี้จุดผสมปูนกลางบ้าน และจุดใช้ไม้ฟาดศีรษะผู้ตายในห้องนอน

489141

จากนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะพาผู้ต้องหาไปชี้จุดซื้อปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้ต้องหาได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า "อยากบอกญาติพี่น้อง ขอโทษ เสียใจ"

463853

โดยเมื่อผู้ต้องหาเดินทางมาถึงร้านขายวัสดุก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พาผู้ต้องหาเดินไปชี้ถุงปูนซีเมนต์ จากนั้นก็ได้พาผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางกลับสถานีตำรวจ โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสอนผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เกี่ยวกับวันและเวลาการลักทรัพย์ และเก็บรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากมีผู้สมรู้ร่วมคิดจะพิจารณาแจ้งข้อหากับผู้รับซื้อสร้อยทองแ ละรถกระบะจากผู้ต้องหา ฐานรับของโจร จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่าครอบครัวของผู้ตาย ซึ่งเป็นญาติของผู้ก่อเหตุ เดินทางออกนอกพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เพราะทำใจไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น

957746852222

นางวัลยา วรคณิตาจารย์ อายุ 36 ปี พนักงานร้านขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมาซื้อปูนในช่วงเที่ยงของวันที่ 23 เม.ย. 64 บอกว่า ตนเห็นผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้าน พร้อมขอซื้อปูนซีเมนต์ จำนวน 2 ถุง โดยผู้ต้องหาได้เลือกซื้อปูนซีเมนต์หนัก 40 กิโลกรัม จำนวน 2 ถุง ราคาถุงละ 75 บาท รวมเป็นเงิน 150 บาท ซึ่งเป็นซีเมนต์ราคาที่ถูกที่สุดของร้าน

738532

ตนจึงได้เรียกพนักงานผู้ชายมายกถุงปูนวางไว้บนเบาะรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ตนไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของผู้ต้องหา ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวว่าผู้ต้องหาซื้อปูนไปใช้อำพรางศพ ตนพอจะรู้จักผู้ต้องหาอยู่บ้าง เพราะเป็นคนในพื้นที่ แต่ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่คาดคิดว่าผู้ต้องหาจะลงมือฆ่าคนได้ขนาดนี้

cg2

ทั้งนี้ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานในการมัดตัวของผู้ต้องหา ได้แก่ รหัสบาร์โค้ดบนถุงปูนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงกับรหัสบาร์โค้ดบนบิลใบส่งสินค้าของทางร้านวัสดุก่อสร้าง

693429

นางสาวน้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 30 ปี อดีตภรรยาของผู้ต้องหา เลิกรากันแล้วตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บอกว่า ตนรู้สึกตกใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้เดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองสระบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เวลา 17.30 น. ถึงเวลา 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามตนเกี่ยวกับทรัพย์ของผู้ต้องหาว่าก่อนและหลังจากที่แต่งงานกัน ผู้ต้องหามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อสืบว่าผู้ต้องหาลักทรัพย์อะไรของผู้ตายมาบ้าง หลังจากแต่งงานได้ประมาณ 4 วัน ตนจำไม่ได้ว่าเป็นวันที่ 22 เม.ย. ที่ผู้ตายนำตู้โชว์ ตู้เย็น โทรทัศน์ และพัดลมกลับมาที่บ้านตน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ก่อเหตุจะสามารถก่อเหตุได้ ตนไม่ได้เอะใจว่าทำไมผู้ต้องหานำสิ่งของเหล่านี้มา เพราะผู้ต้องหาอ้างว่านำสิ่งของมาจากบ้านที่กรุงเทพฯ

896075

ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 23 เม.ย. ผู้ต้องหามีท่าทีเปลี่ยนไป มักจะมีท่าทีและอารมณ์ที่ไม่พอใจหากตนถามว่าไปไหน ทำอะไร คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะกังวลเกี่ยวกับการอำพรางศพ สำหรับปมค่าสินสอดและค่าจัดงานแต่ง แต่เดิมผู้ต้องหารับปากว่าจะหาค่าสินสอดมาให้ 100,000 บาท แต่วันแต่งงานกลับมาสินสอดมาได้เพียง 24,000 บาท ฝ่ายตนต้องดำเนินงานต่อ จึงได้ตกลงกับผู้ต้องหา ยกโฉนดที่ดินบ้านของตนให้กับผู้ต้องหานำไปจำนำ ได้เงินมาจำนวน 40,000 บาท ภายหลังผู้ต้องหาได้ไถ่คืนมาให้แล้ว ในวันที่ 1 มิ.ย. 64 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนจึงคาดว่าเงินที่ผู้ต้องหานำไปไถ่โฉนดคืน น่าจะมาจากเงินที่ผู้ต้องหานำสร้อยทองคำหนัก 1 บาท และรถกระบะของผู้ตายไปขาย

202892

หลังแต่งงานแล้วไม่ได้จดทะเบียน ผู้ต้องหามา ๆ ไป ๆ บ้านของตนกับบ้านของแม่ผู้ตาย ขณะนี้ตนเลิกรากับผู้ต้องหา เพราะเขาไม่ขยันทำงานเหมือนก่อนจะคบหากัน ตนได้พบเจอผู้ต้องหาที่สถานีตำรวจเมื่อวานนี้ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 6 มิ.ย. ตนกับแม่ได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งบริเวณหน้าบ้านของตน คาดว่าผู้ตายน่าจะมาบอกใบ้อะไรบางอย่าง เพราะวันที่ 7 มิ.ย. มีข่าวว่าพบศพผู้ตาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส