กรณีนายสมชาย ม่วงวัง อายุ 50 ปี ผู้ที่เสียชีวิตหลังจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่จ.ปทุมธานี แล้วยังไม่ได้เงินเยียวยา 4 แสนบาท
ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย.64 นายสถาพร ม่วงวัง อายุ 27 ปี ชาว จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเงินเข้ามาถายในบัญชีของตน จำนวน 4 แสนบาท ที่ทาง สปสช.โอนให้ ซึ่งทาง สปสช.โทรฯ มาหลังจากโอนเงินให้แล้ว บอกเกี่ยวกับเหตุผลที่เงินเข้าช้า และไม่ได้มามอบด้วยตนเองเพราะมีหลายเคสที่ต้องไป
ส่วนตนรู้สึกดีใจจะได้นำเงินส่วนนี้มาดูแลปู่กับย่าที่มีโรคประจำตัว จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งทางรัฐบาล และ สปสช.ไม่ทอดทิ้งประชาชน ส่วนเรื่องวัคซีนไม่ได้ไม่แนะนำให้คนไม่ฉีด แต่อยากให้ดูเกี่ยวกับโรคประจำตัว และให้ดูกรณีของตนเป็นตัวอย่าง ว่ามีขั้นตอนแบบไหน ตนรู้สึกดีใจมากๆ จึงอยากฝากขอขอบคุณท่านอนุทินและ สปสช.สื่อทุกท่านที่ให้ความสนใจไม่ทอดทิ้ง
นายสมศักดิ์ ม่วงวัง 76 ปี และนางทองย้อย ม่วงวัง อายุ 75 ปี บิดามารดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เรื่องวัคซีนที่เกิดขึ้นกับลูกชายก็ขอให้เป็นบทเรียน ในส่วนของความเห็นส่วนตัว ขอยังไม่ฉีดวัดซีนในตอนนี้ เพราะตนมีโรคประจำตัว ส่วนเรื่องเงินให้เป็นหน้าที่ของหลานชาย ว่าจะนำไปใช้จ่ายอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 4 สระบุรี เพื่อขอเขาพบกับ นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผอ.สปสช.เขต 4 สระบุรี เพื่อขอคำชี้แจงดังกล่าว ระบุว่า เรื่องนี้อาจเป็นช่องว่างในการสื่อสาร เพราะทางสปสช.เขต 4 สระบุรี ได้ดำเนินการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับประเภทของความเสียหายที่เกิดจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือ แบ่งออกเป็นดังนี้
2.สูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ในอัตราไม่เกิน 240,000 บาท
3.บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่องจากการได้รับวัคซีน โดยมีความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจรักษา ประกอบด้วย จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ในอัตราไม่เกิน 100,000 บาท