กรณีร.ต.อ.สกล โตจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา รับเเจ้งมีอุบัติเหตุพบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิต อยู่บริเวณศาลารอรถประจำทาง กม.37+531 ริมถนนถนนสาย 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มุ่งหน้าออก จ.สุพรรณบุรี ม.8 ต.เทพมงคล อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บางซ้าย และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยศพหญิงคนดังกล่าวอายุประมาณ 37 ปี สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ใส่เสื้อชั้นในสีแดง สวมทับด้วยเสื้อสีน้ำเงิน คลุมด้วยเสื้อยีนส์แขนยาว สวมใส่หน้ากากอนามัยสีฟ้า นอนเสียชีวิตมาแล้วก่อนพบศพประมาณ 4 ชั่วโมง ค้นหาหลักฐานตามเสื้อผ้า ไม่พบบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ ทั้งนี้ห่างจากศพริมถนนประมาณ 6 เมตร พบรองเท้าสีบรอนซ์ของผู้หญิง จำนวน 1 คู่ ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทาง
ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณศาลารอรถประจำทาง ริมถนนถนนสาย 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี พบว่าบริเวณดังกล่าวไม่มีแม้แต่แสงไฟ ตลอดจนด้านข้างก็เป็นป่ารกทึบ มีต้นไม้สูงต่ำสลับกันไป ซึ่งถ้าคนที่สัญจรไปมาช่วงกลางดึกหากไม่สังเกตก็จะไม่ทราบว่าจุดดังกล่าวมีศาลารอรถประจำทาง
ทีมข่าวได้สอบถาม นายณรงค์ฤทธิ์ เปลื้องกลาง อายุ 38 ปี อาสาร่วมกตัญญูพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.64) เพื่อนอาสาร่วมกตัญญูอีกคนได้แจ้งว่า พบคนนอนห่มผ้าอยู่ที่ศาลารอรถ ตนจึงเดินทางไปตรวจสอบ ขณะที่เข้าไปดูพบว่าเป็นหญิงอายุ 30-40 ปี สภาพนอนไม่หายใจแล้ว มีรอยขีดข่วนที่ลำคอ และดวงตาฟกช้ำมีเลือดไหล จากนั้นตนจึงรีบโทรศัพท์ประสานไปยังตำรวจ สภ.บางซ้าย ให้มาตรวจสอบเพิ่มเติม
โดยในพื้นที่รอบ ๆ พบรองเท้าส้นสูงสีบรอนซ์ จำนวน 1 คู่ ถูกโยนทิ้งไว้ข้างทาง แต่จากการสันนิษฐานน่าจะไม่ใช่รองเท้าของผู้ตาย เนื่องจากนำมาเทียบกับเท้าผู้ตายแล้ว ปรากฏว่าไม่ตรงกัน เท้าผู้ตายเล็กกว่ารองเท้า ที่สำคัญรองเท้าคู่ดังกล่าวยังเป็นคู่ใหม่อีกด้วย ส่วนผ้าห่ม เป็นผ้าห่มนาโน ผ้าขนบาง ๆ ที่ยังดูใหม่ ไม่เหมือนเป็นผ้าห่มที่ใช้แล้ว ส่วนตัวสันนิษฐานว่าอาจจะมีการนำศพมาทิ้งไว้เพื่ออำพราง เพราะทั้งจุดที่ศพนอนคล้ายกับการจัดฉาก
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โทรศัพท์สอบถามไปยัง ร.ต.อ.สกล ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบญาติของผู้ตาย โดยทางชุดสายสืบของสภ.บางซ้าย ประสานกับสายสืบสภ.ลาดบัวหลวง ตามหาชื่อของผู้ตาย ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่ลาดบัวหลวง ก็ไม่พบวี่แววแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ขณะนี้ก็ยังคงอยู่ในระหว่างตามหาญาติ ส่วนศพยังอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
นายสมนึก เอี่ยมสะอาด อายุ 61 ปี ผู้พบศพ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.64) ช่วงเวลา 08.00 น. ขณะที่ตนกำลังขนพระเครื่องลงจากรถเพื่อจะมาตั้งแผงเช่า ก็พบคล้ายกับคนนอนอยู่ที่ศาลารอรถ ขณะนั้นคิดว่าคนสติไม่ดีมานอน จึงไม่เอะใจอะไร แต่พอเวลาผ่านไปก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกั้นพื้นที่โดยรอบ ตนจึงได้เดินเข้าดูใกล้ ๆ พบเป็นศพหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี มีผ้าห่มคลุมไว้ตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า และยังมีร่องรอยบาดแผลบริเวณรอยฟกซ้ำตามใบหน้า และลำคอที่เป็นรอยขีดข่วน
ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุของการตายมาจากการฆาตกรรม และนำศพมาทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี ซึ่งจากที่ตนสังเกตเห็นผู้ตายก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ที่สำคัญไม่พบบัตรประจำตัวประชาชนอีกด้วย ซึ่งตนมาเปิดร้านทุกวันก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เพิ่งจะเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ขณะนี้ก็ยังรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว เปิดเผยว่า ตามหลักการสำคัญต้องผ่าชันสูตรศพเสียก่อน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง หากเกิดจากบาดแผลต้องตรวจดูว่าถูกคนอื่นกระทำหรือไม่ และดูความสอดคล้องของบาดแผล รวมถึงสภาพที่เกิดเหตุว่าผู้ตายสามารถทำร้ายตัวเอง หรือเกิดจากอุบัติเหตุ จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเป็นเหตุฆาตกรรมหรือไม่
จากสภาพศพรอยเขียวช้ำที่บริเวณลำคอ ตรงจุดนี้จะต้องรอดูว่าจะเป็นสาเหตุได้หรือไม่ ส่วนขอบตาข้างซ้ายมีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา หากเกิดขึ้นก่อนตายอาจโดนของแข็งกระแทกหรือหกล้ม แต่กหาเลือดออกจากขอบตาและไม่พบบาดแผล มีความเป็นไปได้ที่เลือดคั่งบริเวณใบหน้า พบได้จากการถูกกดรัดบริเวณลำคอ ทำให้เกิดแรงดันจนเลือดไหลซึมออกจากตา หากเลือดไหลออกจากตาเกิดขึ้นหลังการตาย อาจโดนมดกัดแทะ พบได้ในกรณีศพที่เริ่มเน่า ซึ่งไม่ตรงกับคดีที่พบสาวนอนตายในศาลาข้างถนน