กรรชัยจับสาวท้องทิพย์ตรวจภายใน หมออึ้งไม่มีการคลอด โป๊ะรูปลูกก๊อบปี้มา (คลิป)

21 พ.ค. 64

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์คลิปวิดีโอครอบครัวหนึ่งที่กำลังร้องไห้เสียใจ หลังท้องคลองเด็กแฝดชาย-หญิง แต่เด็กผู้ชายเสียชีวิต ก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศล เมื่อพระเปิดผ้าขนหนูออกมากลับไม่พบเด็ก พร้อมข้อความระบุว่า "#อยากให้ทุกคนเสพข่าวอย่างมีสติ โรงพยาบาลควรออกมาชี้แจงให้กับสังคมได้รับรู้ ทุกอย่างมีเหตุและผลเสมอ หากเป็นอย่างที่ครอบครัวกล่าวอ้างว่าศพนั้นหาย ก็ขอแสดงความเสียใจและต้องให้ความช่วยเหลือ แต่หากทางโรงพยาบาลมีคำตอบกับเรื่องนี้ ก็คงต้องให้ความเป็นธรรมด้วยค่ะ #ควรได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย"

893741

"คนที่บอกว่าท้องทิพย์คืออะไร มีอัลตราซาวด์ไปหาหมอตามนัด หมอฉีดยาเร่งคลอด ออกก่อนกำหนด เอาเด็กไปอบ 2 ชาย 1 หญิง 1 เด็กเสียไป 1 หมอให้ไปรับเด็กแล้วตอนนี้หายไปด้วย นมแม่ยังอยู่ในตู้เย็นที่บ้านอยู่เลยคอยเอาไปให้ลูกที่อบอยู่ที่โรงพยาบาล บ้านพักไม่มีช่องแช่มาฟากที่บ้านเราไว้ เห็นใจคนเสียหายด้วยค่ะ คนเราจะสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่คนแหละ คิดตามความเป็นจริง"

639803

ล่าสุดวันที่ 21 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เวลา 14.40 น. เนื่องจากทราบว่า "หนุ่ม - กรรชัย กำเนิดพลอย" พิธีกรรายการโหนกระแส จะอาสาพาตัวสาวคนดังกล่าวไปตรวจร่างกาย โดยมีนพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ สูตินรีแพทย์ เป็นผู้ตรวจภายในและอัลตราซาวด์ รวมถึงนำเลือดไปตรวจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่

103583

เวลา 14.40 น. หลังจากที่สาวคนดังกล่าวไปออกรายการโหนกระแส ได้เดินทางรพ.มงกุฎวัฒนะ จากการสอบถาม นพ.อานนท์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการตรวจภายใน ไม่มีร่องรอยการเย็บแผล และภายนอกไม่มีร่องรอยของการคลอดลูก บริเวณช่องคลอดมีเยื่อของน้ำคาวปลา แต่อาจจะเกิดจากประจำเดือน ด้วยเหตุนี้ทำการตรวจอัลตราซาวด์ หลังจากที่คลอดลูก มดลูกจะเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย

552221476470

แต่ผลการตรวจในวันนี้ พบว่ามดลูกยังเล็ก ไม่ได้โตเหมือนคนตั้งท้อง ขนาดมดลูกของคนที่คลอดลูกปกติจะต้องมีขนาดเท่าลูกส้มโอ สูงระดับสะดือลงไป แต่เท่าที่ตรวจพบมีขนาดเท่าไข่ไก่ อีกทั้งหากเพิ่งจะผ่านการคลอดลูกจริง จะยังคงมีเศษน้ำคล่ำตกค้างอยู่ แต่ตอนที่ตรวจไม่พบร่องรอยดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คนไข้ได้นำถุงน้ำนมมาด้วย อ้างว่าเป็นของตัวเอง แต่ทางการแพทย์ยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นของเขาเองหรือของใคร ซึ่งปกติแล้วในน้ำนมจะต้องมีฮอร์โมน "โพรแลกติน" ซึ่งถ้าเป็นน้ำนมของเขาเอง ค่าฮอร์โมนจะต้องสูง จะตรวจสอบว่าเป็นน้ำนมของคนไข้จริงหรือไม่ สามารถนำน้ำนมมาตรวจเทียบกับดีเอ็นเอได้ โดยนำเลือดของคนไข้ไปเจาะ กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ผลการตรวจเลือดได้ออกพบว่า "ไม่ได้ตั้งท้อง"

234513

หลังจากที่ นายเกรียงไกร สุภีทรัพย์ อายุ 30 ปี พ่อของเด็ก และน.ส.กรกนก เพิ่มพิรัญ อายุ 22 ปี แม่ของเด็ก ได้ทราบผลตรวจ ทีมข่าวได้สอบถาม ซึ่งทั้ง 2 คนยืนยันว่าตั้งครรภ์จริง ทั้งนี้ตนไม่ได้ไม่พอใจกับผลตรวจ แต่ตนจะไปตรวจอีกครั้ง และนำผลการตรวจดังกล่าวมาเทียบกันเพื่อที่ทุกอย่างจะได้ชัดเจนกว่านี้ 

686928

น.ส.กรกนก เพิ่มพิรัญ อายุ 22 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า วันที่ 11 พ.ค.64 ตนได้ทำการคลอดลูกที่โรงพยาบาลบางปลาม้า ซึ่งลูกของตนคลอดก่อนกำหนด เพราะหมอฉีดยาเร่งทำให้ปากมดลูกเปิด ตนเลยไม่มีเวลาโทรบอกแฟน กระทั่งตนคลอดลูก ตนได้คลอดเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ผ่าท้อง หลังจากที่คลอดแล้ว ตนได้ยินเสียงลูกร้อง แต่หมออุ้มผ่านไปก่อน ตนเลยไม่ทันได้เห็นหน้าลูกทั้งสองคน แต่เห็นเป็นลำตัวเด็กถูกอุ้มผ่านหน้าไป

616869

ซึ่งหมอได้บอกว่าเด็กที่คลอดออกมามี 2 คน แต่สุขภาพไม่ดี ต้องทำการส่งเด็กทั้ง 2 คนไปเข้าตู้อบที่โรงพยาบาลบางปลาม้า เพราะอุปกรณ์เยอะกว่า ตนเลยต้องแยกกับลูก ก่อนจะมาทราบในภายหลังว่าลูกชายเสียชีวิต แต่เด็กผู้หญิงยังอยู่ จากผลชันสูตรระุบว่าติดเชื้อในกระแสเลือด โดยวันที่ไปรอรับศพ ทางโรงพยาบาลได้ถามชื่อ-นามสกุล และขอดูบัตรประชาชน ก่อนจะนำเอกสารมาให้เซ็น 3 ใบ แล้วขอผ้าขนหนูจากตนไปประมาณ 3 ผืน หายเข้าไปในห้องเก็บศพ ก่อนจะออกมาแล้วยื่นผ้าขนหนูมาให้ตน แต่ตนไม่ได้เปิดดู เพราะแฟนรออยู่นานแล้ว และทางโรงพยาบาลเร่งให้ตนรีบออกไป ซึ่งตอนที่อุ้มผ้าขนหนู ตนวัดน้ำหนักไม่ถูกเพราะลูกตัวเล็ก

340055

โดยตนอุ้มจากโรงพยาบาล แล้วไปใส่ในโลงศพอีกที จนนำศพลูกมาถึงวัด ขณะที่จะเปิดผ้าขนหนูออก เพื่อที่จะเอาสายสิญจน์มาพันข้อมือลูกพบว่าไม่มีศพ ส่วนลูกสาวอีกคนยังอยู่ที่โรงพยาบาลบางปลาม้า ซึ่งตนได้เดินทางไปขอดูลูก แต่ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่มีชื่อของตนกับลูก พอตนขอเข้าไปดูเอง ทางโรงพยาบาลก็ไม่ให้ อ้างว่าตนยังไม่ได้ตรวจคัดกรองโควิด-19 ทั้งนี้ กรณีที่สังคมมองว่าตนพูดโกหก ตนอยากจะให้มองหลายมุม ตนไม่ได้ขอให้ใครมาเข้าข้าง ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ตนก็ยืนยันว่าจะไปทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง

523492222809

สำหรับภาพอัลตราซาวด์กับภาพเด็กที่อยู่ในตู้อบ พยาบาลเป็นคนถ่ายให้ ตอนที่เห็นตนก็รู้สึกตกใจว่าทำไมลูกถึงได้ตัวใหญ่ ทั้งที่ออกมาก็ตัวเล็กมาก จากการแถลงการณ์ของโรงพยาบาล ทุกอย่างที่แถลงข่าวออกมาไม่มีตรงไหนเป็นเรื่องจริง และทำให้ตนเสียความรู้สึกมาก อีกทั้งขณะนี้ตนอยากได้สมุดสีชมพู ซึ่งมีการฝากครรภ์คืนมา เพราะตอนนี้ตนเชื่อว่าสมุดเล่มนั้นอยู่กับโรงพยาบาลยมราช และจากนี้ตนไปขอค้นประวัติจากคลินิกที่เคยไปฝากครรภ์แล้วอีกครั้งด้วย

175356

ทีมข่าวตรวจสอบภาพอัลตราซาวด์ดังกล่าว พบว่าคลินิกแพทย์ปัญญา พญ.รสสุคนธ์ ฝากครรภ์ โรคเด็ก โรคทั่วไป อรัญประเทศ ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.64 ที่ผ่านมา กระทั่งวันนี้คุณหมอโพสต์ยืนยันอีกครั้งว่า "2 รูปที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลวันนี้ เป็นเด็กในสังกัดของคุณหมอ เมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ อยากได้ภาพชัด ๆ ไม่ต้อง google มาอัลตราซาวด์ 4 มิติที่นี่ครับ"

680312

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวตรวจสอบภาพทารกในตู้อบ พบว่าแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ใกล้มิดชิดหมอ" แชร์รูปดังกล่าวซึ่งโพสต์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2014 ระบุว่า "มารับความรู้เรื่องเด็กเหลืองหลังคลอดกันต่อกับส่วนการส่องไฟรักษาที่หลาย ๆ คนสงสัยกันครับ ใครยังไม่อ่านตอน 1 ไปอ่านก่อนนะ" โดยวันนี้แอดมินกลับมาโพสต์ใหม่ ระบุว่า "เพิ่งทำงานเสร็จกลับมามีคนแชร์ และ comment รูปนี้เยอะมากเลย เกิดอะไรขึ้นนะคะ หมอไม่ได้ตามข่าวเลยค่ะ ปล.มี mention ถึงรายการโหนกระแสด้วย" 

349376

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช พร้อมด้วย นพ.อนุพันธ์ หวลบุตตา รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ 1, นพ.สุพัชร์ กอกิตรัตนกุล นายแพทย์ชำนาญการกายวิภาค, นพ.พัฒธพงษ์ ประชาสันติกุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ, นางสาวกัญชพร แสนเรืองเดช พยาบาลวิชาชีพชำนาญการหอผู้ป่วยหนักแรกเกิด, นางนฤมล คงสุพรรณ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ และแพทย์ รพ.บางปลาม้า ได้แก่ นพ.วรท สัตยาวุฒิพงศ์ แพทย์ปฏิบัติการ และนางสาวกฤษณา มะนัดทัด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รวมถึงนายพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ออกแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

921937

นพ.อนุพันธ์ เปิดเผยว่า กรณีน.ส.กรกนก เติมหิรัญ อายุ 21 ปี อ้างว่าคลอดลูกแฝดชาย-หญิง ที่รพ.บางปลาม้า ก่อนถูกส่งต่อมารักษาอีกโรงพยาบาล เด็กแฝดที่เป็นเพศชายสียชีวิต แต่เมื่อรับศพไปที่วัดปรากเด็กหายไปนั้น มีระบบงานการดูแลผู้ป่วยและการส่งต่อผู้ป่วย มายังรพ.เจ้าพระยายมราช ดังต่อไปนี้

459856

1.ทางโรงพยาบาลต้นทางจะต้องมีข้อมูล เอกสารรายละเอียดการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นของผู้ป่วย ก่อนแจ้งส่งต่อ ซึ่งเอกสารญาติหรือโรงพยาบาลต้องถือเอกสารมา

2.ผู้ป่วยหรือญาติต้องให้ข้อมูลต่อศูนย์รับการส่งต่อ และโรงพยาบาลมีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยทั้งชื่อ-นามสกุล ป่วยเป็นอะไร พบแพทย์สาขาไหน วัน เวลา ก่อนประสานแพทย์เพื่อรับตัว โรงพยาบาลรับการอนุมัติ โดยแจ้งโรงพยาบาลต้นทาง

3.การแจ้งส่งต่อผู้ป่วยต้องมาจากกรณีป่วยฉุกเฉิน เช่น คลอดเด็กแฝดที่ต้องผ่าคลอง ลูกคลอดแล้วมีอาการผิดปกติ เป็นภาวะฉุกเฉิน ต้องส่งด้วยรถโรงพยาบาลเท่านั้น ห้ามเดินทางมาเองโดยเด็ดขาด

4.เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก่อนส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์เวรจะให้การรักษาเบื้องต้นก่อน และส่งแพทย์เฉพาะหรือแพทย์เจ้าของไข้ ทุกขั้นตอนจะมีการบันทึกในเวชทะเบียน ทั้งคอมพิวเตอร์และกระดาษ กรณีนอนโรงพยาบาลต้องทำเอกสารระบุวันนอนโรงพยาบาล ชื่อแพทย์รักษา เวลารักษา และตึกที่เข้ารับการรักษา

5.การนอนโรงพยาบาล ขณะนี้โรงพยาบาลไม่ให้ญาติเยี่ยม แต่เยี่ยมได้ทางไอที หากไม่มีญาติเยี่ยม โรงพยาบาลจะโทรศัพท์แจ้งอาการทั้งทางที่ดี และทางที่ไม่ดี แต่ถ้าจะเสียชีวิต แพทย์จะทำประเมิน เรียกญาติมาคุยว่าจะยื้อชีวิตหรือรับกลับไป เพื่อตัดสินใจ ว่าจะไปเสียชีวิตที่บ้าน แต่หากไม่ยื้อมีการเสียชีวิตจริงจะออกใบรับรองแพทย์ ประกอบเอกสารขออนุญาตนำศพออกโรงพยาบาลถ้าไม่มีภาวะเร่งด่วนโรงพยาบาลจะเก็บไว้แค่ 2 ชม. ก่อนส่งไปยังห้องปลายฟ้า ญาติจึงนำศพออกไปได้ โดยรับที่ห้องปลายฟ้าเท่านั้น

184064

ดังนั้นจากการที่น.ส.กรกนก ไลฟ์สดบอกว่าลูกส่งตัวมาที่รพ.เจ้าพระยายมราช โดยไม่ห็นหน้าลูกเลย และเอกสารฝากครรภ์ถูกพยาบาลและแพทย์เก็บไว้ น่าจะไม่ถูกต้อง ตามขบวนการแล้วทางรพ.เจ้าพระยายมราช ได้ตรวจสอบต้นทาง รพ.บางปลาม้า รับเคสเมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 เนื่องจากน.ส.กรกนก มีอาการตกขาว ปวดท้องข้างซ้าย ปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวติดเชื้อ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ อุ้งเชิงกรานอักเสบ เนื่องจากน.ส.กรกนก เคยมีประวัติตั้งครรภ์หลายรอบ

อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่า น.ส.กรกนก ทำไม่ถูกต้อง ในทางกฎหมายตำรวจก็ไม่ยอมแน่ แต่จะต้องตรวจเพิ่มว่า น.ส.กรกนก มีอาการทางจิตหรือไม่ คงจะต้องเชิญตัวมาพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ต้องมีเอกสารยืนยันจากจิตแพทย์ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของโรงพยาบาล ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

449013

จากนั้นมีการโฟนอินไปยังน.ส.กฤษณา มะนัดทัด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.บางปลาม้า กล่าวยืนยันว่า เคสนี้แอดมิตวันที่ 11 พ.ค.64 คนไข้ปวดท้องน้อย ตกขาว และติดเชื้ออักเสบอุ้งเชิงกราน เวรเช้าแจ้งว่ารักษาเบื้องต้นด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงต้องแอดมิต ตนจึงถามว่า “ท้องหรือป่าว” คนไข้ตอบว่า “ไม่ท้อง” และแจ้งว่าเดือนมี.ค.64 ประจำเดือนยังมาปกติ แต่ตนก็เกรงว่าจะท้องนอกมดลูก จึงโทรศัพท์หาแพทย์เวรเพื่อขอทดสอบการตั้งครรภ์และส่งตัวไป ผลออกมาปรากฏว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่มีการติดเชื้อปัสสาวะ จึงรายงานแพทย์เวรให้กินยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด จากนั้นเห็นสามีมานั่งเฝ้าไข้ แต่ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการถามพยาบาลว่าลูกในท้องเป็นอย่างไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส