นายกฯ ปรับวอล์กอิน เป็น ลงทะเบียน ณ จุดบริการ เร่งกระจายวัคซีนใน 3 ช่องทาง

20 พ.ค. 64

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เปลี่ยนจากวอล์กอิน เป็น ลงทะเบียน ณ จุดบริการ พร้อมวางแผน 3 ช่องทางกระจายฉีดวัคซีน รับมือโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (20 พ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลังรัฐบาลประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลได้มีแผนการกระจายวัคซีน 3 ช่องทาง คือ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซิโนแวค ล็อต 8 จากจีนส่งถึงไทยวันนี้ (20 พ.ค.) จำนวน 1.5 ล้านโดส ยอดรวม 6 ล้าน
- อนุทิน ชี้ แอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนหลักแม้เหลือน้อย ขณะซิโนแวคมีหลายล้าน

186219832_3480732018693061_38_1

1) ระบบหมอพร้อม ประกอบด้วย LINE และ App หมอพร้อม ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคลงทะเบียนแล้ว และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปอายุต่ำกว่า 60 ปี ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 31 พ.ค.นี้ ข้อดีคือ ทุกคนสามารถเลือกวันเวลาและสถานที่ได้เอง

2) การลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือ On-site Registration เป็นหนึ่งใน 3 ช่องทางการกระจายวัคซีนให้เข้าถึงและครอบคลุมประชาชนมากที่สุด ช่องทางนี้ปรับจากการเรียกว่าวอล์กอิน (Walk in) เนื่องจากหากใช้คำว่าวอล์กอินแล้ว อาจเกิดความเข้าใจผิดว่าทุกคนที่เดินทางไปจะได้ฉีดในวันนั้น จนอาจเกิดปัญหาตามมาได้ ขณะที่การแพร่ระบาดและความรุนแรงนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม จึงจำเป็นต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์

การลงทะเบียน ณ จุดบริการ จะมีระบบรองรับและแจ้งประชาชนเมื่อเดินทางไปลงทะเบียนว่า มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ ณ จุดบริการในวันนั้นหรือไม่ หากพร้อมฉีดแต่วัคซีนไม่พอในวันนั้นก็สามารถทำการลงทะเบียนเพื่อนัดฉีดในวันอื่นได้ โดยไม่ต้องเสียเวลามารอฉีดอีกในวันต่อไป แต่สามารถมาฉีดได้เลยตามที่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอย้ำว่าช่องทางนี้เป็นการบริการเสริม ส่วนบริการหลักยังเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม

186515280_3480732362026360_74

3) การจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเฉพาะ เน้นจัดสรรวัคซีนไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ หรือมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต เช่น บุคลากรทางการแพทย์ อสม. ทหาร ตำรวจ ครู อาจารย์ ผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์สาธารณะ พนักงานรถไฟและรถไฟฟ้า พนักงานโรงแรม คณะทูต นักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ คนพิการ ฯลฯ

สำหรับช่องทางที่ 3 ประชาชนสามารถติดต่อนัดหมายผ่านสถานพยาบาล หรือ อสม. ได้โดยตรง หรือหากเป็นกลุ่มบุคคลหรือสมาคมที่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน ก็สามารถยื่นเรื่องต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาจัดสรรวัคซีนและจัดเตรียมสถานที่ฉีดต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ