จากกรณีวันที่ 17 พ.ค. 64 เวลา 11.00 น. นายอานนท์ หรือ เล็ก มัดฐารักษ์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.วีระพันธ์ เกื้อรักษ์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรบางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค. 64 นายอานนท์ ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง น.ส.ดรุณี ศรีเทพ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ของภรรยาเสียชีวิต สาเหตุโต้เถียงกันกับแม่ยายที่ไม่ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของลูกสาว จึงก่อเหตุยิง 8-9 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ต่อหน้าต่อตานายเสรี มุนิสงฆ์ อายุ 57 ปี พ่อตา หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าบริเวณรอบบ้านอยู่นาน 3 วัน ก่อนมอบตัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสวรรค์ ระบุว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับและกดดัน นายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ อย่างหนัก จนกระทั่งผู้ก่อเหตุติดต่อขอมอบตัว พร้อมยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงแม่ยายเสียชีวิต ปมเหตุแม่ยายไม่ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของภรรยาให้
เบื้องต้น วันที่ 17 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสวรรค์ ได้นำตัวนายอานนท์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 18 พ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ บ้านห้วยแห้ง หมู่ที่ 11 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สามีผู้เสียชีวิตได้เช็ดถูทำความสะอาดคราบเลือด บริเวณหัองโถงติดประตูเข้าบ้าน จุดเสียชีวิตไปจนหมดแล้ว มีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. หลงเหลืออยู่บริเวณใต้ตู้เย็นภายในห้องครัวหลังบ้าน 1 ปลอก และพบว่าปริเวณตู้เย็นมีร่องรอยจากการถูกกระสุนปืนยิง
นายเสรี มุนิสงฆ์ อายุ 58 ปี สามีผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้เสียชีวิต คือนางดารุณี ศรีเทพ อายุ 51 ปี ผู้ก่อเหตุคือนายอานนท์ มัดฐารักษ์ หรือ เล็ก อายุ 35 ปี ลูกเขย โดยปกติแล้วนายเล็กเป็นชาวบ้านคลองโหยน ต.เคียนซา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี มีภรรยาอยู่แล้ว แต่มาชอบ น.ส.เมย์ อายุ 30 ปี ลูกติดภรรยาตนและอยู่กินกันมานาน 5 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน เท่าที่สัมผัสมา นายเล็กจะมีนิสัยใจร้อน ระหว่างที่ทั้งคู่คบกัน ตนและภรรยาไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งคู่ ทราบว่ามีการทุบตีกันตามประสาผัวเมีย
ตั้งแต่ช่วงวันที่ 11 พ.ค. 64 น.ส.เมย์ เริ่มถอยห่างและอยากเลิก เนื่องจากนายเล็กเป็นคนใจร้อนและมีอาวุธปืน จึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่นายเล็กก็ไม่ยอมเลิกรา พยายามตามหา น.ส.เมย์ แต่ก็ไม่พบ ตนและภรรยาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปไหน กระทั่งวันที่ 14 พ.ค. 64 ขณะที่ภรรยาของตนนอนอยู่ในเปลข้างบ้าน นายเล็กได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด พร้อมกับถืออาวุธปืนเดินตรงเข้ามาถามกับภรรยาตนว่า น.ส.เมย์ หายไปไหน และพยายามขอเบอร์โทรติดต่อ
ซึ่งภรรยาของตนไม่มีเบอร์โทร นายเล็กก็ไม่ยอมเชื่อ ทั้งคู่จึงเริ่มมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายเล็กจะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ถือมา ยิงใส่ท้องของภรรยา 2 นัด หลังจากที่ภรรยาถูกยิง ก็พยายามหนีเอาชีวิตรอด วิ่งเข้าประตูหลังบ้าน หวังจะวนมาออกหน้าบ้าน แต่นายเล็กอ้อมมาดักที่ประตูหน้าบ้าน เมื่อภรรยาตนหนีมาถึงบริเวณประตูหน้าบ้าน จึงถูกนายเล็กลั่นไกลซ้ำที่ช่วงท้องอีก4 นัด จนร่างของภรรยาล้มลงจมกองเลือด นายเล็กเดินเข้ามายิงที่บริเวณศีรษะของภรรยาอีก 2 นัด รวมทั้งหมด 8 นัด ก่อนวิ่งหนีหลบหายเข้าไปในป่าปาล์ม
ขณะเกิดเหตุ ตนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะตนนั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน แต่ตนก็ไม่สามารถช่วยเหลือภรรยาได้ เนื่องจากในมือของนายเล็กก็มีอาวุธปืน ตนที่ไม่มีอาวุธจึงจำเป็นต้องหนีเอาชีวิตรอดออกมาหลบอยู่ที่หน้าบ้าน ทนเห็นภรรยาเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายวิ่งหลบหนีไป ตนจึงรีบประสานผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ สภ.บางสวรรค์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายเล็กถูกจับตนก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมตัวได้ พร้อมทั้งอยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายเล็กตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมทั้งอยากจะถามว่า "ทำแบบนี้ทำไม มีอะไรทำไมไม่คุยกันดี ๆ ไม่น่าถึงกับต้องใช้อาวุธปืนแบบนี้" หลังภรรยาของตนเสียชีวิตไปยังคงทำใจไม่ได้
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของแม่ผู้ก่อเหตุ ภายใน ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี นางประไพ องอาจ อายุ 58 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ความเป็นจริงแล้วลูกชายของตนมีภรรยาอยู่แล้ว และมีลูกด้วยกัน 4 คน แต่ก็ยังจะไปมี น.ส.เมย์ เป็นเมียอีกคน ซึ่งความเป็นจริง น.ส.เมย์ เองก็มีสามีอยู่แล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนจะแยกทางกัน และมาคบกับลูกชายตนจนมีลูกด้วยกันอีก 2 คน ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนลูกชายตนแล้วหลายครั้ง เพราะตนไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้ให้ลูกชายของตนไปมีหญิงอื่นอีก แต่ลูกชายของตนไม่ยอมฟัง เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน
กระทั่งตนมาทราบข่าวในวันที่ 14 พ.ค.64 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกว่าลูกชายไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางดารุนี ตนก็รู้สึกตกใจ เท่าที่ทราบมาปมเหตุเกิดจากความหึงหวงของลูกชาย ที่หลังลูกชายกลับมาอยู่กับเมียหลวงที่บ้านตน น.ส.เมย์ จึงไปอยู่กับคนอื่น เมื่อลูกชายกลับไปหา น.ส.เมย์ แล้วไม่เจอ ออกตามหาอยู่หลายวันก็ไม่พบ จึงตัดสินใจไปหาผู้เสียชีวิตเพื่อสอบถามข้อมูล แต่ผู้เสียชีวิตที่รู้ข้อมูล กลับไม่ยอมบอกว่า น.ส.เมย์ หายไปอยู่ไหน ลูกชายจึงก่อเหตุดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ตนยืนยันว่าเป็นของลูกชายจริง ซื้อมานานหลายปีแล้ว
หลังเกิดเหตุ ตนก็ได้ไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพักแล้ว เจ้าตัวอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่ นิ่งเงียบไม่พูดคุยกับใคร ตนพยายามถามถึงสาเหตุที่แน่ชัด แต่ลูกชายก็ไม่ยอมพูด ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่รู้สึกแย่ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ "ในฐานะแม่ของผู้ก่อเหตุ ตนก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่กล่าวคำขอโทษกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะคิดว่าเขาทำตัวเขาเองจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว" ส่วนเรื่องคดีความตนก็ไม่รู้จะช่วยเหลือลูกชายอย่างไร ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ
