มาเฟียฆ่าเสี่ยโกสนหยามตำรวจบุกชิงศพฝังดินไปทิ้งทะเล "เสี่ยสุรัตน์" หายตัวลึกลับ (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อย vplus" โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความระบุว่า ภรรยา"ผู้สูญหาย"ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งสามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังนั้น จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านในขณะนั้นยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายเจ้าของบ้านบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นตัวเองหลับอยู่ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้าตามทาง แต่ไม่พบตัวสามี ตอนนี้ก็ยังไม่เจอว่าเป็นยังไง ถึงจะไม่มีชีวิตอยู่ อย่างน้อยขอเจอตัวเพื่อทำพิธีก็ยังดี จากการตรวจสอบ ผู้สูญหายสวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือ 10 บาทด้วยนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตะลึงก๊วนอุ้มเสี่ยโกสนเปิดปากจับยิงฝังบ่อดิน บิ๊กตำรวจผงะบุกค้นศพหาย
- หมอปลาพิสูจน์จุดอุ้มฆ่าโกสน เชื่ออิทธิพลเฮี้ยนกว่าผี เมียเสนอเงินแสนแลกศพ
- เปิดปมเสี่ยโกสนถูกอุ้มโยง 2 ตระกูลตาย 6 ศพต้องสาบานสงบศึก เมียหวั่นซ้ำรอย
- พลิกแผ่นดินหาร่างเสี่ยโกสน "พยาน" เปิดปากถูกกดหัวปืนยิง - เมียหวั่นถูกทิ้งทะเล

วันที่ 8 พ.ค. 64 นางจินดาหรา วสินทรัพย์ อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้สูญหาย เผยว่า หลังจากเมื่อคืนที่หมอปลามาช่วยทำพิธี คล้ายปลดพันธนาการให้ดวงวิญญาณของสามี หลังเสร็จสิ้นหมอปลาก็ให้ตนกลับมาที่บ้าน จุดธูป 2 ดอก ตน 1 ดอก ลูกชาย 1 ดอก ก่อนเรียกชื่อสามีของตนเพื่อให้กลับมาที่บ้านสื่อให้รู้บ้างว่าตอนนี้ร่างของสามีอยู่ที่ไหน แต่ตนก็ยังไม่ฝันถึงสามี หมาก็ไม่มีเห่าหอน จึงมีความผิดปกติ เนื่องจากหากเป็นศพของญาติที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่ที่บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะกลับมาที่บ้านเพื่อให้รู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว

ตนจึงมีความกังวลว่าสามีอาจจะถูกพันธาการไว้ ส่วนนี้ก็อยากจะให้หมอปลาช่วย แต่ก็ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ระยะเวลาผ่านมานาน 7 วัน ทางครอบครัวและชาวบ้านก็เหนื่อยล้าในการตามหา แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องหาให้พบ เนื่องจากต้องการจะนำศพของสามีมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนเรื่องกรณีบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปชี้เบาะแส จุดฝังศพสามีเมื่อวานนี้นั้น ตนยืนยันว่าไม่ทราบว่าพยานคนดังกล่าวเป็นใคร เพราะตนไม่เห็นหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้เสื้อคลุมหัวไว้ อีกทั้งทางเจ้าที่ตำรวจได้บอกกับตนว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากต้องกันตัวไว้เพื่อเป็นพยานสำคัญ ตนก็ไม่แน่ชัดว่าเงิน 100 บาทกับไฟแช็กที่หล่นอยู่ภายในบริเวณจุดดังกล่าวจะเป็นของสามีตนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตนก็จะคงทำการค้นหาต่อไป ซึ่งก็จะลองตั้งประเด็นของหมอดูที่ทางญาติไปดูมาตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างน้อยก็เผื่อจะได้ลุ้นดีกว่าออกตามหาอย่างไม่มีจุดหมาย ซึ่งในส่วนของการติดตามทางเจ้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่าจะนำสุนัขตำรวจมาลองดมกลิ่นเพื่อช่วยค้นหาอีกแรง

ทั้งนี้ ตนยังคงยืนยันว่าผู้มีอิทธิพลน่าจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงติดตามตัวไม่ได้ทั้งหมด โดยที่ตนก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ซึ่งหากมีโอกาสได้พูดกับเขาตนอยากบอกว่า ถ้าไม่ได้ทำผิดก็อยากให้เจ้าตัวกลับมา ไม่ใช่หนีหาย หากไม่กลับมาก็ขอให้คืนศพของสามีของตนมาตามที่ตนตั้งใจไว้ ทางครอบครัวจะได้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกันต่อไป สุดท้ายนี้ หากมีพลเมืองดีสามารถแจ้งเบาะแสทำให้ครอบครัวพบศพสามีได้ตนจะมีรางวัล 1 แสนบาทให้ พร้อมทั้งปกปิดรายชื่อและไม่ทำให้เจ้าตัวเดือดร้อนแน่นอน อยากขอร้องให้ช่วยทางครอบครัวด้วย

ล่าสุด ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างเร่งหาหลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี ซึ่งวันนี้ใช้สุนัขดมกลิ่น และเจ้าหน้าที่ 50 นายลงพื้นที่ด้วย

โดยเฉพาะรถที่ใช้ในการก่อเหตุคาดว่ามีประมาณ 3-4 คัน ตำรวจสามารถตรวจยึดมาได้แล้ว 2 คัน คือ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ที่เกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้า กับรถกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถที่นำมาเคลื่อนย้ายร่างของนายโกสนไปทิ้งอำพรางหลังคันแรกเกิดอุบัติเหตุ

ขณะเดียวกันทางการสืบสวน ตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยแล้วประมาณ 3-4 คน เป็นกลุ่มคนที่เคยมีความขัดแย้งกัน เกี่ยวกับธุรกิจค้าหอย ที่อาจจะพัวพันไปถึงความขัดแย้งของ 2 ตระกูลที่มีมาตั้งแต่ในอดีต จนเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างแค้นกัน กระทั่งต่อมาเมื่อปี 2550 ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำพิธีดื่มน้ำสาบานยุติการฆ่าล้างแค้น

สำหรับผู้ต้องสงสัยในขณะนี้ คนแรกคือ ผู้มีอิทธิพลที่ยังคงหลบหนี คนที่ 2 นายแน็ก ที่ตำรวจคุมตัวไว้ ให้การว่าเป็นมือปืน รวมทั้งร่วมนำศพไปฝังอำพราง ก่อนที่จะย้อนกลับไปขุดศพไปถ่วงลงทะเลหลังเริ่มเป็นข่าวดัง คนที่ 3 นายเจต ตำรวจคุมตัวไว้ ซึ่งให้การรับสารภาพว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ และเป็นคนที่นั่งไปกับรถกระบะก่อนไปขุดหลุมฝังศพในป่าบ้านทุ่งไทร ต.พุมเรียง อ.ไชยา

ทีมข่าวย้อนสำรวจ เส้นทางจากบ้านนายบำรุงจุดเกิดเหตุ ไปจนถึงหน้าวัดตะกรบ จุดที่กระบะของผู้ก่อเหตุประสบอุบัติเหตุ ระยะห่างกัน 4.1 กิโลมตร มีแสงไฟสองสว่างตามทางถึงแค่ช่วงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตะกรบเท่านั้น ไม่เกิน 100 เมตร โดยจากจุดหน้าวัดไปจนถึงบ่อดินที่ตำรวจนำตัวพยานมาชี้จุด ระยะห่างกัน 10 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่มีคนเข้า-ออก

ซึ่งจากคำให้การของพยาน อ้างว่าเมื่อข่าวนายโกสนมีกระแสข่าวดังจึงย้อนกลับมานำศพที่ฝังไว้ ไปถ่วงทะเล ก็จะต้องย้อนกลับมาบริเวณริมหาด ต.พุมเรียง ที่สามารถเทียบเรือได้ ระยะห่าง 4.3 กิโลเมตร

หลังจากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางกลับมายังห้องพักคนงานของนายโกสน ผู้สูญหาย พบว่าเวลา 12.00 น. หมอปลา น้ำฟ้า ภรรยา และลูกน้องนายโกสน ได้เดินทางมาพูดคุยกับนางจินดาหรา ภรรยานายโกสน เพื่อที่จะดำเนินการติดตามหาร่างของนายโกสนต่อ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น นางจินดาหราร้องไห้เนื่องจากเหนื่อยกับการค้นหาร่างของสามีอย่างไม่มีจุดหมาย แต่มีหมอปลาและเหล่าบรรดาคนสนิทมายืนอยู่ข้าง ๆ กว่า 10 คน พร้อมพูดให้กำลังใจ

หลังจากนั้นเวลา 17.30 น. จากที่หมอปลาเดินทางกลับ จ.เพชรบุรี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปที่ บริเวณหน้าวัดตะกรบ จุดที่คาดว่ารถของผู้ก่อเหตุ ขับรถทุกศพมาประสบอุบัติเหตุ เมื่อมาถึง นางจินดาหราได้ทำการจุดธูป 15 ดอก เพื่อขอเจ้าที่เจ้าทาง ที่อยู่ในพื้นที่ ดลบันดาลให้พบร่างของสามี โดยทดลองเดินตามควันธูป ตามความเชื่อโบราณของคนในพิ้นที่ว่าควันธูปจะชี้ทาง ให้เดินไปพบร่างของผู้เสียชีวิต แต่เมื่อนางจินดาหราลองเดินหาตามควันธูปอยู่นานเกือบ 30 นาที พร้อมกับลูกน้องและทีมข่าว รวม 10 กว่าคน ก็ไม่พบร่างนายโกสน จึงยุติการค้นหา เนื่องจากฝนตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

หมอปลา กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนมองว่าจะต้องปรึกษากับทางภรรยาผู้เสียชีวิตทำเรื่องเข้าร้องกองปราบดีกว่า เพราะตนมีความคิดว่า สมมติว่าพวกกลุ่มผู้มีอิทธิพลมีการส่งส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ เมื่อผู้มีอิทธิพลทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็คงไม่อยากยุ่ง ไม่กล้าทำอะไร จึงเกรงว่าทางครอบครัวนายโกสนจะไม่ได้รับความปลอดภัย และจะอยู่ต่อไปลำบาก ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเร่งติดตามความคืบหน้าให้กับครอบครัวนายโกสน พร้อมทั้งตนขอเป็นกำลังใจให้

ส่วนกรณีที่ตนนำคราบเลือดนายโกสนไปทำพิธีปลดพันธนาการช่วงคืนวานนี้ ตนเกิดอาการแปลก ๆ รู้สึกแย่ เหมือนจะสื่อสารอะไรกับนายโกสนได้ แต่สักพักกลับไม่รู้สึกหรือสัมผัสอะไรได้เลย ตนจึงคิดว่ามันแปลก แต่พอได้มาฟังจากชาวบ้านในพื้นที่จึงทราบว่า ผู้มีอิทธิพดังกล่าวอาจเล่นคุณไสยเนื่องจากศพนายเหม๋ที่เสียชีวิตล่าสุด บริเวณบาดแผลจากรอยกระสุนมีเหรียญบาทยัดไว้ เสมือนคนทำพิธีซื้อชีวิตศพ อีกทั้งผู้มีอิทธิพลในทุก ๆ ปีก็จะต้องเชือดเป็ดไก่เพื่อเอาเลือดไปเซ่นไหว้ครูบาอาจารย์ เนื่องจากฆ่าคนไม่ต่ำกว่า 10 คน แม้กระทั้งแม่ของผู้มีอิทธิพลรายนี้ก่อนจะเสียชีวิตยังทุกทรมาน จากนั้นเจ้าตัวเลยมารับช่วงถือคุณไสยต่อ จึงตรงกับที่ตนเชื่อว่าวิญญาณของนายโกสนต้องถูกพันธนาการไว้

อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอภาวนาให้เจอร่างของผู้เสียชีวิตโดยเร็ว เพื่อจะได้นำศพมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามที่ครอบครัวหวังไว้ พร้อมทั้งอยากฝากถึง รอง ผบ.ตร ให้ช่วยเร่งรัดคดี เพราะคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ได้ออกไปทำมาหากิน เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย อย่างน้อยขอความคืบหน้าให้ทราบบ้างก็ยังดี

หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายสุรัตน์ ภายใน ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎ์ธานี นายโจ (นามสมมติ) ญาติของนายสุรัตน์ เผยว่า ตนในฐานะที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายสุรัตน์ ยืนยันว่าเจ้าตัวเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งกรณีที่เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้เช่นกันว่ารายละเอียดลึก ๆ แล้วนายสุรัตน์จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่กับการหายไปของนายโกสน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็ยังไม่เห็นนายสุรัตน์เดินข้ามฝั่งมาหาตนที่บ้าน ซึ่งไม่เหมือนกับปกติที่เวลาเจ้าตัวอยากจะกินอะไร ก็จะเดินข้ามฝั่งถนนมาซื้อของที่ร้านของตน อีกทั้งยังโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ส่วนเรื่องที่มีบุคคลที่มีผู้อิทธิพลในพื้นที่ ตนก็ได้ยินแต่ชาวบ้านเขาพูดกัน แต่ส่วนตัวมองว่านายสุรัตน์ก็เป็นคนปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

น.ส.ฝน (นามสมมติ) ภรรยานายสุรัตน์ เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ยังไม่รู้เลยว่าสามีของตนออกจากบ้านไปไหน รู้แค่ว่าวันที่ 2 พ.ค. สามีนอนอยู่บ้านกับตน และออกไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ตนพยามติดต่อแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

ในขณะที่แฟนไม่อยู่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบปากคำตนแล้วหลายครั้ง ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับสามีมากนัก เนื่องจากตนคบหากับสามีมานาน 4 ปี ก็เห็นว่าสามีของตนเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร

จากกระแสข่าวเกี่ยวกับประวัติของสามีในอดีต ตนก็ไม่เคยเจอ จะเห็นก็แต่สามีเป็นผู้ใหญ่ที่ชอบช่วยเหลือคน ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล ตนก็ไม่ได้คิดที่จะเข้าข้างสามี แต่มองว่าสามีไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้มีแต่คนมองสามีในแง่ลบ เพราะได้รับข่าวสารจากฝ่ายญาตินายโกสนเพียงอย่างเดียว แต่ตนยืนว่าตอนนี้ตนเองก็ยังไม่รู้เลยว่าสามีของตนมีส่วนเกียวข้องหรือไม่ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะส่วนตัวตนก็ยังไม่รู้จักหรือเคยเห็นหน้ากับนายโกสนด้วยซ้ำ เพราะสามีไม่เคยพูดชื่อให้ได้ยิน

อย่างไรก็ตาม ตนก็คงไม่จำเป็นต้องให้กำลังสามี เพราะตนมั่นใจว่าสามีของตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ สุดท้ายนี้ ตนก็ได้แต่ต้องติดตามกระแสข่าวหากผลปรากฏออกมาว่าสามีของตนเป็นผู้ก่อเหตุ ตนก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป และจะต้องมีการปรึกษาหารือกับคนในครอบครัวอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊กนางจินดาหรา ภรรยานายโกสน มีการโพสต์เฟซบุ๊กถึงการตามหาสามีและการหายตัวไป แสดงความคิดถึงหลังจากตามหาแล้วยังไม่พบร่างของสามี