จากกรณีที่มีการปราบปรามการทุจริตเงินทอนวัด และมีการจับพระมหาเถระวัดดังในกรุงเทพฯที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้สึกพ้นจากการเป็นพระ และฝากขังในเรือนจำ
วันที่ 1 ส.ค. 61 เมื่อเช้าช่วงที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณี การนำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาอดีตข้าราชการและข้าราชการ ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน 10 เป้าหมาย โดยกล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ทำสำนวนคดีส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาไต่สวนชี้มูลความผิด ซึ่งทาง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องกลับมาให้กองปราบฯให้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาหมายจับทั้งหมด 10 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด 10 แห่ง มีทั้งวัดที่เป็นเป้าหมายหลักเกี่ยวข้องกับการจับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีการจับกุมไปก่อนหน้านี้ และวัดอื่นๆที่อยู่ในข่ายพบการทุจริตชัดเจน โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดสำหรับผู้ไม่ใช่ข้าราชการ ซึ่งการจับกุมดังกล่าวเป็นการแสดงให้สังคมเห็นว่า คดีนี้ไม่ได้จับกุมเฉพาะพระที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่เป็นต้นทางของการทุจริตด้วย
อย่างไรก็ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้ต้องหาบางรายเดินทางไปต่างประเทศนั้น
พล.ต.ต.ไมตรี ตอบเพียงว่า ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกควบคุมตัวไปที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้ จะนำผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) เวลา 10.00 น.