แม่เผย “โจ้” โผรั้งแม่เด็กอุเทนฯ คิดสั้นโดดตึกศาล พ่ออัมพาตรับรู้ ลูกคิดบวชหลังพ้นมลทิน (คลิป)

27 ก.ค. 61
วันที่ 26 ก.ย. 61 ภายหลังจากที่นายณัฐพงษ์ เงินคีรี หรือ โจ้ ตกเป็นจำเลยในคดีแทงนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ เสียชีวิต ได้แถลงข่าวชี้แจงว่าตนเองไม่ใช่ผู้ก่อเหตุลงมือฆ่านายเต้ แต่ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงจนเกิดเรื่องชกต่อยกัน ขณะที่น.ส.หมู แฟนสาวของนายโจ้ ยืนยันว่าเห็นนายเบนซ์วิ่งเข้ามาหาด้วยมือเปื้อนเลือดพร้อมกับบอกว่าเป็นคนแทงนายเต้ และจะขอตามไปด้วย แต่ทั้งนี้น.ส.หมูก็ไม่เห็นว่านายเบนซ์ได้ลงมือแทงนายเต้จริงหรือไม่ (อ่าน: แฟน “โจ้” อดีตจำเลย เล่านาทีคนแทงเด็กอุเทนฯ มาสารภาพ เห็นจะจะมือเปื้อนเลือด)
แม่ของนายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์นักข่าว
นอกจากนี้แม่ของโจ้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเย็นของวันที่ 15 เม.ย. 59 ลูกชายบอกตนว่าจะไปเล่นสงกรานต์ แต่ไม่ทราบว่าลูกจะไปจุดใด ตนได้โทรศัพท์หาลูกตลอด จนช่วงดึกที่ลูกบอกว่าเล่นน้ำเสร็จแล้วและกำลังจะไปกินหมูกระทะบ้านเพื่อน จนกระทั่งเวลา 04.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ลูกชายโทรมาบอกว่าถูกตำรวจเรียกให้มาเป็นพยาน ตนและสามีจึงตามไปหาลูกที่ สน.ดินแดง โดยตำรวจบอกแค่ว่าจะสอบปากคำนายโจ้ในฐานะพยาน ตอนนั้นก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาจึงกลับบ้านไป แต่พอกลับมาอีกรอบ ตำรวจได้นำตัวลูกชายส่งศาลฝากขังแล้ว แม่นายโจ้เล่าว่า ตนเองต้องยืมเงินเพื่อนบ้านจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปประกันตัวลูกชาย เมื่อออกมาจากศาลก็ไม่กล้าพาลูกกลับมาที่บ้าน เพราะเกรงจะมีเรื่องการล้างแค้น จากการสอบถามลูกชายทราบว่า นายเต้มีอาการเมาและจะรังแกผู้หญิง ตัวเองจึงเตะไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงรายหนึ่งมาจับแยก ลูกชายจึงออกไปนั่งกินหมูกระทะที่บ้านเพื่อน ก่อนตำรวจจะมาจับ ลูกชายไม่รู้จักนายเต้มาก่อน และเพิ่งรู้ตอนที่เสียชีวิตแล้วว่าเรียนสถาบันคู่อริ ส่วนเบนซ์ นายโจ้ก็ยืนยันว่าไม่รู้จักเช่นกัน
นายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ ผู้เสียชีวิต
แม่นายโจ้มั่นใจว่าลูกไม่ได้ก่อเหตุ เพราะเจ้าตัวเป็นคนพูดความจริงกับพ่อแม่เสมอ และตอนที่ตำรวจนำตัวไปก็ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอบนเสื้อผ้าของลูก รวมถึงไม่ได้มีกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานว่านายโจ้เป็นคนลงมือ แต่ตำรวจได้ยึดมีดที่เพื่อนของนายโจ้ซึ่งนั่งกินหมูกระทะด้วยกันไปด้วย โดยมีดดังกล่าวใช้ตัดสายไฟเท่านั้น นอกจากนี้ แม่ของนายโจ้ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาครอบครัวของตนก็เครียด พ่อของนายโจ้ซึ่งเป็นโรคหัวใจ เมื่อนายโจ้ถูกจับตัว อาการก็ทรุดลงและเกิดอาการช็อก จนเมื่อช่วงเดือนมี.ค. 60 ก็กลายเป็นอัมพาตทั้งตัว ต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้เป็นแม่ยอมรับว่านายโจ้ใจร้อน แบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่น เคยถูกจับเรื่องกินน้ำกระท่อมเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดชนิดอื่น
นายณัฐพงษ์ หรือ โจ้
ในวันที่ 23 ก.ค. 61 นายโจ้ก็ได้เข้ามากราบและบอกพ่อว่าจะไปศาล โดยมีความหวังว่าตัวเองจะบริสุทธิ์ ทั้งยังกล่าวว่าหากหลุดคดีก็จะบวชให้พ่อ พ่อก็ลืมตาเหมือนรับรู้ได้ โดยเมื่อศาลตัดสินยกฟ้องแล้ว นายโจ้ตอนกลับมาที่บ้านพร้อมกับนำพวงมาลัยมากราบพ่อ ส่วนประเด็นที่นายศุภชัย ทัฬหสุนทร พ่อของนายเต้กระโดดตึกศาลอาญานั้น ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่า ช่วงที่ศาลอ่านคำพิพากษา พ่อของนายเต้เดินออกไปจากห้องทั้งที่ศาลยังอ่านคำพิพากษาไม่จบ และเมื่ออ่านจบแม่ของนายเต้ก็ตะโกนดังลั่นว่า ยกฟ้องทำไม พร้อมทำท่าจะปีนหน้าต่างกระโดดลงด้านล่าง ซึ่งนายโจ้กับนักโทษอีกรายที่อยู่ใกล้เคียงได้วิ่งไปจับไว้ไม่ให้กระโดด พร้อมร้องไห้เสียใจที่อีกฝ่ายคิดสั้น แต่แม่ของนายเต้ก็ด่าทอนายโจ้ตลอด หลังจากนั้นช่วงที่นายโจ้ลงมาจากห้องพิจารณาคดีเพื่อจะกลับบ้าน ก็ได้ยินข่าวว่ามีคนกระโดดตึก ตอนนั้นลูกชายเองก็แปลกใจ เพราะคิดว่าช่วยแม่ของนายเต้ไว้ได้แล้ว แต่มาทราบภายหลังว่าพ่อของนายเต้คือคนที่กระโดดลงมา ทำให้นายโจ้ช็อกมาก กลับมาที่บ้านก็ร้องไห้ ซึ่งตัวแม่เองก็ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ