เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังมีคนร้ายออกอาละวาดเผารถจักรยานยนต์ และรถยนต์ไปแล้วหลายคัน ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี แต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ตั้งแต่ปลายปี 63-64 รวมแล้วจำนวน 8 คัน ชาวบ้านจึงเกรงว่าคนร้ายอาจจะเผาบ้านเรือนเสียหาย ทำให้ชาวบ้านต้องคอยเฝ้าระวังเอง โดยไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางยังซอยสถาพร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เกิดเหตุรถยนต์ของประชาชนถูกไฟไหม้ ซึ่งขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ พบรถเก๋ง ทะเบียน กฉ 3582 ชลบุรี ถูกไฟไหมเกือบเสียหายทั้งคัน ซึ่งเป็นของนายธนกฤษฏิ์ แสนดี อายุ 56 ปี
นายมงคลวิทย์ ชยธรนิธิวงศ์ อายุ 46 ปี เจ้าของรถกระบะ ทะเบียน ฝ 4185 ชลบุรี ซึ่งถูกเผาได้รับความเสียหายเช่นกัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.63 ช่วงเวลา 04.00 น. ตนทำงานอยู่ในตัวจังหวัดชลบุรี ภรรยาของตนโทรศัพท์มาแจ้งตนว่า “รถถูกไฟไหม้” ตอนนั้นตกมาก รีบขับรถอีกคันกลับบ้านมาเพื่อมาดูรถ แต่ขณะที่ตนมาถึงบริเวณหน้าบ้าน เพื่อนบ้านในละแวกได้ช่วยกับดับไฟแล้ว มีแต่ควันลอยขึ้น พบว่าความเสียหายภายในรถถูกเผาไปหมด เช่น เบาะที่นั่ง กระจกแตกกระจายทั้งแผ่น เสียหายกว่า 1 แสนบาท ตนจึงตัดสินใจปล่อยทิ้งไว้หน้าบ้านแบบนี้
หลังจากนั้น ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.เสม็ด แต่ไม่มีความคืบหน้า เพราะตนรอเวลามาเกือบครึ่งปี แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ขณะนี้มีความลำบากเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถคันดังกล่าวที่ถูกเผา เป็นรถที่ใช้ทำงานทุกวันมากว่า 10 ปี และเป็นรถคันแรกในชีวิตที่หาซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ตอนนี้ต้องใช้รถอีกคันไปทำงานแทน ซึ่งหากรถอีกคันของตน คนร้ายแอบมาลักลอบเผาอีก ตนก็คงจะต้องลำบากไปทั้งชีวิต
อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียดายข้าวของทรัพย์สินที่เสียหายเป็นอย่างมาก ตอนนี้อยากขอวิงวอนให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายโดยเร็ว เพราะจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับรถคันอื่นอีก
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พบกับเจ้าของรถผู้เสียหายอีกคัน เป็นรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 3 กถ 711 ชลบุรี โดยเจ้าของรถคือนายเขียน เรืองหล้า อายุ 46 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ภายในบ้าน เวลาประมาณ 03.00 น. ตนได้ยินเสียงคล้ายกับพื้นปูนหน้าบ้านแตก ไม่นานก็ได้ยินเสียงคล้ายกับสิ่งของบางอย่างระเบิดดังขึ้น จังหวะนั้นก็เห็นเปลวไฟลอยขึ้นบนหลังคาบ้าน จึงต้องรีบเปิดประตูออกมาหน้าบ้าน พบว่ารถจักรยานยนต์ของตนกำลังถูกไฟเผาทั้งคันรถ
แต่ระหว่างที่เข้าไปดับไฟ ก็ถูกไฟลวกเข้าที่บริเวณใบหน้าด้านขวา แขนข้างขวา และขาด้านขวา เป็นรอยพุพองจากไฟลวกเนื้อตัว เพื่อนบ้านออกมาเห็นต้องรีบแจ้งกู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ขณะนั้นเพื่อนบ้านได้ช่วยกันดับไฟหมดแล้ว เหลือแค่ซากโครงของรถ ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวตนส่งโรงพยาบาล รักษาแผล 1 เดือนเพื่อให้แผลหายดี เพิ่งจะได้กลับมาอยู่บ้านช่วงปลาเดือนมี.ค.64 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจ ช้ำใจ และโกรธเป็นอย่างมาก สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุเผารถจักรยานยนต์ เนื่องจากรถคันนี้ตนเพิ่งจะออกมาช่วงปลาเดือนพ.ย.63 จนรถมาถูกเผาในวันที่ 10 ก.พ.64 ที่สำคัญสิ่งที่แย่ไปกว่านั้น ก่อนที่จะเกิดเหตุรถถูกเผา ตนได้ไปสมัครงานเป็น รปภ.ในบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งกับตนว่า ให้มาเริ่มงานในวันที่ 14 ก.พ.64 แต่รถของตนถูกเผาก่อนที่เข้าเริ่มงาน จนตอนนี้มีความลำบากเป็นอย่างมาก งานก็ไม่ได้ไปทำ ทั้งยังเจ็บตัวจากไฟลวก และรถก็ถูกเผาพังเสียหาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุ ตนยังไม่ได้ผ่อนค่ารถให้กับทางบริษัท เนื่องจากประกันรถจะช่วยเหลือให้เป็นเงิน 40,000 บาท และไฟแนนซ์ยังรอให้ตนไปเดินเรื่องเอกสาร แต่ก็เดินทางลำบาก ยังต้องรอให้ลูกชายมาจัดการเรื่องรถให้แทน
ทีมข่าวจึงเดินทางไปยัง สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ซึ่งทราบทข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนว่า ผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาได้เริ่มรับสารภาพแล้ว แต่ยังคงรอให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะสามารถนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้
