พ่อใจสลาย! แผ่นปูนริมน้ำถล่มทับลูกตาย ดับฝันเป็นพยาบาล เพื่อนช็อกสิ้นใจต่อหน้า (คลิป)

กรณีเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 64 เวลา 18.30 น. ร.ต.อ.จำนงค์ ชารีรมณ์ รอง สว.สส.สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง รับแจ้งเหตุที่หมู่บ้านเกาะคณฑี หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เป็นท่าเทียบเรือคอนกรีตร้าง เกิดเหตุถล่มทับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ชาวบ้านบนเกาะกำลังช่วยกันงัดร่าง และรื้อแผ่นปูนซีเมนต์สำเร็จรูปที่ทับร่างและขาของผู้บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนนำตัวทั้งหมดขึ้นเรือหางยาวนำตัวเดินทางมาขึ้นฝั่ง ประสานหน่วยกู้ชีพ รพ.ระนอง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ เร่งเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที

ที่เกิดเหตุ มีผู้บาดเจ็บจำนวน 5 ราย ถูกนำตัวมาขึ้นบนโป๊ะลอยน้ำ รายแรกที่บาดเจ็บและไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่พยาบาลเร่งปั๊มหัวใจทำซีพีอาร์ และใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ร่วม 15 นาที ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อนงค์นาถ หนูดาษ หรือ ฝ้าย อายุ 21 ปี นักเรียนพยาบาลปี 3 วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีพจรดึงสัญญาณชีพกลับคืนมาได้ เสียชีวิตก่อนเดินทางถึงโรงพยาบาล

ผู้ที่บาดเจ็บสาหัส และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนะนองคือ น.ส.วนิดา เหลืองรัตน์วัฒนะ หรือ เนส อายุ 21 ปี บาดเจ็บไหล่ซ้ายหัก ขาหัก 2 ข้าง, น.ส.ศิริลักษณ์ เหลืองรัตน์วัฒนะ หรือ เนย อายุ 18 ปี มีอาการบาดเจ็บขาขวาหัก เป็นพี่น้องกัน,

ผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อย ได้แก่ น.ส.พิกุลทิพย์ วังขุนพรหม หรือ แกว อายุ 21 ปี แผลถลอกตามร่างกาย, น.ส.วิภาวณี วังขุนพรหม หรือ ปาล์ม อายุ 16 ปี แผลถลอกตามร่างกาย เป็นพี่น้องกัน

วันที่ 16 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ลานปูนหลังบ้านพักส่วนตัว บ้านเกาะคณฑี หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง สภาพที่เกิดเหตุมีรอยร้าวตามขอบปูนที่หลงเหลืออยู่ เสาปูนที่พังถล่มวางอยู่ในน้ำ จำนวน 3 ต้น ไม่พบเศษซากปูนที่พังถล่ม ซึ่งวันนี้ระดับน้ำได้สูงขึ้นกว่าเดิม

น.ส.พิกุลทิพย์ วังขุนพรหม หรือ แกว เพื่อนของผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. พวกตนทั้ง 5 คนได้ไปเที่ยวบ้านของเพื่อน เป็นบ้านหลังเกิดเหตุ นั่งเรือจากฝั่งระนอง ไปยังเกาะคณฑี แต่เพื่อนของพวกตนไม่อยู่บ้าน พวกตนสังเกตไปเห็นว่าหลังบ้านเพื่อนมีปูนยื่นออกมาหาฝั่งทะเล ลักษณะเหมือนท่าน้ำ บรรยากาศสวยดี จึงเดินไปที่ลานปูนเพื่อจะถ่ายภาพรวมตัวกันเป็นกลุ่ม แต่ตนอยู่ฝั่งติดทะเลมากที่สุด และคนตายอยู่ด้านถัดจากตนมาฝั่งด้านในบ้าน

ระหว่างที่พวกตนต่างคนต่างถือโทรศัพท์ขึ้นมาเฟลฟี่ ยืนบนลานปูนไม่ถึง 30 วินาที ลานปูนก็ได้พังถล่ม ทรุดลงไปที่ใต้พื้นดินอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตกลงไป ตนเป็นคนที่มีสติที่สุด ส่วนเพื่อนและน้อง ๆ คนอื่นถูกแผ่นปูนทับตามร่างกายอยู่บ้างเล็กน้อย สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ตนสังเกตเห็นว่าร่างถูกแผ่นปูนทับทั้งตัว และไม่ได้สติ ไม่สามารถพูดคุยได้ ตนจึงร้องขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน พร้อมกับยกแผ่นปูนออกจากร่างของฝ้ายระหว่างรอเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ทั้งนี้ ที่พวกตนไปยืนถ่ายรูปที่จุดดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ นางสาวปาล์ม น้องสาวตน ได้ไปยืนถ่ายรูปกับเพื่อนของเขากว่า 10 คนที่ลานปูนดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร สำหรับตนกับผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ผู้ตายเป็นคนที่ร่าเริง ยิ้มแย้ม ทำให้เพื่อนหัวเราะ

สำหรับ น.ส.นิดา เหลืองรัตน์วัฒนะ หรือ เนส และน.ส.ศิริลักษณ์ เหลืองรัตน์วัฒนะ หรือ เนย ตอนนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ระนอง บาดเจ็บสาหัส และแพทย์ได้งดเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่วนตนและปาล์ม น้องสาวตน มีอาการบาดเจ็บถลอกตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น ตอนเกิดเหตุตนและนางสาวปาล์ม น้องสาวไม่ได้แขวนพระ หรือของขลัง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ในการสืบสวนต่อไป

เหตุที่เกิดขึ้นตนก็ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนระวัง เวลาไปท่องเที่ยวก็ให้ดูพื้นที่นั้นให้ดี เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเหมือนกรณีพวกตนได้ สำหรับนางสาวฝ้ายที่เสียชีวิต เขาวางแผนว่าถ้าเรียนจบจะไปเที่ยวด้วยกันกับตน แต่ก็มาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน ตนเสียใจและคิดถึงเพื่อนมาก

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่หมู่ 4 ต. บางลิ้น อ. เมือง จ.ระนอง สถานที่ตั้งศพของ น.ส.อนงค์นาถ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.ขนิษฐา หนูดาษ พี่สาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า วันนี้มากลับน้องชายมารับศพน้องสาวกลับบ้าน นำไปบำเพ็ญกุศลศพ ส่วนพ่อรออยู่ที่งาน ตั้งแต่ทราบเรื่องพ่อไม่ยอมพูดอะไรมาก เข้าใจว่าพ่อยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียน้องสาวไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว น้องกำลังจะมีอนาคตที่ดี ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นแต่การเรียน ก่อนเกิดเหตุการณ์น้องกลับมาบ้านก่อนช่วงสงกรานต์ ในวันเกิดเหตุน้องบอกแต่เพียงว่านัดเพื่อนสมัยเรียนมัธยมไปเที่ยวด้วยกัน โดยไม่ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน พ่อเห็นว่าน้องโตแล้ว ไม่ถามมาก จนกระทั่งมีเพื่อนน้องโทรมาบอกว่าน้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

นายสุริยะ หนูดาษ อายุ 57 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ กระทั่งหลังเกิดเหตุ ตนทราบข่าวว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุ ตนรีบออกจากบ้านไปที่ท่าเรือระนอง แต่ไม่ทันได้ข้ามฝั่งไปหาลูกสาวที่อยู่ฝั่งเกาะคณฑี ลูกสาวตนก็เสียชีวิตแล้ว สำหรับจุดที่เกิดเหตุลูกสาวสาวตนไม่เคยไปมาก่อน จึงไม่รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวผุพัง

สำหรับลูกสาวตนเป็นเด็กที่นิสัยดี รักการเรียน มีความใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาล เพราะอยากช่วยเหลือคน ลูกสาวอยู่ระดับปีที่ 3 อีก 1 ปีก็จะสำเร็จการศึกษา แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน เมื่อวานนี้ก่อนลูกสาวจะออกจากบ้าน ตนสังเกตว่าขอบตาลูกสาวจะดำคล้ำผิดปกติกว่าทุกวัน ตนยังได้พูดแซวลูกสาวว่าทำไมขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้าจังลูก ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นจะเป็นลางสังหรณ์หรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ต้องรอการทำงานของตำรวจต่อไป

นายวัชระ ขจรแสงเจริญ อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้หญิงทั้ง 5 คน ได้มาเที่ยวบ้านเพื่อนของเขาซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ แต่เพื่อนของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คนไม่อยู่บ้าน วัยรุ่นทั้ง 5 คน จึงถ่ายหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเซลฟี่กันก่อนจะกลับบ้าน โดยไปยืนถ่ายรูปกันที่ลานปูนหลังบ้านติดกับทะเล ทำให้ลานปูนดังกล่าวรับน้ำหนักไม่ไหว และพังถล่มลงไปที่ใต้พื้นดินสูงประมาณ 4 เมตร

โดยวัยรุ่นทั้ง 5 คนไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงไม่รู้ว่าลานปูนดังกล่าวผุพัง หลังเกิดเหตุน้อง ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง จนชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นมาให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มายังจุดเกิดเหตุ

สำหรับจุดเกิดเหตุดังกล่าวไม่ใช่ท่าเทียบเรือ แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของชาวบ้าน ลานปูนที่เกิดเหตุมีอายุการใช้งานมากว่า 30 ปี เป็นลานปูนริมทะเลที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกส่วนที่ติดทะเลที่สุด ปูนได้พังถล่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และส่วนที่ 2 ส่วนถัดมาเป็นส่วนที่พังถล่มเมื่อวานนี้ คนในพื้นที่จะรู้ดีว่าลานปูนดังกล่าวใช้งานไม่ได้แล้ว และคนในพื้นที่จะไม่เข้ามาใกล้จุดนี้เด็ดขาด สำหรับที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ส่วนตัว เจ้าของบ้านได้เสียชีวิตแล้ว เหลือแต่ลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นเพื่อนกับคนประสบเหตุ และตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น