ปู่มุนีหายซ่าโดนดักตีหน้าโรงพัก ยอมใช้หนี้ขอขมา "น้ำฟ้า" (คลิป)

วันที่ 6 เม.ย. 64 นางสาวรภัสสรณ์ ฤทธิธรไพบูลย์ หรือ น้ำฟ้า ภรรยาของนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากถูกนายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี ไลฟ์ด่าทออย่างรุนแรงผ่านยูทูบ อีกทั้งยืมเงินและไม่ยอมคืน

เวลา 14.00 น. นางสาวรภัสสรณ์ หรือ น้ำฟ้า ได้นำหลักฐานเป็นข้อความทางแชตไลน์ และคลิปวิดีโอการไลฟ์ของปู่มหามุนี ที่อัดไว้ก่อนที่จะถูกลบ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เวลาประมาณ 15.30 น. คุณน้ำฟ้าได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตนและหมอปลาช่วยเหลือปู่มหามุนี ให้ยืมเงินมาตลอด 3 ปี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ตนขอไม่เปิดเผยยอดเงิน เนื่องจากตนมีหลักฐานให้ยืมเงินเพียง 12,000 บาท เท่าที่จำได้ ตนถูกยืมไปมากกว่า 50,000 บาท วันนี้ตนเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อปกป้องสิทธิของตัวเองและหมอปลา เพราะที่ช่วงหลังที่ผ่านมา หลังจากที่ตนและหมอปลาย้ายออกจากกกกอก จ.มุกดาหาร ตนกับหมอปลาถูกปู่มหามุนีไลฟ์ด่าทออย่างต่อเนื่อง บางครั้งด่าทอไปถึงบุพการี ทั้งที่ตัวเองถือว่ามีบุญคุณกับอีกฝ่าย เพราะโอนเงินช่วยเหลือหลายครั้ง

ส่วนสาเหตุที่ปู่มหามุนีออกมาไลฟ์ด่าทอตนกับหมอปลา ตนคาดว่าน่าจะเกิดจาก 3 สาเหตุ คือตนไม่ยินยอมให้ปู่มหามุนียืมเงินต่อ, ปู่มหามุนีอยู่คนละฝ่ายกับตนเกี่ยวบ้านกกกอก เนื่องจากตนกับหมอปลาตัดสัมพันธ์กับลุงพล และเขาต้องการเรียกยอดวิว ยอดไลก์ยอดแชร์ในโซเชียล

ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้ปู่มหามุนีทำแบบนี้กับใครอีก หากอีกฝ่ายป่วย ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาอีกฝ่ายไปรักษา และตนอยากได้เงินคืน เพราะจะเอาเงินไปทำบุญ

หลังจากลงบันทึกประจำวัน คุณน้ำฟ้าพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน และสื่อมวลชน ได้เดินทางไปที่บ้านปู่มหามุนี ซอยบรมราชชนนี 20 แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายไม่ยอมออกมาพบ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหาปู่มหามุนี เจ้าตัวบอกว่า "อยู่บ้าน ขอให้รอหน่อย อยู่กับผู้การ กำลังจะเข้าบ้าน" ซึ่งทำให้ผู้สื่อข่าวงงเป็นอย่างมาก เนื่องจากอีกฝ่ายบอกว่าอยู่บ้าน แต่กำลังเข้ามาที่บ้าน

จากนั้นปักหลักรอปู่มหามุนีประมาณ 1 ชั่วโมง ปู่มหามุนีปีนออกทางกำแพงหลังบ้าน ข้ามไปยังกำแพงหลังบ้านอีกหลัง อ้างว่ากลัวว่าจะถูกทำร้าย เพราะมีคนมารอที่หน้าบ้านจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่หน้าปากซอยได้ทำการสกัดไว้ ควบคุมตัวแล้วพาตัวมายังสถานีตำรวจได้สำเร็จ

นายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ ยาบ้า ยาอี ยาเค และ กัญชา ซึ่งผลการตรวจสารไม่พบสารในตัว เจ้าตัวได้บอกหลังจากตรวจสารเสพติดเรียบร้อยแล้วว่า หลังจากนี้จะเตรียมแจ้งความฟ้องกลับคุณน้ำฟ้า เนื่องจากคุณน้ำฟ้าลงบันทึกประจำวันว่าตนเองมีสารเสพติดในร่างกาย ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนเงินจำนวน 12,000 บาทที่ยืมมานั้น ขอยืนยันว่าจะคืนให้ภายในวันนี้ทั้งหมด

โดยที่ตนไลฟ์ด่าคนแล้วคุณน้ำฟ้ากับหมอปลาเข้าใจว่าถูกด่านั้น ขอยืนยันว่าไม่พูดลอย ๆ อีกทั้งตนยังเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนติดตาม ที่ตนพูดไปทั้งหมดนั้นเป็นการแสดง

หลังจากนั้นตำรวจได้มีการเรียกตัวคุณน้ำฟ้า เข้าไปเคลียร์ใจกับปู่มหามุนีในห้องสอบสวน ปู่มหามุนียินยอมที่จะโอนเงินจำนวน 12,000 บาท ที่ยืมมาจากคุณน้ำฟ้าคืน ส่วนเรื่องที่มีการไลฟ์ด่า ก็ได้กล่าวขอโทษ พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการไลฟ์พาดพิงหมอปลากับคุณน้ำฟ้าอีกแล้ว จากนั้น ปู่มหามุนีได้ไหว้ขอโทษคุณน้ำฟ้า มีการหยอกล้อกัน ซึ่งปู่มหามุนีได้บอกให้คุณน้ำฟ้าตีหัวตัวเองถือเป็นการไถ่โทษ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวปู่มหามุนีออกมานอกสถานีตำรวจ เพื่อจะส่งกลับบ้าน แต่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น เมื่อยูทูเบอร์รายหนึ่งที่เคยมีปัญหากับปู่มหามุนีได้เข้าไปชี้หน้าและด่าทอ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ปู่มหามุนีได้ป้องกันตัวเองโดยการยกเท้าถีบอีกฝ่าย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาจับทั้งคู่แยกออกจากกัน แล้วนำตัวปู่มหามุนีกลับเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องสอบสวนอีกครั้ง

ในเวลาประมาณ 19.00 น. ภายหลังจากที่นำตัวปู่มหามุนีกลับไปยังห้องสอบสวน และเหตุการณ์หน้าโรงพักสงบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พาตัวปูมหามุนีและภรรยากลับไปที่บ้าน