เมื่อวันที่ 3 เม.ย.64 เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบความเสียหายกรณีอาคาร 3 ชั้น พังถล่มหลังเกิดเพลิงไหม้
โดยมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ คือ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยประจำจังหวัดนนทบุรี อาสาสมัครของมูลนิธิสยามนนทบุรี ได้เสียชีวิตลงจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุเพลิงไหม้หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ภายในซอยบรมราชชนนี 105
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.พัตร์พิมล ศรีไพร แฟนสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายธนภพ ประไพ ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.15 น. ซึ่งในครั้งนี้ตนไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ด้ววย เนื่องจากจะมีทำบุญที่อยุธยา ในช่วงตอนกลางวัน โดยพี่ต้นบอกตนให้นอนอยู่ที่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมกัน
กระทั่งตนทราบข่าว เมื่อประมาณ 07.15 น. โดยมีรุ่นน้องโทรศัพท์สอบถามว่า "พี่ต้น กลับมาจากออกปฏิบัติหน้าที่หรือยัง" ซึ่งตนคิดว่า 07.30 น. ก็กลับมายังบ้านแล้ว โดยปกติตนและพี่ต้นมักจะออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยกัน เพียงแต่วันนี้ที่ไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยกัน น้องที่รู้จักโทรมาสอบถามอีกครั้งว่าได้ข่าวมีเหตุไฟไหม้ตึกถล่ม และไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็ยังคงคิดว่าแฟนหนุ่มกำลังเดินทางกลับ
ต่อมาเวลา 07.30 น. รุ่นน้องโทรมาอีกครั้งถามว่า พี่ต้นสวมชุดอะไรปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพี่ต้นได้สวมชุดดับเพลิงและหมวกหมายเลข 46 จนเวลาผ่านไปรุ่นน้องคนดังกล่าวโทรเข้ามาอีกครั้ง ให้เข้ามายังพื้นที่เกิดเหตุเวลา 08.00 น. แต่หน่วยกู้ภัยได้นำร่างของแฟนหนุ่มออกมาพร้อมหมวกหมายเลข 46 จึงทำให้ทราบว่าเป็นแฟนของตนอย่างแน่นอน
ตั้งแต่คบกันมานานกว่า 25 ปี ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เสี่ยงต่อชีวิตและไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ ในทุก ๆ ครั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ แต่แฟนของตนนั้นเคยพูดให้ฟังว่าอยากเข้ามาพูดคุยกับ นายโทนทอง สุขแก่น เรื่องที่ต้องการอยากจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เต็มตัว เป็นพนักงานประจำ ไม่ใช่เป็นเจ้าหนาที่อาสา เนื่องจากช่วงหลังนี้ค้าขายลำบาก และอยากเริ่มทำงานปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนอย่างเต็มที่
โดยทางด้านพี่ต้น มีภาระที่ต้องคอยเลี้ยงดูลูกสาว 1 คน คือ น.ส. กาญจนา ประไพ อายุ 25 ปี (เป็นลูกของภรรยาเก่า) และมีรถยนต์กระบะ อีก 1 คัน โดยขณะนี้มีมูลนิธิสยามนนทบุรี ดำเนินการดูแลให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ เรื่องการจัดการเป็นเจ้าภาพพิธีทางศาสนา และจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
น.ส.พัตร์พิมล กล่าวว่า “พี่ต้นเป็นผู้ชายที่เก่งมาก และเป็นวีรบุรุษ อยากให้พี่ต้นหลับให้สบายไม่ต้องห่วงทางนี้”
จากการสอบถามทางด้านครอบครัว ระบุว่า วันพรุ่งนี้ ( 4 เม.ย.64) เวลา 09.00 น. จะนำร่างของนายธนภพ ประไพ (ผู้เสียชีวิต) ออกจาก สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนายังวัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี
สำหรับลักษณะของการเกิดเหตุดังกล่าว เริ่มต้นจากไฟไหม้อาคารสูง 3 ชั้น ซึ่งต้นเพลิงลุกลามจากชั้น 1 เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ แล้วพบว่ามีผู้พักอาศัยจำนวน 8 คน และให้การช่วยเหลือลงมาแล้ว 7 คน แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภายในอาคาร เพื่อค้นหาผู้ติดค้างภายในบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน 1 คน และมีรายงานในขณะว่าเสียชีวิตแล้ว จู่ ๆ อาคารดังกล่าวได้เกิดการทรุดตัว และถล่มลงมาทับเจ้าหน้าที่หลายราย
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภายในอาคาร เพื่อค้นหาผู้ติดค้างภายในบ้าน และมีรายงานในขณะว่าเสียชีวิตแล้ว จู่ ๆ อาคารดังกล่าวได้เกิดการทรุดตัว และถล่มลงมาทับเจ้าหน้าที่หลายราย
หนึ่งในผู้บาดเจ็บ คือ นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อปพร.บางรัก ซึ่งได้รับการช่วยเหลือและถูกนำตัวส่งมายัง รพ.หัวเฉียว และอยู่ระหว่างการเข้ารับการผ่าตัดบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง รพ.หัวเฉียว พบกับนายพัฒน์ คาน อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่อปพร.เขตบางรัก และเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ นายอิทธิพลจึงเดินทางไปปฏิบัติงาน และคอยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ศปภ.ของ กท. ซึ่งตนยังไม่ได้ได้เดินทางไปถึง ตนมาทราบว่าเพื่อนได้รับบาดเจ็บแล้ว และมีเจ้าหน้าที่อปพร. เขตอื่น ๆ โทรศัพท์มาสอบถามว่ ตนก็บอกว่าน่าจะไป จึงแจ้งว่านายอิทธิพลลูกหน่วยของตนติดอยู่ภายในซากอาคาร และผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็โทรศัพท์มาบอกว่า สามารถนำตัวออกมาได้แล้ว และได้รับบาดเจ็บไม่มาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบนำตัวส่ง รพ.หัวเฉียว
โดยนายอิทธิพล ปฏิบัติงานอยู่บริเวณในบ้านใกล้กับรั้วบ้านด้านขวามือ จากการสอบถามก่อนเข้ารับการผ่าตัด นายอิทธิพล บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลย เพราะผู้คนด้านนอกเสียงดังมาก จึงไม่ได้ยินเสียงซากอาคารทรุดแต่อย่างใด อาการล่าสุดขณะนี้ เอ็นที่มือซ้ายฉีก มือขวากระดูกแตก ขาทั้ง 2 ข้างโดนน้ำร้อนลวก จากน้ำที่ดับไฟ และไหลเข้าไปโดนกับความร้อนมาถูกขา ตามลำตัวมีรอยถลอกเล็กน้อย ซึ่งอาการก็ปลอดภัยดี สามารถสื่อสารได้ปกติ แต่ยังรับประทานอาหารไม่ได้ เนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดช่วงบ่าย
ทั้งนี้ตนรู็สึกโชคดีที่เพื่อนรอดมาได้ หลังจากที่นำนายอิทธิพลมาโรงพยายาล ก็ถามตนว่า "พี่ดับเพลิงคนข้าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง" ตนเองจึงบอกว่า "พี่เขาไปแล้ว" เมื่อนายอิทธิพลทราบ ก็เงียบไป และอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ตนยอมรับว่าทำงานอาสาพวกนี้ เกี่ยวกับสาธารณภัย ดับเพลิง ต้องเป็นบุคคลที่สวนกระแส ขณะที่ช่วงไฟไหม้ ชาวบ้านหนี แต่พวกเราต้องสวนเข้าไป เพื่อช่วยคนด้านใน และลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด จริง ๆ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เป็นเหตุสุดวิสัย คนที่เข้าไป ก็ต้องทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่ง ว่าเข้าไปแล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับเข้ามาอีก
