ดีใจ นอนไม่หลับ! ญาติทีมหมูป่า รับเชื่อคำ "ครูบาบุญชุ่ม" ออกถ้ำจะให้บวชหลีกเคราะห์ (คลิป)

หลังจากนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจการค้นหา จนพบทีมฟุตบอลเยาวชน และครูฝีกสอน รวม 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้ว โดยปลอดภัยทุกคน

วันที่ 3 ก.ค. 61 บรรยากาศที่โรงเรียนอนุบาลแม่สาย จ.เชียงราย โรงเรียนที่ ด.ช.ชนินทร์ วิบูลรุ่งเรือง หรือ น้องไตตั้น นักเรียนชั้น ป.6/3 กำลังศึกษาอยู่ โดย ด.ช.อิสรานุวัฒน์ ธีระพงษ์ หรือ น้องเจมส์ และด.ช.ฐิติวุฒิ วรรณโยง หรือ น้องไอซ์ เพื่อนสนิทน้องไตตั้น เล่าว่า หลังจากทราบข่าวเวลา 22.30 น. ว่าเพื่อนปลอดภัย ตนทั้งสองคนรู้สึกดีใจมาก แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน กลัวเพื่อนจะไม่รอด เพราะน่าจะมีอาการหิวและอ่อนเพลีย แต่เมื่อเห็นคลิปของหน่วยซีลแล้ว ก็คิดว่าเพื่อนน่าจะปลอดภัยดี น้องเจมส์ และน้องไอซ์ ระบุว่า ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น และดีใจมากที่จะได้เจอเพื่อน หากได้เจอกัน คำแรกที่จะถามน้องไตตั้นคือ หิวข้าวไหม เพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่ได้ทานอะไรเลย และทราบว่าไตตั้นชอบกินแอปเปิ้ล ถ้าไตตั้นกลับมาเรียน ตนสองคนจะเอาผลไม้และขนมมาแบ่งให้ ตอนนี้ตนอยากรู้ว่าไตตั้นเข้าไปใต้ถ้ำได้อย่างไร เพราะทางค่อนข้างแคบ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมาตลอดว่า เพื่อนต้องได้ออกมา และยังอยากให้ไตตั้นสู้ ๆ รีบกลับออกมาเรียนด้วยกัน ที่นั่งข้าง ๆ จะได้ไม่ว่าง

ขณะที่ นายอลงกรณ์ คำต๊ะ หรือ ครูน็อค ครูหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนเป็นครูของเด็ก 3 คนที่ติดในถ้ำคือ ด.ช.ชนินทร์ วิบูลรุ่งเรือง หรือ น้องไตตั้น, ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม หรือ น้องโน้ต และด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย หรือ น้องเติ้ล น้องโน้ตและน้องเติ้ล ปัจจุบันเรียนอยู่ที่ รร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ แต่เคยเรียนที่ รร.อนุบาลแม่สาย ครูน็อค เล่าว่า เด็กทั้ง 3 คน ค่อนข้างมีความเป็นผู้นำ สามารถที่จะนำเพื่อน ๆ และดูแลตัวเองได้ หากเปรียบเทียบกับวิชาลูกเสือ ก็เรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าหมู่ อีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีความตั้งใจสูง กล้าหาญ ตั้งใจเรียน เป็นเด็กกิจกรรม ทั้งนี้ ตนเคยพาเด็กทั้ง 3 คน ไปแข่งขันการทดลองวิทยาศาสตร์ จรวดขวดน้ำ ที่กรุงเทพมหานครฯ โดยน้องไตตั้น ก็มีการวางแผนว่าปีนี้จะให้ไปแข่งขันด้วย หากชนะเลิศ ก็จะได้เป็นตัวแทนของภาคเหนือไปแข่งขันต่อ นอกจากน้องไตตั้นจะชอบเล่นกีฬาแล้ว ยังชอบเล่นดนตรี อยู่ในวงดุริยางค์ด้วย ส่วนที่ในคลิปเห็นว่าเด็ก ๆ มีการพูดคุยตอบโต้กับนักดำน้ำชาวต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษได้นั้น ตนคิดว่าเป็นเพราะโรงเรียนส่งเสริมเรื่องทักษะด้านภาษาพอสมควร เด็ก ๆ จึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ถึงแม้จะไม่ได้คล่องมาก แต่ก็สามารถฟังชาวต่างชาติรู้เรื่อง สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กซุกซนนั้น ครูน็อค ยืนยันว่า น้องแต่ละคนนิสัยดี ไม่น่าจะไปลบหลู่เรื่องใดในถ้ำ ตนคิดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะภัยธรรมชาติและเป็นเหตุสุดวิสัยมากกว่า ส่วนที่คิดว่าก่อนจะมีสัญญาณที่ดีที่ได้เจอเด็กๆ เป็นเพราะท้องฟ้าเริ่มเปิด ฝนไม่ตก ทำให้สภาพน้ำลดลง เมื่อทราบว่าเด็กยังสามารถมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ดีอยู่ ตนก็รู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล และอยากให้น้องกลับมาเรียนได้เหมือนเดิมเร็วที่สุด ตนก็ขอแสดงความดีใจกับครอบครัวของเด็ก ๆ ด้วย และขอชมเชยที่เด็ก ๆ สามารถใช้ชีวิตรอดในถ้ำได้ เชื่อว่าทุกคนเก่งและยอดเยี่ยมทุกคน

ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย ได้พูดคุยกับ ด.ช.พัชรพล หมื่นเกี๋ยง หรือ น้องพีช อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับ ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุขจันทร์ หรือ น้องบิว ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ เนื่องจากพ่อของตนและพ่อของน้องบิวเป็นเพื่อนกัน น้องพีช เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับบิว ตั้งแต่อายุประมาณ 8 ขวบ และมักจะเล่นด้วยกันทุกครั้ง เวลาที่พ่อมาเจอกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้เจอบิวมาหลายปีแล้ว จนทราบข่าวว่าบิวติดถ้ำ เพราะพ่อของตนมาบอก ตนรู้สึกตกใจมาก และมีคำถามเกิดขึ้นว่าเพื่อนเข้าไปในถ้ำได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน โดยพ่อของตน เดินทางไปให้กำลังใจพ่อของน้องบิวที่หน้าถ้ำหลวง ตนจึงขอไปด้วย เมื่อไปถึงก็พบว่ารถติดช่วงทางเข้า ตนและพ่อจึงตัดสินใจเดินเข้าไประยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทั้งนี้ ตนเห็นว่าพื้นที่สกปรก มีขยะตกอยู่ตามพื้น จึงเดินเก็บให้ ถือเป็นการทำความดี และเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ด้วย หลังจากนั้น ก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ทราบข่าวว่าเจอทั้ง 13 คนแล้ว ตนรู้สึกดีใจจนนอนไม่หลับ และตั้งใจว่า หากมีเวลาว่าง ก็จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลอีกด้วย

ขณะที่ นายศรีวาทย์ สมใจเพียง ตาของน้องไนท์ ตาของนายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ หรือ น้องไนท์ นักเรียนชั้น ม.3 รร.แม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งลงมาจากถ้ำหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าหากมีการเคลื่อนย้ายทั้ง 13 คน ไปที่โรงพยาบาลเชียงรายแล้ว จึงจะให้ผู้ปกครอง และญาติขับรถตามไปที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งหากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางญาติจะให้เด็กทั้งหมด ทำการบวช เพื่อเป็นการแก้เคล็ด หรือที่ภาคเหนือเรียกว่า "บวชหลีกเคราะห์" เพราะมองว่าเด็ก ๆ ที่ต้องไปติดในถ้ำพร้อมกัน อาจเป็นเพราะทำกรรมด้วยกันมา นายศรีวาทย์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้สบายใจขึ้น แต่ยังรู้สึกเป็นห่วง เนื่องจากยังไม่ได้เจอหน้าหลานจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าหลานจะป่วย หรือบาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งตนอยากจะถามหลานว่า ตอนอยู่ในถ้ำนั้นไปอยู่อย่างไร กินอะไรบ้าง หิวข้าวหรือเปล่า แต่ตอนนี้รอเพียงน้ำลด และตนอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ให้ความช่วยเหลือจนสำเร็จ

นอกจากนี้ นายศรีวาทย์ ให้ผู้สื่อข่าวดูเหรียญรางวัลที่น้องไนท์ไปแข่งขันกีฬาได้ ทั้งวิ่งแข่ง แข่งขันฟุตบอล และปั่นจักรยาน

ด้าน นางเกี๋ยงคำ จันทาโพน ย่าของด.ช.ประจักษ์ สุธรรม หรือ น้องโน้ต เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ค.) ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงข่าวว่าพบตัวทั้ง 13 คนแล้ว ตนกำลังกล่อมหลานคนเล็กเข้านอน พอเพื่อนบ้านมาบอก ก็รู้สึกดีใจ วิ่งลงมาดูข่าว เกือบจะสะดุดล้มตกบันได ดีใจจนบอกไม่ถูก ทุกคนทุกบ้านร้องเฮกันเสียงดังไปหมด เหมือนเป็นลูกเป็นหลานตัวเอง ระหว่างที่มีการค้นหาตัว ตนก็ติดตามข่าวอยู่ตลอด และทุกคนมารวมตัวกันลุ้นรอดูข่าวดี ทั้งนี้ ตนฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกหน่วยงาน ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ตนซาบซึ้งใจมาก แม้ว่าจะยังพาตัวออกมาไม่ได้ แต่ก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ หากมีโอกาสเจอหลาน ก็อยากจะบอกว่าคิดถึง ทุกคนเป็นห่วงมาก อยากกอด ให้สมกับที่ไม่เจอกันมา 10 วัน และเชื่อว่าพระครูบาบุญชุ่ม ช่วยให้เจ้าหน้าที่เจอทั้ง 13 คน