ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ปัดประชดใคร! หลังโพสต์ปักธูป 36 ดอกกลางแจ้ง ลั่น “หมดเวรหมดกรรม”

22 มี.ค. 64

ไม่ว่าจะทำอะไรก็โดนจับตามองทุกฝีก้าว ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ หรือ กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ ที่ล่าสุดเธอมีการโพสต์ไอจีสตอรี่ปักธูป 36 ดอกกลางแจ้ง พร้อมเขียนแคปชั่นว่า #หมดเวรหมดกรรมสักทีนะ #เริ่มต้นใหม่ #บุญรักษาวีจิกับแม่นะคะลูก ทำเอาหลายคนสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวหรือเปล่า

วันนี้ (22 มีนาคม 2564) ได้เจอสาว ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ก็เลยต้องถามถึงเรื่องนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมย้อนถามถึงวาเลนไทน์ที่ผ่าน ที่มีการนำดอกกุหลาบสีส้ม ไปแขวนไว้ที่หน้ารั้วบ้านของอดีตสามี พร้อมได้ลงโมเมนต์ดังกล่าวเขียนแคปชั่นว่า “วาเลนไทน์เดย์สำหรับวีจิ แม่ขอโทษ กุหลาบสีส้ม กุหลาบแห่งความสำนึกผิด” แต่ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าตัวก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป

โดยสาวติ๊ก ได้เผยถึงการจุดธูปว่า จริงๆ ตนทำแบบนี้ทุกๆ 3 เดือนอยู่แล้ว เพื่อขอขมา ขออภัย ตนใช้ชีวิตมาจะ 38 ปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไปพลั้งเผลอทั้งกาย วาจา ใจ ประมาท พลาดพลั้ง พูดถึง หรือสาปแช่งต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลทั่วไป ตนก็เลยทำเพื่อขออโหสิกรรม ทุกๆ อย่างที่มันเกิดขึ้นจะได้จบสิ้นไป พูดง่ายๆ คือ ตนอยากจะหมดเวรหมดกรรม อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที ส่วนแฮชแท็กที่เขียนก็ไม่ได้จะพาดพิงใครจริงๆ

เช่นเดียวกับที่ตนเขียนว่าเริ่มต้นใหม่ ก็ไม่ได้หมายถึงว่าตนเริ่มคุยกับหนุ่มคนใหม่ ตนแค่อยากมีชีวิตใหม่ที่ดีเท่านั้น เพราะตนปฎิญาณกับตัวเองแล้วว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป ตนจะไม่มีผู้ชายคนใหม่ ตนจะเอาชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคอยมองดูลูก ทดแทนในสิ่งที่ตนเคยเป็นแม่ที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ถามว่ามีคนเข้ามาไหม ก็มี แถมสามารถดูแลตนอย่างสุขสบาย แต่ตนคิดว่าความสุขที่แท้จริงคือวีจิ ก็เลยไม่สนใจ

ในส่วนของการที่ตนนำดอกกุหลาบไปวางไว้ที่หน้าบ้านของอดีตสามี ตนก็แค่อยากบอกกับลูกว่า ตนรักเขานะเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากนั้นตนก็เพิ่งได้เจอลูกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะเพิ่งได้ข้อตกลงใหม่ว่า ตนสามารถเจอลูกได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ยอมรับว่าตนดีใจมากๆ

นอกจากนี้ตนก็เพิ่งส่ง น้องวีจิ ไปเรียนการฝึกพูด แต่เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแค่คนอยากให้วีจิได้พูดตามวัยของเขา ควรจะกล้าแสดงออกมากกว่านี้ จริงๆเขาพูดได้นะแต่คงมีอารมณ์ศิลปิน เพราะบางทีอยากจะพูดก็พูด แต่พยายามอยากจะให้พูดเขาจะไม่พูด

ล่าสุดเห็นจุดธูป 36 ดอก?
“วันนี้เป็นวันที่ดี วันที่22 มันเป็นเลขที่ดีที่สุดในชีวิตที่เป็นดวงสมพงษ์ จริงๆ ทำทุก 3 เดือนอยู่แล้วในการจุดธูป 36 ดอก ขอขมา ขออภัย เราใช้ชีวิตมาจะ 38 ปีแล้ว เราไม่รู้ว่าเราไปพลั้งเผลอทั้งกาย วาจา ใจ ประมาท พลาดพลั้ง พูดถึง สาปแช่ง หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ในสิ่งที่ไม่ดีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลทั่วไป เราก็ขออโหสิกรรม ขอให้ทุกๆอย่างที่มันเกิดขึ้น ที่เราประสบพบเจอ ให้มันจบสิ้นไป ก็อยากหมดเวรหมดกรรม อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้ว ปีที่ผ่านมาขอให้ทุกอย่างจบลงได้แล้ว จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที วันนี้ไหนๆ ก็มาบวงสรวงแล้วก็เลยจุดธูปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

หมดเวรหมดกรรมไม่ได้เกี่ยวกับใคร?
“ไม่พาดพิงใครมานานมากแล้ว ไม่คิดจะพาดพิงใคร ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ถ้าย้อนไปดูจะเห็นว่าติ๊กอยู่ในส่วนของติ๊กมาตลอด ไม่พูดพาดพิง ให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจ จะต้องยกประเด็นเก่าๆ ขึ้นมารื้อฟื้น ทำให้ใครต้องรับปัญหาเพิ่มขึ้น ติ๊กอยากแก้ไขให้ทุกอย่างในอดีตมันจบลงได้แล้ว ถ้ามันจะผิดก็ผิดที่เราคนเดียว เรายืดอกรับคนเดียวจะได้จบลงไป แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่”

คนโยงเราเข้าดราม่าตลอดเลย?
“คงโยงเราเข้าดรามาตลอดเลย เขามีสิทธิ์ที่จะโยงเพราะเขามีสิทธิ์ที่จะคิด เมื่อก่อนติ๊กก็จริงจังมากๆ กับการเป็นข่าว เพราะไม่อยากจะเสี่ยงกับเรื่องลูก เราคิดไปเอง เรากลัวว่าเชื่อมโยงปุ๊บ แล้วมันไปเกี่ยวกับลูกอีก แล้วเราก็จะเกิดการชะลอในการเจอลูก ก็จะเจอลูกได้ช้า อารมณ์เราก็สวิงไปหมดเลย อันนี้ก็ต้องขอโทษนักข่าวด้วย มันอยู่ในช่วงที่เราคิดแต่เรื่องลูกอย่างเดียว”

กับแฮชแทกเริ่มต้นใหม่คือมีหนุ่มใหม่แล้ว?
“ไม่มี ถ้าถามว่าระหว่าง 7 เดือนมีคนมาจีบไหม ก็บอกว่าไม่มีใครมีปัญหากับข่าว แต่ติ๊กมีปัญหาเอง ในช่วงเวลาที่เราต้องดูแลลูกในฐานะแม่คนหนึ่ง เราไม่สามารถดูแลลูกเราได้ ช่วงที่ลูกต้องอยู่กับอกแม่ ลูกจะนอนสะดุ้งรึเปล่า เขาไม่มือ ไม่มีอกของแม่ เราเลยปฏิญาณกับตัวเองว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ติ๊กจะไม่มีผู้ชายคนใหม่ จะเอาชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคอยมองดูลูก ทดแทนในสิ่งที่เราเคยเป็นแม่ที่เราทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ”

เราไม่เปิดใจแล้ว?
ไม่ค่ะ ก็มีคนเข้ามาจีบนะ มีทั้งคนมีเงินที่สามารถใช้หนี้เราทั้งหมดได้ ซื้อบ้านได้ เราสามารถอยู่ได้สบายๆ เลยไม่ต้องมานั่งขายของแบบที่ติ๊กกำลังทำอยู่ แต่ติ๊กมองว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นความสุขชั่วครู่ชั่วคราว แต่ความสุขที่แม้จริงคือวีจิ ทุกวันนี้เวลาไปไหน หลบนักข่าวสัมภาษณ์ตลอด ก็ต้องขอโทษนักข่าวทุกคนที่ติดต่อมาด้วย ติ๊กยังไม่พร้อม ติ๊กกลัวมากเลยกับการสัมภาษณ์ เพราะติ๊กยังอยู่ในสภาวะจิตใจที่ยังไม่หนักแน่น อารมณ์ยังสวิง ไม่รู้ว่าอาจจะพลากพลั้งในคำพูดที่ไม่ควรจะพูดออกไป แล้วจะไปเป็นประเด็นอีก เลยบอกกับตัวเองว่าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยพูดดีกว่า มันจะมีสติมากกว่า แล้วคนที่เสพข่าวก็จะได้ประโยชน์ด้วย ตอนนั้นติ๊กยอมรับว่าติ๊กพูดไม่รู้เรื่องเลย วันนี้ติ๊กมีสติดี จิตใจที่เข้มแข็งขึ้น ก็พร้อมจะตอบทุกคน อันไหนที่ไม่ก้าวก่ายชีวิตใครติ๊กพร้อมจะตอบแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องติ๊ก เรื่องลูก ติ๊กยืดอกตอบได้ทุกอย่าง”

1616398105125

กับที่เอาดอกไม้ไปวางหน้าบ้านวันวาเลนไทน์?
“วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันพิเศษ ความรักมันไม่ได้หมายถึงจะต้องมีสถานะ ไม่ได้หมายความว่าเราให้เขา เขาให้เราแล้วจะต้องเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน วันวาเลนไทน์สำหรับติ๊ก ไม่ว่าใครจะมีปัญหาอะไรกัน ไม่ว่าจะเพื่อน คนในครอบครัว พี่น้อง ถ้าเรายืนบนฐานของความรัก มันไม่มีข้ออะไรเลยว่าทำไมต้องเอามาให้ ทำไมต้องผิดหวัง ถ้าเรายื่นดอกไม้ให้ก็คือให้ เขาจะได้รู้สึกดี ติ๊กคิดแค่นั้น อีกอย่างติ๊กอยากบอกกับลูกว่า ติ๊กรักเขานะเท่านั้นเอง”

ได้เจอลูกหรือยัง?
“ได้เจอแล้วค่ะ เพิ่งได้เจอเมื่อวันเสาร์ (20มี.ค.) ที่ผ่านมา ถ้าย้อนไปเมื่อก่อน ติ๊กจะได้เจอลูกช้ามาก การเจอลูกมันยากสำหรับคนเป็นแม่ และทุกวินาทีที่เราพยายามแก้ไข เราไม่ได้เฝ้ารออะไรเลยในการแก้ไขชีวิต ติ๊กเฝ้ารอแต่จะได้เจอลูก มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทำงาน รับงาน ออกรายการ คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป้าหมายที่แท้จริงที่ทำให้เรามุ่งมั่นคือวีจิเท่านั้นเอง”

ข้อตกลงตอนนี้เราจะได้เจอลูกอย่างไรบ้าง?
เมื่อก่อนเจอลูกยาก แต่ตอนนี้เราได้แก้ไขมันแล้ว ที่เราได้เคยกระทำผิดแล้วเราได้เรียนรู้ถึงการที่จะแก้ไข มันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นไปตามขั้นตอนซึ่งมันก็ต้องใช้เวลา ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้วกับคนที่ทำผิดแบบติ๊ก มันไม่มีคำแก้ตัว มีแต่สิ่งที่ติ๊กจะต้องแก้ไข ถ้าเรามองไปถึงลูก ตอนนี้เขา 2 ขวบ การแก้ไขโดยใช้เวลา บางทีมันก็ต้องคิดถึงการพัฒนาในวัยเด็กของเขา ส่วนของติ๊กไม่มีหน้าที่ที่จะแก้ไขอะไรได้ดีเท่ากับการแก้ไขตัวเอง เราคาดหวังอะไรไม่ได้ ต้องรอให้เขาไว้ใจเรา เราก็ทำหน้าที่ของเราไป พอเราแก้ไขได้ดีขึ้นการเจอลูกมันก็ดีขึ้นด้วย ตอนนี้ได้เจอลูกอาทิตย์ละครั้ง เพิ่งจะได้ ติ๊กดีใจ และรู้สึกว่าเราก็ประคองตัวไว้เหมือนเดิมแหละ อยากจะแก้ไขตัวเอง ระวังคำพูดและการกระทำ อะไรก็ได้ที่เป็นไปในทางที่ดีเราก็ทำ อะไรที่ไม่ดีเราก็ละเลิกทำซะ”

น้องเป็นอย่างไรบ้างเวลาได้เจอแม่?
“เขาก็ดีใจที่เขาได้แม่ ตอนวีจิเล็กๆ เขากับติ๊กสนิทกัน ติ๊กคิดว่าติ๊กทำหน้าที่แม่อย่างดีที่สุดเท่าที่เรารู้สึก ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมามันทำให้เราทำหน้าที่แม่ได้ไม่ดี เป็นแม่ที่ไม่ดี เรารู้สึกแบบนี้มาตลอด แต่ตอนนี้ติ๊กก็ได้ตั้งตัวใหม่ ให้กำลังใจตัวเองในทุกวัน พาความรู้สึกตัวเองไปให้รอด ในหูได้ยินแต่เสียงวีจิ กลิ่นนี่อยากจะหอมหัวลูก อยากจะอาบน้ำให้ลูก อยากจะชงนมให้ลูก อยากจะทำอะไรที่ได้ทำหน้าที่ของคนเป็นแม่ให้กับลูก ลูกจะได้มีพัฒนาการที่ทันกับเด็กในวัยเดียวกัน หรือเขาจะได้มีความสุข ได้รับความอบอุ่น”

น้องไปเรียนฝึกพูด?
“น้องได้ไปเรียนฝึกพูด เพราะเราใส่ใจไปถึงเรื่องการพูด ประชาชนสังคมทั่วไป ต้องขอบคุณทุกคนที่รักและเอ็นดูวีจิมากๆ เหมือนเขามีแฟนคลับป้าๆ น้าๆ อาๆ ทั้งประเทศรักและใส่ใจเขา แต่เราเป็นพ่อเป็นแม่ เราก็ลุ้นให้ลูกเราพูดเหมือนกัน พี่หนุ่มก็พาน้องไปฝึกให้น้องมีทักษะในการออกเสียงตามวัย เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราอยากให้วีจิได้พูดตามวัยของเขา วัยของเขาควรจะพูดได้แล้ว ควรจะกล้าแสดงออกมากกว่านี้ เขาพูดได้นะจริงๆ แล้ว แต่เขาอารมณ์ศิลปินมั้ง บางทีอยากจะพูดก็พูด พยายามอยากจะให้พูดเขาจะไม่พูด พอเราทำไม่สนใจเขาก็จะพูด เช่น ตอนที่ได้เจอลูกเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็ลองให้เขาโยนลูกบอล แล้วเย่ดู ถ้าเด็กที่กล้าแสดงออกเขาจะกล้าพูด เขาจะไม่กลัว ถ้าเขากลัวเขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ติ๊กอยากให้เขากล้า เขาจะได้พูดได้ เมื่อก่อนเขาพูดปาป๊าได้เร็วมากเลย ยาย่า ที่พูดไม่ได้คือคำว่าแม่ ก็ยังรอเขาพูดคำนี้อยู่ ตอนนี้อยากให้เขาพูดปาป๊า ยาย่าก่อน แม่ค่อยพูดทีหลังก็ได้ ทั้งชีวิตติ๊กอะไรก็ได้ที่เห็นคนอื่นมีความสุข เล่นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขแล้ว”

1616398060012

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส