แม่ร่ำไห้กราบป้ายโรงพัก ยัวะลูกถูกขืนใจคดีอืด หนุ่มแจงสาวไม่ขัดขืนคือสมยอม (คลิป)

14 มี.ค. 64

กรณีคลิปเหตุการณ์หญิงรายหนึ่ง นอนกราบป้ายหน้า สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดยมีข้อความ ระบุว่า "ชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น ขอความช่วยเหลือ หลังลูกสาวถูกชายลักพาตัวไปข่มขืน กระทำอนาจาร เข้าแจ้งความ แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง โยนไปให้โรงพักที่อยู่ติดกัน พอไปถึงกลับถูกไล่ให้ไปแจ้งโรงพักเดิม สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ นอนกราบป้ายโรงพักร่ำไห้ ร้องขอความยุติธรรม”

805690

ทั้งนี้หลังจากนั้น ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องราวไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างตำหนิการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

601336

ล่าสุดวันที่ 14 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามพ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งมีลูกสาว คือ น.ส.ช่อ อายุ 27 ปี ที่พิการทางสมอง ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ว่าลูกสาวถูกนายเอนก พาไปข่มขืนกระทำชำเราที่บ้านพักในเขตพื้นที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 12 มี.ค.64

698129

กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 13 มี.ค.64 ญาติจึงพาเข้าแจ้งความ โดยร้อยเวร สภ.แวงใหญ่ ได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกับส่งตัวไปให้แพทย์ที่ รพ.แวงใหญ่ ตรวจร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อาจจะสื่อสารผิดว่า เมื่อเกิดเหตุในท้องที่ อ.ชนบท ควรไปแจ้งความที่ สภ.ชนบท และให้แพทย์ตรวจร่างกายที่นั้น

จากนั้นทางญาติจึงเดินทางมาที่ สภ.ชนบท เพื่อมาแจ้งวความ โดยทางร้อยเวรได้รับแจ้งความไว้พร้อมกับส่งตัวไปให้แพทย์ที่ รพ.ชนบท ตรวจร่างกายผู้เสียหาย เมื่อญาติกลับมาทางร้อยเวร สภ.ชนบท จึงแจ้งไปว่า ในเรื่องนี้ สภ.แวงใหญ่ เป็นเจ้าของคดี ทางสภ.ชนบท จึงไม่สามารถดำเนินการสอบสวน แต่จะประสานข้อมูลและส่งผลตรวจไปให้ทางร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.แวงใหญ่ จึงทำให้ญาติเข้าใจผิดว่า ตำรวจ สภ.ชนบท ไม่รับแจ้งความดำเนินคดี จนเกิดความไม่พอใจถึงขั้นฝ่ายทางผู้เสียหายด่าทอตำรวจ ก่อนจะไปนอนกราบป้ายหน้าโรงพักตามปรากฏในคลิปข่าว

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งวันนี้นายเอนก โคตดา อายุ 39 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางมาพบถูกพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดย พ.ต.ท.เทียรไชย ชาวส้าน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แวงใหญ่ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเรา" และ "พาไปซึ่งการอนาจาร" ซึ่งผู้ต้องหาได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจจะคุมตัวเป็นเวลา 1 คืน และจะฝากขังในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.64)

101582

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเอนก โคตดา ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะว่าตนไม่ได้ข่มขืน น.ส.ช่อ แต่คบหากับเขาเป็นแฟนโดยที่ไม่รู้ว่าเขามีความผิดปกติทางสมอง ซึ่งตนรู้จักกับ น.ส.ช่อ เมื่อ 3 เดือนก่อน เพราะตนไปรับจ้างขุดบ่อบาดาลที่บ้านของ น.ส.ช่อ ในพื้นที่ อ.แวงใหญ่ ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งเมื่อได้พบจึงพูดคุยและขอเบอร์โทรศัพท์พูดคุยกัน

โดยตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ก็พูดคุยกันทางโทรศัพท์ กระทั่งในวันเกิดเหตุก็ได้โทรชวนให้ น.ส.ช่อ มาเที่ยวบ้าน ในพื้นที่ อ.ชนบท ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน กระทั่งในวันที่ 12 มี.ค.64 เวลา 16.00 น. ตนได้ขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปรับ น.ส.ช่อ ที่บ้าน ซึ่งก่อนเดินทางมาด้วยกัน ตนก็ได้ถามแล้วว่าบอกคนที่บ้านหรือไม่ ด้าน น.ส.ช่อ ก็อ้างว่าบอกยายแล้ว หลังจากนั้นตนก็พา น.ส.ช่อ ไปนอนค้างคืนที่บ้านแม่ ใน อ.ชนบท และในคืนนั้นก็ได้ร่วมเพศกันฝ่ายหญิงสมยอม และตนไม่ได้บังคับขืนใจแต่อย่างใด

กระทั่งวันรุ่งขึ้น (13 มี.ค.) เวลา 06.00 น. ญาติของ น.ส.ช่อ ได้โทรมาหา น.ส.ช่อ และได้เข้ามารับตัวไปจากบ้านตน ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเป็นเหตุบานปลายขนาดนี้ เพราะตนทำไปก็เพราะรัก และคิดว่าหลังจากนี้จะไปสู่ขอเขาแต่งงานตามประเพณี แต่ไม่คิดว่าญาติเขาจะไปแจ้งจับตนในข้อหาข่มขืนเสียก่อน อย่างไรก็ตามตนก็ไม่รู้ว่าญาติจะประกันตัวหรือไม่ เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวจะมาถึงขนาดนี้

589215

ทั้งนี้ตำรวจ สภ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ได้เชิญนางยุ ผู้เป็นแม่ และ น.ส.ช่อ ผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากที่สอบปากคำเสร็จ นางยุ เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้นเยอะแล้ว แต่ลูกสาวยังคงเงียบ ๆ ไม่ยอมพูดจา ส่วนสภาพจิตใจลูกสาวก็ดีขึ้น แต่อารมณ์ยังขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะสมองไม่สมประกอบ

907684

สำหรับคำกล่าวอ้างของนายเอนก ว่าไม่ได้ข่มขืนลูกสาว ตนก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าไม่ข่มขืนก็คงไม่แอบมารับลูกสาวไปจากบ้านอย่างนี้ และนอนด้วยกันจนถึงเช้า ซึ่งตนมั่นใจว่านายเอนก จะต้องล่อลวงลูกสาวไปแน่นอน เพราะลูกสาวนั้นจะไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เพราะลูกสาวไม่สมประกอบ ซึ่งตนโกรธแค้นนายเอนกมาก ๆ เพราะตนออกตามหาลูกสาวตลอดทั้งคืน

414411

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพที่เห็นตนไปนอนอยู่หน้า สภ.ชนบท เพราะว่าในตอนนั้นตนเครียดมาก ๆ และไปแจ้งความแต่ตำรวจไม่ช่วย ก็ยิ่งทำให้เครียด ร้องไห้อย่างหนักจนเป็นลมไป ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้เข้ามาชี้แจงและเข้าใจกันแล้ว ทีมข่าวได้ภาพสำเนาคนพิการของ น.ส.ช่อ ซึ่งระบุว่า เป็นคนพิการ ประเภทที่ 5 คือมีปัญหาทางการเรียนรู้

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของนายเอนก ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พบรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ทะเบียน คบล 38 ขอนแก่น ซึ่งเป็นรถที่นายเอนก ใช้ไปรับ น.ส.ช่อ จอดอยู่ที่บ้าน ซึ่งจุดที่นายเอนก พาตัวของ น.ส.ช่อ ไปร่วมเพศเป็นกระท่อมข้างบ้าน ซึ่งเป็นที่นอนของนายเอนก โดยภายในกระท่อม มีเตียงและเสื้อผ้าของนายเอนก แขวนอยู่

220689

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางอ้อย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี พี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ในช่วงที่นายเอนก ผู้เป็นน้องชาย ไปขุดบ่อบาดาลบ้านของ น.ส.ช่อ ตนก็ได้ไปร่วมทำงานด้วย และได้เจอกับ น.ส.ช่อ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปแอบขอเบอร์กันตั้งแต่เมื่อไร และไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้ง 2 คนแอบคบหากัน แต่สำหรับน้องชายนั้น เจ้าตัวก็ยอมรับต่อญาติผู้เสียหายว่า ไปรับ น.ส.ช่อ มานอนที่บ้าน และร่วมเพศกันจริง ซึ่งทางครอบครัวก็อยากแสดงความรับผิดชอบ และทำทุกอย่างให้ถูกต้อง แต่ญาติผู้เสียหายไม่ยอมคุยด้วย และดำเนินการทางคดีเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าน้องชายไม่ได้ข่มขืน น.ส.ช่อ แต่ทั้งคู่พูดคุยคบหากัน และในวันเกิดเหตุก็โทรไปคุยนัดแนะและไปรับ ซึ่งฝ่ายหญิงก็เต็มใจที่จะมาด้วยกัน ส่วนนายเอนกเป็นคนซื่อ และเขาคงไม่ได้ข่มขู่ น.ส.ช่อ ซึ่งนายเอนก ก็รู้อยู่แล้วว่า น.ส.ช่อ ไม่สมประกอบ แต่คิดว่าทั้งคู่คงเป็นเนื้อคู่กันจึงได้คบกัน อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่รู้ว่าจะมีเงินประกันตัวน้องชายหรือไม่ ถ้าเงินไม่พอก็ต้องปล่อยให้น้องชายติดคุกไป ซึ่งตนก็อยากเจรจากับฝ่ายคู่กรณี แต่เขาไม่ยอมมาพูดคุยด้วย 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส