จากกรณีเพจ "อุทาหรณ์หม้อจิ้มจุ่ม" โพสต์ภาพบาดแผลพร้อมระบุข้อความว่า "อุทาหรณ์การทานจิ้มจุ่มค่ะ แผลนี้โดนหม้อจิ้มจุ่มตกลงมาลวกขาค่ะ นอน รพ. มา 26 วัน แล้วค่ะ เกิดจากคนชนหม้อล้มค่ะ ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ"
วันที่ 13 มี.ค. 64 นางสาวอั้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อยู่ในระหว่างการแจ้งความฟ้องร้องคู่กรณี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกลับมารักษาตัวที่บ้าน ตั้งแต่เมื่อประมาณวันที่ 6-7 มี.ค. 64 โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 64 ตนไปกินจิ้มจุ่มกับเพื่อนประมาณ 5 คน ที่ร้านจิ้มจุ่ม ทุกคนจะนั่งกินอาหาร แต่จะมีน้องคนหนึ่งยืนปิ้งย่างอาหารให้ ระหว่างนั้นรุ่นน้องคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นว่า "มึงทำแบบนี้ได้ไง" ซึ่งตนไม่ทราบว่าตะโกนคุยกับใคร ตอนนั้นโต๊ะก็ขยับหม้อก็ล้มใส่ตน
ขณะนั้นตนรู้สึกช็อกอยู่ จึงไม่ได้โวยวาย เพราะตนรู้สึกอาย และเกรงคนอื่นจะแตกตื่น พอตนเริ่มตั้งสติได้ ตนก็รู้สึกเจ็บมาก เพราะน้ำร้อนลวกตามมือและขา ปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการไปล้างตัวในห้องน้ำ
ส่วนทางร้านจิ้มจุ่มก็เข้ามาสอบถามทันทีว่าเกิดเหตุได้อย่างไร แต่ตอนนั้นตนตกใจจริง ๆ เห็นแค่โต๊ะขยับและหม้อล้ม รู้ตัวอีกทีก็ถูกน้ำร้อนลวกแล้ว ซึ่งเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายประมาณ 10 นาที จนตนทนไม่ไหว และขอให้ไปส่งที่โรงพยาบาล โดยครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ไปใช้บริการที่ร้านจิ้มจุ่ม ตนมองว่าไม่ใช่ความผิดของทางร้าน ตนจึงยังไม่อยากจะไปกล่าวพาดพิง และกล้องวงจรปิดของร้านดูได้เพียง 10 วันเท่านั้น ตนนึกว่าไม่มีปัญหา เลยไม่ได้ขอไว้
ทั้งนี้ ตนกำลังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดีความกับคู่กรณี คือคนที่อยู่ในโต๊ะของตน ตอนแรกรับปากว่าจะช่วยเยียวยาค่ารักษา ตนเลยไม่ได้ติดใจ แต่ช่วงหลังคู่กรณีปฏิบัติกับตนไม่ค่อยดีนัก คือไม่ค่อยมาเยี่ยม และหากตนไม่แจ้งค่ารักษาก็ไม่สอบถาม ตอนแรกตนอยากจะให้คู่กรณีช่วยค่ารักษาเท่าที่ไหว เพราะคู่กรณีก็เป็นรุ่นน้องที่ทำงาน ตนจึงรู้สึกเห็นใจ แต่ตอนนี้คู่กรณีไม่ได้เห็นใจตน หลังจากนี้ตนคงจะขอให้รับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 26 วัน และต้องหยุดงานกว่า 1 เดือน เพราะตนไม่สามารถเดินไปไหนได้ ต้องใช้รถเข็นช่วย หากจะไปข้างนอก สามารถไปได้แค่ระยะสั้น ๆ เพราะหมอเกรงว่าแผลจะติดเชื้อ อีกทั้งถ้าจะกลับไปทำงาน ต้องไปหลังวันที่ 20 ก.พ. 64 แต่ไม่สามารถยืนได้ ซึ่งตนประกอบอาชีพเป็นหัวหน้าเซลส์ เป็นอาชีพที่ต้องยืนและเดิน อีกทั้งยังต้องใช้ภาพลักษณ์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนสูญเสียภาพลักษณ์ไปพอสมควร
นอกจากนี้ ตนยังต้องเสียค่ารักษาต่อเนื่องทั้งไปหาหมอ และจ่ายค่ายา ได้แก่ ค่ารักษาขณะนอนที่โรงพยาบาล 26 วัน จำนวน 250,000 บาท และค่าส่วนต่าง เช่น ค่าห้องที่โรงพยาบาล ค่ายานอก ฯลฯ จ่ายไปประมาณ 30,000 บาท และหลังจากนี้จะต้องจ่ายเพิ่มอีก
ทั้งนี้ ตนเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ น้องชาย และผ่อนบ้านกับรถ ทุกวันนี้ตนได้เงินเดือน แต่ได้น้อยกว่าเดิมมาก เพราะรายได้ของตน ส่วนใหญ่จะมาจากยอดขาย สูญเสียรายได้ไปประมาณ 100,000-120,000 บาท อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภัยใกล้ตัว ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าแค่ไปกินจิ้มจุ่มทำให้เกิดเรื่องขึ้นได้ จึงอยากจะฝากเตือนภัยถึงคนที่กินจิ้มจุ่มหรืออยู่ใกล้ของร้อน อาจจะต้องนั่งให้ไกลหม้อ หรือคนที่ร่วมกลุ่มควรจะต้องระมัดระวังตัว
