คนสนิทเฟี้ยว์ฟ้าวขู่สื่อลบคลิปวังพญานาค พุทธลั่นตีแผ่ต่อ "พระ - ทนาย" จี้ถามกลัวอะไร? (คลิป)

กรณีนักแสดงสาว “เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้” ที่มีความศรัทธาในองค์พญานาค และมีความเชื่อว่าเป็นลูกหลานพญานาค จึงหันมาปฏิบัติธรรมรวมถึงบูชาพญานาค ตลอดจนมักจะถูกลอตเตอรี่เกือบทุกงวด มีทั้งโพสต์เฟซบุ๊ก และไลฟ์สดโชว์ลอตเตอรี่ จนนำเงินที่ได้มาสร้างสำนักปฏิบัติธรรมเทพประทานพรโพธิ์สัตว์ จ.เชียงใหม่ รวมถึงมีการตั้งสำนักทรงดูดวง และเปิดจำหน่ายวัตถุมงคลเกี่ยวกับพญานาค 

แต่ทางด้าน "หนุ่ม กรรชัย" ที่หยิบเรื่องราวดังกล่าวไปรายงานข่าว จนทำให้พี่ชายของเฟี้ยว์ฟ้าวไม่พอใจ กลายเป็นสงครามน้ำลายซัดกันเดือดบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้อมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังบริเวณสถานปฎิบัติธรรมดังกล่าว และได้สำรวจและบันทึกภาพจุดต่าง ๆ กลับมานำเสนอ ปรากฏว่าเฟี้ยว์ฟ้าว ประสานทนายขู่จะฟ้องอมรินทร์ ทีวี พร้อมกับให้เหตุผลว่าทีมข่าวนำโทรศัพท์มือถือไปถ่ายภาพในสถานปฎิบัติธรรม

ล่าสุดวันที่ 8 มี.ค.64 คุณจู๊ด-ฐานิตา ปิ่นน้อย ผู้จัดการส่วนตัวเฟี้ยว์ฟ้าว ได้ติดต่อมายังอมรินทร์ ทีวี พร้อมกับสอบถามว่า อยากให้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย กับการส่งนักข่าวเข้าไป มีคนส่งคลิปมาให้ดูย้อนหลัง และก็คือว่าลักษณะการที่เข้ามาถ่าย เหมือนลักษณะเป็นการแอบถ่ายที่สำนักปฏิบัติธรรม ตนยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นรายการไหน เวลาติดต่อประสานงานมาจะเข้ามาถ่ายที่สำนักปฏิบัติธรรม ยินดีตลอดไม่เคยมีปัญหา และจะให้ความร่วมมืออย่างดี และสถานที่แห่งนี้คือที่ปฎิบัติธรรม เป็นสถานที่เปิด ไม่ใช่สถานที่ปิด เราไม่เคยมีอะไรแบบปกปิด ความลับ หรือห้ามถ่ายอะไรไม่เคย

แต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ตนได้ดูข่าวอมรินทร์ ทีวี เสนอออกไป ไม่ค่อยโอเค ตนก็เป็นสื่อมวลชนเหมือนกัน อยู่สมาคมนักจัดรายการข่าว วิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ อยู่ในวงการสื่อเหมือนกัน ในการนำเสนอข่าวต้องเสนอบนข้อเท็จจริง และเราก็ต้องดูการนำเสนอว่าสิ่งที่เรานำเสนอคืออะไร แต่สิ่งที่อมรินทร์นำเสนอออกไป เสมือนว่า สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เป็นที่หลอกลวงประชาชน ตนจึงอยากได้คำตอบจากทางผู้ใหญ่ด้วย

คุณจู๊ด กล่าวต่อว่า การที่อมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปนั้น ไม่ได้ไปในฐานะนักท่องเที่ยว เราคุยกันบนพื้นฐานความเป็นจริง คือตอนนี้ไม่ค่อยโอเค แต่ถ้าอมรินทร์ ทีวี มีเหตุผลที่ดี มีคำพูดที่ดี ตนก็โอเค ก็เลยอยากจะถามว่า สิ่งที่นำเสนอเพื่ออะไร วงจรปิดตนบันทึกไว้หมดที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เดี๋ยวจะไปลงบันทึกประจำวัน และก็จะไปแจ้งความดำเนินคดี สิ่งที่คุณทำ ที่คุณสื่อออกไป ทำไมถึงทำแบบนี้ ตนยอมรับว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เปิด และที่แห่งนี้ใช้ดูกรรมและมีค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนเข้ามากราบไหว้แม่เจ้า แต่สิ่งที่อมรินทร์ ทีวีพูดออกไปไม่ให้เกียรติ แม่เจ้าชโรชินี ไม่ให้เกียรติสำนักปฏิบัติธรรม และอยากให้อมรินทร์ ทีวี รับผิดชอบ เพื่อยุติเรื่องที่เกิดขึ้นดังนี้

1.ลบคลิปรายการที่นำเสนอออก

2.ออกหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการ

3.ขอโทษผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว 

4.ให้ผู้สื่อข่าวมาขอโทษด้วยตัวเอง

คุณพุทธ อภิวรรณ กล่าวชี้แจงผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ที่ผ่านมา คุณอรอุมา แคนดา นักข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ทำข่าวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จตามหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นจึงแวะไปพักผ่อนที่สถานปฏิบัติธรรมเทพประทานพรโพธิ์สัตว์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่เปิดและสามารถบันทึกภาพต่าง ๆ ได้ และไปบูชาวัตถุมงมลต่าง ๆ กลับมาด้วย รวมถึงได้ไปพบกับการเสี่ยงโชค และการทำนายกรรม

ทั้งนี้คุณอรอุมา ประสงค์ที่จะให้ญาติของคุณเฟี้ยว์ฟ้าว ที่อยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมเทพประทานพรโพธิ์สัตว์ จ.เชียงใหม่ ทำนายกรรมตรวจดูดวงชะตา จึงได้จ่ายเงินค่าครู 1,000 บาท และบันทึกภาพเอาไว้ทั้งหมด อีกทั้งทางญาติของคุณเฟี้ยว์ฟ้าวก็ไม่ได้สั่งห้ามบันทึกภาพแต่อย่างใด ดังนั้นอมรินทร์ ทีวี ยืนยันว่าเราทำหน้าที่ของสื่อมวลชน และนำเสนอข้อเท็จจริง

แต่หลังจากที่ อมรินทร์ ทีวี ได้นำเสนอข่าวออกไป กลับมีผู้ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทกับคุณเฟี้ยว์ฟ้าว ติดต่อเข้ามาขอให้อมรินทร์ ทีวี ลบคลิปที่เกี่ยวข้องกับสถานปฏิบัติธรรมเทพประทานพรโพธิ์สัตว์ จ.เชียงใหม่ ออกทั้งหมด เพราะหากคลิปดังกล่าวยังเผยแพร่ต่อไป อาจจะสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนได้ ทั้งนี้ตนในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองบรรณาธิการข่าว ยืนยันว่าไม่สามารถลบคลิปตามคำขู่ได้

นอกจากนี้ บุคคลดังกล่าว ยังกล่าวอ้างว่าคุณอรอุมา เข้าไปบันทึกภาพคล้ายกับลักษณะของการแอบถ่าย ตนขอยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เปิด และทุกคนสามารถเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม บุคคลดังกล่าวยังได้ยื่นข้อเสนอให้อมรินทร์ ทีวี ชี้แจงดังต่อไปนี้ 1.ขอโทษผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว 2.ทำหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการ 3.ลบคลิปรายการที่นำเสนอออก และ 4.ให้ผู้สื่อข่าวมาขอโทษด้วยตัวเอง

"ผมยืนยันตรงนี้ ไม่ขอโทษครับ เรายืนยันว่าไม่กราบขอโทษครับ และจะขอนำเสนอข้อเท็จจริงต่อไป เรามีเสียงบันทึกที่เขามีการข่มขู่ให้เราลบคลิป ไม่เช่นนั้นเขาจะดำเนินคดี" คุณพุทธ อภิวรรณ กล่าวชี้แจง

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับพระราชธรรมนิเทศ หรือ "พระพยอม" กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า "พญานาคของเฟี้ยว์ฟ้าวก็ตามชื่อ คือเฟี้ยว์ฟ้าวมากกว่าพญานาคทั่วไป มากกว่าพญานาคลุงพล หรือที่มีอยู่ริมแม่น้ำโขง และพญานาคของเฟี้ยว์ฟ้าว ไม่ต่างจากพญานาคทั่วไปที่คนนับถือกัน"

ทั้งนี้อาตมามองดูแล้ว เป็นเพียงกุศโลบายที่จะหาลาภหาผลจากความงมงายของประชาชนเท่านั้น และบันดาลโชคไม่ได้ หากบันดาลโชคได้ประเทศไทยคงเป็นที่ 1 ของโลก บันดาลโชคให้คนทั้งประเทศ และรัฐบาลคงนำมาไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อบันดาลให้เงินคลังสะพัด

นอกจากนี้ อาตมาอยากเตือนสติประชาชน ตามหลักพระพุทธเจ้าจะต้องเชื่อกรรม และเชื่อความเพียร และหากเชื่อกรรมอย่างเดียวปล่อยไปตามยถากรรมก็ไม่ดี แต่ถ้าเชื่อกรรมและมีความเพียรพยายามด้วย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเครื่องรางมงคลวัตถุ แล้วก็ต้องมองหาเหตุที่ทำให้ลาภเกิดขึ้น เพราะถ้าไม่ทำงานอย่าหวังเลยว่าลาภจะเกิด คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ในโลกนี้ต้องทำงาน

ฉะนั้น เฟี้ยว์ฟ้าว จะมาเป็นเศรษฐี เพราะพญานาค โดยไม่ทำงานไม่ทำหน้าที่คงจะดีไม่ได้ และถ้าทำงานทำหน้าที่จากพญานาคก็ต้องทำให้สติปัญญาเกิดขึ้นกับคนที่เชื่อด้วย ส่วนเครื่องรางของขลังของเฟี้ยว์ฟ้าวอาตมาดูแล้ว จะอวดอ้างเกินจริง โฆษณาเกินจริงไป อาตมาอยากฝากถึงประชาชนที่หลงงมงายให้มีสติ วัตถุมงคลมาเร็วไปเร็ว ทั้งจตุคามรามเทพ ไอ้ไข่และส้มฉุน ตุ๊กตาลูกเทพต่าง ๆ ก็มาเร็วไปเร็วทั้งนั้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป เพียงแต่ว่าใครตั้งอยู่นาน 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดสร้อยทอง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พระมหาไพรวัลย์ วรวณโณ พระนักคิดนักเขียนวัดสร้อยทอง กล่าวว่า ในมุมมองของพระหากเป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม หากไม่มีอะไรซ่อนเร้นก็ควรสามารถเปิดเผยได้ อาตมามองว่าหากมีสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายทำเผยแพร่ทางศาสนา ถือว่าหากมีผู้คนติดตามข่าวต้องการไปปฏิบัติธรรม ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสำนักปฏิบัติธรรม

ยกเว้นแต่ว่าใช้เพียงแค่ชื่อว่า สำนักปฏิบัติธรรม แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยเรื่องหลายที่ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมหรือพระพุทธเจ้า เช่น ดูดวง เชื่อเรื่องอดีตชาติ เชื่อเรื่องของเจ้าพ่อเจ้าแม่ อีกทั้งที่สำคัญที่สุดสถานที่ปฏิบัติธรรมจะต้องไม่เป็นที่รวมสิ่งอบายมุข เช่น ลอตเตอรี่ เลขหวยรวยเบอร์มาหลอกขายให้กับผู้คน รวมถึงวัตถุมงคลนั้นก็ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติธรรม เพราะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง เช่น ศาลเจ้า ที่มีการขายวัตถุมงคล เทพเจ้าต่าง ๆ เทพฮินดู มูเตลู

โดยต้องนึกถึงให้ดีว่า เมื่อเข้าไปยังสถานที่นั้นแล้ว ผู้ที่เข้ามาจะได้อะไร ได้ลอตเตอรี่เพื่อให้รวยขึ้นหรือ โดยสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับการปฏิบัติธรรมอย่างสิ้นเชิง สรุปแล้วว่าที่ปฏิบัติธรรมนั้นถือเป็นสถานที่อบรมจิตใจให้สงบในแนวทางของพระพุทธศาสนา โดยที่ปฏิบัติธรรมนั้นไม่จำเป็นต้องตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม อยู่ที่บ้าน และที่ไหน ๆ ก็ปฏิบัติธรรมได้ หากใจเราเป็นสงบ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับทนายเกิดผล แก้วเกิด หัวหน้าสำนักงานทนายความอิสระ ระบุว่า กรณีดังกล่าวการเข้าพื้นที่และไปถ่ายคลิปบันทึกภาพส่วนต่าง ๆ ภายในสถานปฎิบัติธรรม เสมือนเป็นการรายงานข่าวทั่วไป อีกทั้งจากที่ตนได้ติดตามข่าวดังกล่าว ก็ไม่พบว่าผู้ประกาศข่าวบิดเบือนเนื้อข่าวหรือใส่ความ แต่เป็นการรายงานข่าวตามสถานการณ์และเหตุการณ์จริง ตนจึงมองว่าไม่เป็นความผิดทางแพ่งหรือทางอาญา

อีกทั้งทีมข่าวไม่ได้รายงานข่าว ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานปฎิบัติธรรม และรายงานข่าวตามความจริง ตนมองว่าสถานปฎิบัติธรรมดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องปกปิด เนื่องจากสถานที่ปฏิบัติธรรมทั่วไปเป็นสถานที่สาธารณะ และสถานที่สาธารณะ คือสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางเข้าออกได้ ส่วนจะสามารถบันทึกภาพหรือถ่ายคลิปวิดีโอตามสถานที่สาธารณะนั้น ๆ ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของสถานที่มีการประกาศหวงห้ามสถานที่หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม การที่ทีมข่าวนำเสนอข่าวภายในสถานปฎิบัติธรรม ตนมองว่าสถานปฎิบัติธรรมดังกล่าวมีการจัดกิจกรรมขึ้นมาเอง ไม่ใช่นักข่าวเป็นฝ่ายจัดทำขึ้น ดังนั้นการบันทึกภาพแล้วนำมาเสนอข่าว เป็นการนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง ถึงไม่มีนักข่าวเข้าไปนำเสนอข่าวดังกล่าว ตนเชื่อว่าก็ต้องมีประชาชนที่เข้าไปในสถานปฎิบัติธรรม และซื้อสินค้าวัตถุมงคลภายในสถานปฎิบัติธรรมแห่งนั้นอยู่แล้ว แต่นักข่าวเพียงนำเสนอข่าวตามความจริงว่า ภายในสถานปฎิบัติธรรมแห่งนั้น มีการจัดกิจกรรมอะไรบ้าง

นอกจากนี้ ตนมองว่ากิจกรรมต่าง ๆ ภายในสถานปฎิบัติธรรมน่าจะไม่มีอะไรเสียหาย เว้นแต่สถานปฎิบัติธรรมจะมีเจตนาจะหลอกลวงประชาชน เพราะหากมีความบริสุทธิ์ใจจริง ก็น่าจะไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเสมือนเป็นความต้องการของสถานปฎิบัติธรรมที่อยากให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับสถานปฎิบัติธรรม

นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม มองว่า ต้องดูสถานที่ดังกล่าวห้ามถ่ายภาพหรือไม่ ถ้าไม่ได้ห้ามก็บันทึกภาพได้ เนื้อหาที่ออกอากาศตนดูแล้วไม่ได้มีอะไรเสียหาย เป็นการนำเสนอสิ่งที่พบเห็นในสถานปฏิบัติธรรม ตนอยากถามสำนักปฏิบัติธรรมว่า มีเนื้อหาส่วนไหนบ้างที่ทำให้เสียหาย อยากบอกสำนักปฏิบัติธรรมให้ใจกว้าง เพราะเป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนมาทำบุญ เข้ามาได้ทุกคนโดยไม่มีข้อห้าม ก็ต้องให้มีการตรวจสอบได้ ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเป็นประเด็นด้วยซ้ำ

ส่วนตัวมองว่า หากมีการนำเสนอไม่ตรงข้อเท็จจริง ทางสำนักปฏิบัติธรรมชี้แจงได้ เท่าที่ดูข่าวก็ไม่เห็นว่าทางสำนักปฏิบัติธรรมจะเสียหายตรงไหน เนื่องจากการเปิดกรรม ขายวัตถุมงคล ก็เป็นเรื่องปกติหลายที่เขาก็ทำกัน ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่นำเสนอข่าวไป ก็ไม่เห็นว่าเป็นการโจมตีสำนักปฏิบัติธรรม