"ป้าแสงระวี" ตะเพิดเพื่อนบ้านให้ย้ายหนีถ้ารำคาญหมา ลั่นจะเลี้ยงเป็นร้อยเพราะรวย (คลิป)

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย. 61) กลุ่ม Watchdog Thailand พร้อมด้วยชาวบ้านในซอยโพธิ์ปั้น 10 ได้เข้ามายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผบก.น.1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง ว่า น.ส.แสงระวี กันใจรุ่งโรจน์ มีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ (อ่าน : แฉ “ป้าแสงระวี” หวงหมา แต่ขัง อึ้งสตัฟฟ์ซาก เพื่อนบ้านฉะ เอือม 30 ปี นิสัยไม่เปลี่ยน)

วันนี้ (16 มิ.ย. 61) ทีมข่าวเดินทางมาที่ซอยโพธิ์ปั้น 10 โดย พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง, นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผอ.เขตดินแดง, น.สพ.ธีระวุฒิ สุวัธนะเชาว์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์ และอาสาสมัคร WDT เดินทางมาที่บ้านของป้าแสงระวี และพบว่าป้าแสงระวีอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่ออกมาพบสื่อฯ โดยป้าแสงระวี ออกมาที่ระเบียงชั้นสอง และพาสุนัขเข้าไปด้านใน โดยกล่าวว่า “แม่ขออาบน้ำสุนัขก่อน แล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์ทุกสำนัก”

ทีมข่าวสอบถาม นายกัน (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนทราบว่าจะมีการตรวจค้นที่บ้านป้าแสงระวีในวันนี้ ส่วนตัวคิดว่าป้าแสงระวีทารุณกรรมสัตว์ สังเกตจากสภาพของสุนัขที่ถูกขังไว้ในกรงตลอดเวลา ในวันนี้ที่จะมีการตรวจค้น ตนมองว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว ที่เจ้าหน้าควรดำเนินการ และหากป้าแสงระวีเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์จริง ตนรู้สึกสงสารสุนัข อยากให้ป้าปรับพฤติกรรม โดยเลี้ยงดูสุนัขให้ดีขึ้น หรือควรที่จะให้ทาง WDT รับสุนัขไปดูแลแทน

ด้านป้าแสงระวีมีท่าทีไม่ยินยอมที่จะให้ตรวจค้น โดยอ้างว่า กำลังอาบน้ำสุนัขอยู่ และออกมาที่ระเบียงชั้นสอง พาสุนัขเข้าไปด้านใน คาดว่านำไปอาบน้ำ โดยหิ้วขาหน้าของสุนัขข้างเดียว แล้วใช้วิธีกึ่งหิ้วกึ่งลากเข้าไปในบ้าน แต่ทางด้านคุณลุงอมร คนเลี้ยงสุนัข ที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน ได้เปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้น แต่ป้าแสงระวีไม่ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นมาที่ชั้นบน โดยให้เหตุผลว่ากำลังทำความสะอาดสุนัขอยู่ จากนั้นไม่นาน ทีมข่าวก็ได้ยินเสียงปิดประตู และป้าแสงระวีพูดว่า “บอกว่าอย่าทำน้อง ได้ยินไหม” โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนกำลังอาบน้ำสุนัขอยู่ 4 ตัว ตอนนี้เหลือเพียงตัวเดียวก็อาบน้ำเสร็จแล้ว จากนั้นป้าแสงระวีลงไปด้านล่าง แต่เจ้าหน้าที่ก็ขึ้นมายังชั้นสองของบ้านได้สำเร็จ

โดยอาสาสมัครจาก WDT ออกมาอุ้มสุนัขที่บริเวณระเบียงชั้นสอง จากนั้นอาสาสมัคร WDT อุ้มสุนัขออกมาจากบ้าน สภาพของสุนัขมีบาดแผลที่ก้น คล้ายถูกของมีคมบาด

หลังจากตรวจสอบในบ้านของป้าแสงระวี พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า จากการตรวจค้น พบสุนัขประมาณ 30 ตัว มากกว่าที่ป้าแสงระวีเคยแจ้งไว้ว่ามีเพียงประมาณ 10 ตัว จากการตรวจค้นสภาพภายในบ้านพบว่ามีความปกติดี เพียงแต่อาจจะแออัดไปบ้างสำหรับสุนัข 30 ตัว ทั้งนี้ ไม่พบสุนัขสตัฟฟ์ที่เพื่อนบ้านได้มีการแจ้งไว้ โดยจากการพูดคุย ป้าแสงระวี ยอมรับว่า เคยสตัฟฟ์สุนัขไว้จริง แต่เป็นภาพเก่าหลายปีแล้ว

ด้าน น.สพ.ธีระวุฒิ สุวัธนะเชาว์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์ เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีสุนัขตัวใดป่วยหรือมีโรค และจากการตรวจสอบร่องรอยบนตัวสุนัข ไม่พบร่องรอยแผลที่เกิดจากการทารุณกรรม โดยมีสุนัขที่มีบาดแผล 2 ตัว เกิดจากการตัดขนของป้าแสงระวี สุนัขมีเห็บหมัดบ้าง แต่ด้านร่างกายอยู่ในระดับ 3 คือไม่อ้วนหรือผอมเกินไป แต่ความเป็นอยู่ค่อนข้างแออัด เนื่องจากมีจำนวนมาก และบางตัวถูกเลี้ยงในกรงเดียวกัน สำหรับอาหารที่ให้สุนัขกินก็อยู่ในระดับที่กินได้ ด้านความสะอาดก็ไม่พบว่ามีคราบหมักหมม ส่วนการฉีดวัคซีน ป้าแสงระวีบอกว่าได้มีการฉีดวัคซีนสุนัขด้วยตนเองแล้ว

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.แสงระวี กันใจรุ่งโรจน์ เกี่ยวกับการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ โดยป้า เปิดใจว่า วันนี้ตนไม่ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เพราะตนแต่งตัวไม่เรียบร้อย และกำลังตัดขนสุนัขอยู่ด้านบน และที่ตนตัดขนพลาดไปโดนผิวของสุนัขจนเป็นแผล เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่บุกขึ้นมาโวยวายบนบ้านตน สำหรับเรื่องสุนัขสตัฟฟ์ที่เพื่อนบ้านร้องเรียน ป้าแสงระวี ระบุว่า เคยสตัฟฟ์สุนัขไว้จริง เป็นสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลชื่อช้างเบนซ์ ตนสตัฟฟ์ไว้เพื่อจะทำบุญให้ แต่ปัจจุบันได้มีการขนย้ายออกไปแล้ว และสำหรับเรื่องที่ WDT รับสุนัขไปรักษา 2 ตัวนั้น ตนก็รู้สึกดี เพราะทาง WDT จะนำสุนัขไปเย็บแผลให้ และหลังจากเย็บแผลเสร็จ ตนก็จะไปรับสุนัขกลับมา สำหรับจำนวนสุนัข ตนแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีประมาณ 10 ตัว แต่จากการตรวจค้นพบว่ามีประมาณ 30 ตัวนั้น ตนขอแย้งว่า ตนนับเฉพาะสุนัขตัวใหญ่ ลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ตนไม่ได้นับ จึงนับได้ประมาณ 10 ตัว โดยสุนัขทุกตัว ตนเลี้ยงอย่างดีด้วยไก่ต้มให้กิน 24 กิโลกรัม ทั้งนี้ ป้าแสงระวี ระบุว่า ที่ทางเขตดินแดงเคยแจ้งให้ลดจำนวนสุนัข ตนไม่ลด และจะเพิ่มด้วยอาจจะเป็นร้อยตัวก็ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนอื่น พร้อมยืนยันว่า ตนจะเลี้ยงสุนัขทุกตัวอยู่ที่บ้านเช่นเดิม เพราะตนมีเงินเลี้ยง มีปัญญาเลี้ยง และจะไม่ให้นำสุนัขย้ายไปไหนจนกว่าตนจะพอใจให้ย้าย ใครที่ไม่พอใจก็ให้ย้ายออกไป

ด้านลุงอมร คนเลี้ยงสุนัข ยืนยันว่า ตนไม่ใช่สามีของป้าแสงระวี เป็นเพียงคนดูแลสุนัข ส่วนที่มีคนอ้างว่าสามีของป้าแสงระวี เป็นอดีตข้าราชการใหญ่ ตนก็ไม่ทราบ โดยยืนยันว่าจำนวนสุนัขมีไม่ถึง 30 ตัว แต่ตนไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งทั้งหมดเป็นสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล

นอกจากนี้ ทีมข่าวพูดคุยกับ นายบดินทร์ ตีรบุลกุล เพื่อนบ้าน เผยความรู้สึกหลังจากที่มีการตรวจค้นว่า ตนรู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจ ส่วนป้าแสงระวีจะเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ ตนอยากให้สังคมพิจารณาเอาเองจากภาพที่เห็น เพราะตนคงไม่กล้าสรุปเอง เมื่อถามว่าสงสารป้าหรือไม่ สำหรับเรื่องที่ป้าแสงระวีอาจจะเข้าข่ายข้อกฎหมายเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ นายบดินทร์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรกับป้าแสงระวีมาก่อน แต่ถ้าป้าไม่ปล่อยให้มีเสียงสุนัขเห่าตอนกลางคืนรบกวนคนอื่น ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรป้าแสงระวีหรือไม่ นายบดินทร์ ตอบว่า ตนไม่อยากพูดอะไรกับป้า เพราะตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยพูดอะไร เมื่อถามว่าอยากให้ป้าปรับปรุงอะไรหรือไม่ นายบดินทร์ ระบุว่า “ป้าควรไปคิดเอาเอง”