จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 พ.ค. 61) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Guntapon Jirasuvinai โพสต์คลิปวีดีโอพนักงานของสถานพักฟื้นผู้ป่วยและผู้สูงอายุ บ้านใจเกื้อ ที่อัดคลิปวิดีโอพากย์เสียงว่า “ไปกินขี้ไป” ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok จนเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ซึ่งพนักงานทั้ง 2 คน มีคำสั่งให้ออกจากการเป็นพนักงานของบ้านใจเกื้อแล้ว
โดยวันนี้ (17 พ.ค.) นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาที่บ้านพักผู้สูงอายุ บ้านใจเกื้อ ภายในซอยเพชรเกษม 14 พร้อมพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ภายในบ้าน ถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น
ด้าน
น.ส.ปรียารัตน์ จารุกขมูล อายุ 30 ปี ผู้บริหารสถานพักฟื้นผู้ป่วย ผู้สูงอายุ บ้านใจเกื้อ เปิดเผยว่า พนักงานทั้ง 2 คน ทำงานที่บ้านใจเกื้อได้ประมาณ 7 เดือน โดยทั้ง 2 คน มีอุปนิสัยเป็นคนร่าเริง และที่ผ่านมาทำงานดูแลคนไข้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ บ้านใจเกื้อมีการอบรมพนักงานเรื่องการดูแลคนไข้อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว โดยแรกเข้าจะมีการอบรมก่อน จากนั้นช่วงทดลองงาน 3 เดือนแรกจะเข้มงวดมาก
นอกจากนี้ การกระทำการดังกล่าวอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เพราะบริษัทไม่ได้ไปคุมเข้มหรือตามติดพนักงานตลอดเวลา เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ตนเรียกพนักงานทั้ง 2 คนมาพูดคุย และขอให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน หลังจากนั้นก็ได้ให้ไปขอโทษคุณยายที่ปรากฎในคลิปวิดีโอดังกล่าว รวมถึงญาติ ๆ ของคุณยายเรียบร้อยแล้ว โดยทางญาติไม่ได้ติดใจเอาเรื่องแต่อย่างใด แต่ทางญาติอยากให้สังคมหยุดแชร์คลิป เพราะรู้สึกกังวลใจ และไม่อยากให้มีภาพของคุณยายถูกแชร์ไปในลักษณะนั้น
โดยต่อจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาช่วยตรวจสอบดูแลในเรื่องของลักษณะการให้บริการ ซึ่งก็ทำให้ตนรู้สึกดี เพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยและผู้สูงอายุแห่งนี้ด้วย
นอกจากนี้
นายกันตพน จิรสุวินัย อายุ 24 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ตนได้เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าวผ่านทางแอพลิเคชั่น Tik Tok ดูแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจ เพราะคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเล่นกับผู้สูงอายุที่เกินกว่าเหตุ จึงบันทึกคลิปดังกล่าวลงในโทรศัพท์และแชร์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว
ทั้งนี้ ตนต้องการแชร์คลิปวีดีโอดังกล่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ และได้แท็กไปยังสถานพักฟื้นผู้ป่วยและผู้สูงอายุดังกล่าวเพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไข เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อทราบถึงผลกระทบที่พนักงานทั้ง 2 คนถูกไล่ออก นายกันตพน ตอบว่า ตนไม่ได้รู้สึกดีใจหรือเสียใจ เพราะมองว่ามันเป็นหน้าที่ขององค์กรที่จะดำเนินการไปตามระบบ
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงการที่มีคนมาคอมเมนต์เตือนในโพสต์ดังกล่าวว่าอาจจะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ นายกันตพน ยอมรับว่า อาจจะเป็นความผิดพลาดของตน เพราะตนก็เป็นคนปกติ มีโพสต์มีแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเจตนาของตนคือต้องการโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายใคร โดยเมื่อองค์กรได้มีการให้พนักงานคนดังกล่าวออกจากงานแล้ว ตนก็ได้ลบคลิปวีดีโอออกจากเฟซบุ๊กของตนเช่นกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากฝากอะไรกับสังคมจากกรณีที่เกิดขึ้น นายกันตพน กล่าวว่า อยากฝากให้มีสติ เพราะสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตมีระบบระเบียบ เมื่อมีสติแล้วก็จะทำในสิ่งที่ควรทำ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ