ทองโบราณผุดจากดิน! พระยกก๊วนหอบขายแบ่งเงินล้านอ้างอธิษฐานขอ ชาวบ้านแห่ไล่ (คลิป)

25 ม.ค. 64

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจุน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เตรียมดำเนินคดีกับอดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่สีทอง ตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา

516353588609

หลังชาวบ้านเข้าร้องทุกข์และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานี พบว่าอดีตพระรูปดังกล่าวกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และผู้รับเหมา นำทองของวัดที่ขุดพบได้ภายในวัด ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 1.2 กิโลกรัมขณะบูรณะ ไปจำหน่ายราคารวม 1,160,000 บาท และนำเงินไปแบ่งกัน โดยชาวบ้านไม่ได้ทราบนั้น

396218

วันที่ 25 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.จุน อ.จุน จ.พะเยา เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี วันนี้พระสุชาติ พระที่เจอทอง, นายประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และช่างหนุ่ย ได้เดินทางมาให้ปากคำ

112899

พระสุชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ตนเองได้ดูการก่อสร้างศาลาวัด ที่ลานดินในวัด ศาลาวัดมีงบประมาณก่อสร้างเป็นเงินผ้าป่าแค่ 60,000 บาทเท่านั้น ตนได้แต่คิดในใจว่าจะหาเงินที่ไหนมาสร้างศาลาวัดให้เสร็จ ขณะนั้นได้ยกมืออธิฐานต่อหน้าดิน อธิษฐานว่า "ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้มีปัจจัยไหลเข้ามา ช่วยให้สร้างศาลาเสร็จด้วยเทอญ"

556060

หลังจากอธิษฐานเสร็จ ตนและช่างก็ได้มีการยกท่อน้ำไปวางที่ลานดินต่อ วินาทีนั้นตนเองได้เห็นก้อนดินก้อนหนึ่งลักษณะเป็นสีทอง ขนาดประมาณ 1.2 กิโลกรัม จากนั้นตนได้เก็บทองคำก้อนดังกล่าวเอาไว้ และมีการไปปรึกษากับนายประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายหนุ่ย ช่างรับเหมาก่อสร้าง

cg

โดยคืนวันที่ 26 พ.ย. ที่เจอก้อนทองคำ ตนเองได้นอนและนิมิตเห็นว่ามีทหารจำนวน 1 กองทัพ กำลังขนหีบสมบัติไปในป่าแห่งหนึ่ง โดยตนก็เป็นทหารหนึ่งในกองทัพดังกล่าว จากนั้นกองทัพทหารก็ได้นำหีบฝังลงในดิน ก่อนที่ตนจะสะดุ้งตื่นจากความฝัน ตนจึงคิดว่าในอดีตชาติตนอาจเคยมีบุญวาสนากับทองคำก้อนนี้มาก่อน จึงทำให้ชาตินี้ตนมาเจอทองคำ

cg.2

ต่อมาเช้าของวันที่ 27 พ.ย. 63 ตนเองนายประสิทธิ์ และช่างหนุ่ย ได้เอาทองคำก้อนดังกล่าวไปให้ร้านทองตรวจเช็กว่าเป็นทองคำแท้จริงหรือไม่ กระทั่งเจ้าของร้านบอกว่าทองก้อนดังกล่าวเป็นทองผสม ไม่ใช่ทองแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จากน้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม จึงตีราคาทองคำให้พวกตน 1,160,000 บาท โดยได้นำเงินที่ได้มาทำการแบ่งปันกัน 3 คน แบ่งปันเป็น 4 ส่วน ส่วนแรก 260,000 บาท ใช้ในการสร้างศาลาวัด ส่วนที่สอง 300,000 บาท เป็นส่วนของตนเอง ส่วนที่สาม 300,000 บาท เป็นของนายประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และส่วนที่สี่ 300,000 บาท เป็นของช่างหนุ่ย ช่างรับเหมาก่อสร้าง

610557

สำหรับเงินส่วนของตนเอง 300,000 บาท ตนได้นำไปซื้อรถเก๋งมือสองมาขับจำนวน 20,000 บาท นำไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้ลูกสาว 70,000 บาท เหลืออยู่กับตนประมาณ 100,000 บาท และส่วนที่เหลือตนเองนำไปสมทบในการสร้างศาลาวัด ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. ที่ตนกับพวกมีการขายทองคำและแล่งปันเงินกันนั้น ตนก็ปิดเรื่องเงียบไม่ได้บอกชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านก็ไม่ค่อยเข้าวัด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 23 ม.ค. 64 ตนได้ส่งภาพทองคำไปในกลุ่มไลน์ของหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงมีการสอบถามถึงเรื่องทองคำดังกล่าว และเกิดเหตุในที่สุด และที่ตนตัดสินใจเอาทองคำไปขายเพราะเกรงว่า ถ้าเอาทองคำไว้ที่วัด แล้วทองคำอาจหายได้

688009

นายประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 1 บุคคลที่ได้เงินส่วนแบ่ง 300,000 บาท เปิดใจว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 63 พระสุชาติได้มาบอกตนว่าได้ของดีมา จากนั้นวันที่ 27 พ.ย. ตน พระสุชาติ และช่างรับเหมาจึงเอาทองคำดังกล่าวไปสอบถามร้านทอง และมีการขายได้ 1,160,000 บาท ซึ่งสำหรับทองคำดังกล่าวตนก็เห็นว่าพระสุชาติท่านเก็บได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ได้ไปขโมยของใครมา สำหรับเงินส่วนแบ่งจำนวน 300,000 บาทของตน ตนได้ใช้จ่ายส่วนตัว 80,000 บาท เหลืออยู่ 220,000 บาท

ทั้งนี้ ที่พวกตนไม่ยอมบอกเรื่องดังกล่าวนี้กับชาวบ้าน เพราะว่าเวลาล่วงเลยมานานกว่า 2 เดือนแล้ว จึงปล่อยเลยตามเลย ที่ชาวบ้านร้องเรียนอยากจะได้ทองก้อนดังกล่าวคืนกลับมาไว้วัดนั้น ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะทองก้อนดังกล่าวน่าจะนำไปแปรรูปแล้ว สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็รู้สึกโกรธตนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากขอโทษชาวบ้านด้วย

ส่วนตัวแล้วตนเองเชื่อว่า คงเป็นบุญของพระสุชาติ ที่ทำให้ท่านเจอทองก้อนดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้วัดไผ่สีทอง มีพระเจ้าอาวาสมากว่า 10 รุ่น ก็ไม่เคยมีพระรูปไหนเจอทองคำเลย ตอนนี้ตนเองก็รู้สึกเครียด ส่วนเงิน 80,000 ที่ตนใช้ไป ตนก็ต้องใช้เวลาในการหามาใช้คืน ตนยืนยันยันตนไม่หนี ยินดีรับผิดชอบ

952049

ด้านนายหนุ่ย ช่างรับเหมาก่อสร้างศาลาวัด เปิดเผยว่า สำหรับตนเองได้เงินส่วนแบ่งจากการขายทอง 300,000 บาท ใช้จ่ายส่วนตัวไป 190,000 บาท เหลือเงิน 110,000 บาท ตนยอมรับผิดและต้องใช้เวลาหาเงินที่เหลือมาคืนให้กับชาวบ้าน ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก ชาวบ้านและสังคมประณามตนว่าไอ้ขี้ขโมย หน้าที่การงานตนคือช่างนับเหมาก่อสร้าง พอมาเกิดเรื่องแบบนี้กับตนก็ไม่รู้ว่าตนจะไปทำงานที่ไหน และจะมีใครจ้างงานตนหรือไม่ ยอมรับว่าไม่นึกว่าสิ่งที่ตนทำนั้นจะเป็นความผิด เพระพระสุชาติท่านก็พูดเสมอว่าท่านเก็บทองคำได้ ไม่ได้ไปขโมยใครมา

นายหนุ่ย กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าที่พระสุชาติเจอทองคำก็เพราะว่าวันเกิดเหตุ 26 พ.ย.63 พระสุชาติอยู่ในช่วงสร้างศาลาวัด แต่ยังสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากงบประมาณไม่พอให้สร้างต่อพระสุชาติจึงได้อธิษฐานขอพร ตนยืนยันว่าตนไม่โกรธพระสุชาติที่เอาความลับไปบอกชาวบ้าน

658674

นายขุนสงกรานต์ ศิริวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วตนเองเชื่อว่าทองคำก้อนดังกล่าวคือหัวใจพระเจ้า หรือหัวใจพระพุทธรูป เมื่อประมาณ 1,000 ปีที่ผ่านมา สถานที่ของวัดไผ่สีทอง น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองเวียงลอ ปกครองด้วยพญาลอ สมัยพ่อขุนเม็งราย คาดว่าสมัยนั้นชาวเมืองอาจมีการนำทองคำไปใส่ไว้ที่อกด้านทรายของพระพุทธรูป หรือที่เรียกว่าหัวใจพระเจ้า ตามความเชื่อของคนสมัยโบราณ กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านจนถึงปัจจุบัน

381996

ก่อนจะมีการสร้างศาลาดังกล่าว มีชาวบ้านนำผ้าป่าจากวัดไร่ขิง จ.นครปฐม จำนวน 60,000 บาท มาทอดผ้าป่าให้สร้างศาลา ซึ่งพระสุชาติก็ได้ชี้จุดว่าให้สร้างศาลาที่บริเวณลานดินดังกล่าว ซึ่งทีแรกตนก็ไม่แปลกใจ แต่หลังจากพบทอง ตนจึงเอะใจว่าที่พระสุชาติเจอทองก้อนดังกล่าวนั้นทำไมเอาเงินไปแบ่งกัน 3 คน

ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าชุมชน อยากได้หัวใจพระเจ้ามาคืนให้กับวัด และให้กับชาวบ้าน ถึงจะมีการผ่าหรือแปรรูปแล้วก็ตาม เพื่อที่ขาวบ้านจะได้สักการะบูชา ทั้งนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็หมดศรัทธากับพระสุชาติ ไม่ให้พระสุชาติมาจำพรรษาที่วัดไผ่สีทองแล้ว ซึ่งถ้าไม่ได้หัวใจพระเจ้าก็ต้องนำเงิน 1,160,000 บาท มาคืนวัด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส