กรณีพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุชายผูกคอตัวเองเสียชีวิต ภายในห้องเช่า ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ตรวจสอบพบศพนายธนาศักดิ์ สมนึก อายุ 32 ปี ผูกคอด้วยสายไฟกับเหล็กดัดเสียชีวิต สภาพศพลิ้นจุกปาก ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขายาวสีกรมท่า
จากการตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สอบสวนพบก่อนเกิดเหตุผู้ตายพยายามวิดีโอคอลง้อแฟนสาว ก่อนผูกคอฆ่าตัวตาย
ล่าสุดวันที่ 17 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานเวลา 12.00 น. ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ บรรดาญาติ ๆ นำโดยน.ส.ยุพดี พลยุทธ อายุ 34 ปี พี่สาวนายธนาศักดิ์ เดินทางไปรับศพน้องชาย
น.ส.ยุพดี กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.64) ช่วงเที่ยงภรรยานายธนาศักดิ์ โทรศัพท์มาบอกว่านายธนาศักดิ์วิดีโอคอลมาหาพร้อมผูกคอตาย ทางภรรยาจึงรีบตัดสายเพื่อโทรมาบอกตน หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบว่าน้องชายเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเข้ามาในพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้น้องชายทะเลาะและแยกกันอยู่กับภรรยา โดยน้องชายพยายามตามง้อภรรยาแต่ยังไม่สำเร็จ ฝ่ายหญิงบอกให้ทำตัวดี ๆ น้องชายก็พยายามปรับปรุงตัว เลิกกินเหล้า เพื่อจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 ม.ค.64) น้องชายถ่ายรูปเชือกที่จะแขวนคอ ส่งมาให้ภรรยา แต่ไม่ได้ผูกคอจริง วันเกิดเหตุจึงไม่คิดว่าน้องจะกล้าทำ เพราะที่ผ่านมาน้องจะชอบทำในลักษณะประชดภรรยาเท่านั้น ซึ่งตนได้คุยกับน้องชาย 2 วันก่อนเกิดเหตุ น้องโทรศัพท์มาพูดคุยในลักษณะท้อเรื่องครอบครัว โดยบอกว่าอยากกลับบ้าน ตนได้แต่ปลอบใจให้ทำงานเพื่อหาเลี้ยงลูกก่อน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สภาพจิตใจตนย่ำแย่ รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าคงรักภรรยาคนนี้มาก เพราะมีลูกด้วยกัน 1 คน จึงอยากจะกลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว
เวลา 16.00 น. ที่วัดบึงทองหลาง ญาตินำโดยแม่ของนายธนาศักดิ์ สมนึก ร่วมกันทำพิธีเปิดดูหน้าศพ ก่อนทำพิธีบำเพ็ญกุศล บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ภรรยาผู้ตายเดินทางมาที่วัดก่อนก้มลงกราบที่ตักแม่ผู้ตาย พร้อมร้องไห้และกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแม่และญาติของผู้ตายได้ปลอบใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
นางแก้ว เล่าว่า ตนกับสามีคบกัน 5 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ก่อนหน้านี้ทะเลาะและแยกกันอยู่ประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมาสามีพยายามตามง้อ แต่ตนยังไม่ขอกลับไปคืนดี เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.64) ตนกับสามีโทรศัพท์คุยกันหลายครั้ง ตั้งแต่เวลา 05.30 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่ตนเข้างานเป็นแม่บ้านบริษัท ส่วนสามีเป็น รปภ. ซึ่งก็คุยกันปกติ มีการพูดถึงเรื่องค่านมลูก
จนครั้งสุดท้ายคุยกันก่อนเที่ยง โดยตนบอกว่า แค่นี้ก่อนเพราะเหนื่อย ตื่นตั้งแต่เช้า คุยกันทั้งวันแล้ว จากนั้นก็วางสายไป ก่อนที่สามีจะวิดีโอคอลมาบอกว่า ขอเวลาแค่ 2 นาที จากนั้นเดินไปที่เชือกที่ผูกไว้หลังห้อง แล้วผูกคอตัวเองพร้อมทิ้งตัวลงมา
ทั้งนี้ตนได้แต่พูดว่า “หยุด ๆ ๆ อย่าทำแบบนี้ เอาออก ทำทำไม” แต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟังทิ้งตัวลงทันที ตนจึงรีบตัดสายและโทรศัพท์ไปบอกพี่สาวผู้ตาย และรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยให้เพื่อนเป็นคนเปิดประตูเข้าไปดู พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
นอกจากนี้ตนคิดว่าสามีน่าจะทำเพราะน้อยใจ ที่พยายามตามง้อตนแต่ตนไม่ยอมคืนดี เนื่องจากตนยังไม่พร้อม โดยก่อนเกิดเหตุ 1 วันสามีขู่ว่า ถ้าไม่ยอมคืนดีจะฆ่าตัวตาย และหากตายต้องตายด้วยกัน ด้วยความกลัวตนจึงไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ก่อนหน้านี้สามีก็เคยขู่ฆ่าตัวตายแล้ว 2 ครั้ง โดยสามีได้ผูกเชือกไว้หลังห้อง และวิดีโอคอลมาให้ตนเห็น ด้วยการเอาคอไปผูกไว้กับเชือก แต่ตนห้าม ขอร้องให้หยุด สามีก็หยุดตามคำขอ ซึ่งอีกฝ่ายบอกว่าทำอะไรเพื่อตนไม่ได้ รวมถึงทำให้ตนเป็นทุกข์ พูดตัดพ้อหลายครั้ง
นางแก้ว ร้องไห้ พร้อมกล่าวว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายเสียชีวิต ไม่คิดว่าจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีดังกล่าว
น.ส.อร เพื่อนข้างห้อง ระบุว่า เมื่อวานนี้ตนยังเห็นว่านายธนาศักดิ์ ผู้ตาย ออกมาซื้อน้ำแข็งกลับเข้าห้องไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของนายธนาศักดิ์ คุยกับใครบางคน ซึ่งก็เป็นปกติไม่ผิดแปลกอะไร กระทั่งช่วงบ่ายตนมาทราบว่านายธนาศักดิ์ ผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว