เปิดวงจรปิด สาวเมาโดนจริง แท็กซี่หื่นหน้าซุกอก เพื่อนหวิดซวยแทน ถ้าไม่โบกตัดหน้า (คลิป)

30 เม.ย. 61
วันนี้ (29 เม.ย.) นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม หลังถูกแท็กซี่ชิงทรัพย์ และพยายามข่มขืน
น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เดินทางแจ้งความกับตำรวจ
โดยนางสาวบี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ขณะตนได้เรียกรถแท็กซี่จากหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ซอย 10 ให้มาส่งที่ย่านรัชดา ซึ่งตนยอมรับว่าขณะนั้นมีอาการมึนเมา ระหว่างทางตนจึงเผลอหลับ และตื่นมารู้สึกตัวอีกที ก็พบว่ารถแท็กซี่จอดอยู่บนทางด่วนฉลองรัช ใกล้ทางลงซอยจตุโชติ ตนเห็นว่าคนขับแท็กซี่มานั่งอยู่ที่เบาะหลัง โดยพยายามจะข่มขืนตน เป็นช่วงที่ตนเห็นว่าคนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าว กำลังซุกใบหน้าที่หน้าอกของตน จากนั้นตนพยายามต่อสู้ขัดขืน และรีบเปิดประตูรถวิ่งหนีลงมาโดยเร็ว คนขับรถแท็กซี่จึงขับหนีไปทันที จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ติดต่อเพื่อน และเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง พร้อมโบกรถแท็กซี่อีกคันที่ขึ้นขับผ่านมาบนทางด่วนพอดี นางสาวบี เล่าต่อว่า หลังจากที่ตนตรวจสอบทรัพย์สินก็พบว่าเงินสดในกระเป๋าหายไปกว่า 2,000 บาท พร้อมกับแหวนทองที่มือ ที่ถูกถอดออกไป ตนจึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ช่วยนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ นางสาวบี ยอมรับว่าขณะนั้นเมามาก จึงจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายและรายละเอียดเกี่ยวกับแท็กซี่ไม่ได้ และไม่ได้ถ่ายทะเบียนรถแท็กซี่ไว้ ซึ่งปกติทุกครั้งตนก็เดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่เป็นประจำ ค่อนข้างระมัดระวังตัวพอสมควร แต่ครั้งนี้ตนพลาดที่ไม่ได้ถ่ายรูปป้ายทะเบียนไว้ และเผลอหลับ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า ไม่ว่าผู้โดยสารจะหลับหรือไม่ คนขับแท็กซี่ก็ไม่มีสิทธิ์จะกระทำเช่นนี้ ซึ่งตนโชคดีที่รู้สึกตัวเร็ว และสามารถหนีมาได้ทันโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือมีการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ตำรวจพานางสาวบี ผู้เสียหาย ชี้จุดเกิดเหตุ
โดยหลังจากแจ้งความเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนได้พานางสาวบี ไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ สน.คันนายาว จึงได้ประสานให้ร้อยเวรมารับเรื่องต่อไป พร้อมรวบรวมหลักฐาน และจะทำการเรียกคนขับแท็กซี่ที่เข้าข่ายเข้ามาสอบปากคำต่อไป
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะผู้เสียหายขึ้นรถแท็กซี่
นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่หญิงสาวผู้เสียหายทำงานอยู่ ได้พบวงจรปิดที่หน้าร้านขณะผู้เสียหายเดินขึ้นรถ ช่วงเวลา 02.25 น. นางสาวบีคล้ายมีอาการเมา โดยทำสิ่งของตกลงพื้น ต่อมามีหญิงรายหนึ่งที่อยู่หน้าร้านอยู่แล้ว เดินเข้ามาช่วยเก็บของให้ ก่อนที่จะโบกรถแท็กซี่แล้วขึ้นรถออกไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ที่อยู่ร้านติดกัน เห็นรถแท็กซี่สีชมพูขับผ่าน
นอกจากนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่งซึ่งได้จากร้านที่อยู่ติดกัน เผยให้เห็นภาพรถแท็กซี่ได้ชัดเจนว่าเป็นแบบสีชมพู
น.ส.วรินธรณ์ หรือ เกียว เพื่อนร่วมงานกับผู้เสียหาย
โดย น.ส.วรินธรณ์ หรือ เกียว พนักงานพีอาร์ เป็นเพื่อนร่วมงานกับผู้เสียหาย และหญิงสาวที่เข้าไปช่วยนางสาวบีเก็บกระเป๋า ตามที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า ขณะนั้นช่วงเวลา 02.25 น. ตนเลิกงานและเดินออกมาหน้าร้านปกติ หันไปเห็นผู้เสียหายทำกระเป๋าตก ตนจึงเข้าไปช่วยและยังยื่นกระดาษทิชชู่ให้ ซึ่งตนพบว่าผู้เสียหายมีอาการยืนไม่ตรง เนื่องจากเมาสุรา จากนั้นตนก็เรียกรถแท็กซี่เพื่อจะกลับบ้าน โดยน้องผู้เสียหายเดินไปที่รถแท็กซี่คันที่ตนเรียกก่อน ซึ่งตนก็ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียหายมีอาการเมา ตนจำสีรถได้ว่าเป็นสีชมพู ไฟว่างสีแดง แต่จำเลขแผ่นป้ายทะเบียนไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ค่อยสนิทกับผู้เสียหาย เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ