แม่หนุ่มถูกยิงดับหน้าสน.คาใจ ร้องเปลี่ยนคนทำคดี ผู้บังคับบัญชายันไม่เลี้ยงถ้าผิด (คลิป)

กรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 เวลา 00.05 น. ที่ผ่านมา บริเวณหน้า สน.ดุสิต มีเหตุ ส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ใช้อาวุธปืนยิง นายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม เสียชีวิต หลังจากมีเหตุทะเลาะวิวาทช่วงเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...

ขู่ไม่เผา! เหยื่อถูกตำรวจยิงหน้าโรงพัก พ่อฉุนกล้องดับตอนฆ่า จี้ข้อหาฆ่าไตร่ตรอง

ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางกลับมาที่แฟลตตำรวจหลัง สน.ดุสิต ยังพบว่า ส.ต.อ.ธีรยุทธ ยังคงไม่กลับมาที่ห้องพัก ทีมข่าวจึงเดินทางมาที่วัดจันทร์สโมสร สถานที่จัดสวดอธิธรรม ซึ่งวันนี้จัดเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 4 ม.ค.64 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าช่วงเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาการผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เดินทางมาร่วมงานสวดอภิธรรมของ นายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล โดยมีการนำพวกหลีดมามอบให้ ซึ่งภายในงานก็มีเพื่อน ๆ คนรู้จักมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก

โดยนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดาผู้ตาย ได้นั่งคุยกับ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ มีการพูดคุยถึงความไม่สบายใจทางคดี ซึ่ง พ.ต.อ.อรรถวิทย์ ระบุว่า วงจรปิดที่เป็นหลักฐานทางคดีตนก็ได้ดูแล้ว ซึ่งจุดที่มีวงจรปิดกับจุดที่เกิดเหตุที่มีการนั่งสังสรรค์อยู่คนละจุดกัน แต่ก็ยังพอมีหลักฐานทางคดีอยู่

วันนี้ตนเดินทางมาในฐานะเพื่อนมนุษย์ และในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา ส่วนรูปคดีต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดูแล เรื่องที่แม่ผู้เสียชีวิต กังวลว่าผู้ต้องหาจะหนี ตนยืนยันว่าไม่มีการหนี หลังจากนี้คาดว่าเป็นช่วงสัปดาห์หน้าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้ต้องหา ส่วนจะเป็นอย่างไรต้องรอผล ซึ่งหากผลออกมาว่าผิด ก็จะไล่ออกทันที 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดาของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากตนรู้เรื่องการประกันตัวของ ส.ต.อ.ธีรยุทธ ตนตกใจและใจหาย เพราะตนไม่รู้อะไรมาก่อนเลย ตนคิดด้วยซ้ำว่าจะประกันตัวไม่ได้ เพราะสิ่งที่กลัวที่สุด คือ กลัวผู้ต้องหาหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ช่วงเวลา 12.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานตนมา ระบุว่า คืนนี้ผู้บังคับบัญชาและมารดาของผู้ต้องหา ต้องการเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจในงานศพ ซึ่งตนก็ยินดี และรับปากเรื่องความปลอดภัยว่า จะมีไม่การทำร้ายใด ๆ หากครอบครัวผู้ต้องหาเดินทางมา

ส่วนตัวต้องการให้ครอบครัวผู้ต้องหาเดินทางมา หากผู้ต้องหามาเองไม่ได้ เพราะตนอยากจะคุยให้เข้าใจ และอยากได้คำสัญญาว่า จะไม่มีการหลบหนี อีกอย่างหากหลบหนีตนจะได้รู้ว่า จะติดต่อกับแม่ หรือครอบครัวผู้ต้องหาอย่างไร

ทั้งนี้ตนอยากให้ครอบครัวผู้ต้องหามากราบเคารพศพ ตนเข้าใจในความรู้สึกของพ่อแม่ เพราะตนสูญเสียลูกชาย พ่อแม่ผู้ต้องหาก็สูญเสียอนาคตของลูกชาย ดังนั้นพวกตนเข้าใจ เรื่องนี้คนที่เสียใจที่สุด คือ คนเป็นพ่อเป็นแม่

อีกทั้งตนอยากให้ครอบครัวผู้ต้องหาเดินทางมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ถ้าผู้ต้องหาจะหนีตนจะได้รู้ว่ายังติดต่อพ่อแม่เขาได้อยู่ อีกทั้งหากได้เจอผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา ตนจะได้มีความมั่นใจ ซึ่งตนยิ่งไม่สบายใจเมื่อเห็นภาพข่าว ที่ผู้ต้องหาเดินในบริเวณศาล และขึ้นรถ โดยไม่มีการสวมกุญแจมือ แถมยังเหมือนใช้รถส่วนตัว ทำให้ตนไม่สบายใจ เรื่องทั้งหมดหลังจากนี้จะให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนตัวใจลึก ๆ ตนก็อยากให้มากราบศพ

ส่วนลูกชายยังไม่ได้มาหาตน อาจจะเป็นเพราะตนต้องกินยานอนหลับ เพื่อให้หลับได้ ทำให้ไม่รู้สึกตัว ส่วนน้อง ๆ ในบ้าน ระบุว่า มีเสียงวาวล์น้ำเปิด ทั้งที่ไม่มีคน และลุงคนหนึ่งที่มาร่วมงานศพ ช่วงนั่งแท็กซี่กลับล้าน ก็พบว่ากระจกรถเปิดลงเอง ทั้งที่ตอนนั้นนั่งกอดอกอยู่ จึงคิดว่าผู้ตายน่าจะมาหา ตนมีคำถามเกิดขึ้นในหัวว่า คดีนี้คือฆ่าคนตาย แค่มีหลายเรื่องที่ตำรวจเหมือนรวบรัดทำคดี คดีอุกฉกรรจ์ แม้แต่กุญแจมือก็ไม่ใส่ คดีการพนันตนยังเห็นใส่กุญแจมือ ครอบครัวก็ไม่รับรู้ ไม่มีการแจ้ง

อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องการเผาศพ ตนคิดไว้ว่าอยากจะเผาศพลูกชายตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 4 ม.ค.64 ไม่อยากให้ลูกทรมาน แต่ความชัดเจนนี้ขอเป็นหลังจากที่ได้พูดคุยกับครอบครัวผู้ต้องหาและผู้บังคับบัญชาก่อน ตนขอเพียงความมั่นใจว่าจะไม่ให้ผู้ต้องหาหนีก็พอ จะได้อโหสิกรรมต่อกัน แต่หากไม่มีความชัดเจน ตนจะไปร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มาดูเรื่องนี้

ทั้งนี้ตนเชื่อว่าลูกชายกับผู้ต้องหา คงทำบุญทำกรรมมาร่วมกัน ส่วนแม่ผู้ต้องหาให้ข้ออ้างว่าบิดาป่วย จึงรีบเดินทางกลับ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ตนอยากให้มาเคารพศพลูกชายบ้าง ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนยังไม่สำนึก ตนอยากเจอครอบครัวผู้ต้องหา อยากถามว่าเสียใจไหมที่กระทำแบบนี้ แต่วันนี้อย่างน้อยได้คุยกับผู้บังคับบัญชาคนร้ายก็สบายใจ ยังยืนยันจะเผาลูกชายตามกำหนด อีกทั้งในวันที่ 4 ม.ค.64 ช่วงเวลา 09.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นเอกสารที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน ให้มาอยู่ในความดูแลของกองปราบปราม