จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้เสียชีวิต ที่สวนอาหาร ม.1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้นายภุชงค์ แสงใส อายุ 36 ปี และนายธนสิทธิ์ อยู่เหมาะ อายุ 36 ปี เสียชีวิตภายในสวนอาหาร ในเวลา 00.30 น. ของวันที่ 25 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 27 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของนายธนกฤต แสงเขียว หรือ นายเฉลิม อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 1 ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งบ้านถูกปิดตัวเงียบ มีรถจอดอยู่ข้างใน และมีสุนัขเห่าเสียงดัง แต่ไม่มีใครออกมาจากบ้าน
จากนั้นทีมข่าวสอบถามข้อมูลชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า วงดนตรีอยู่ในชุมชนบ้านต้นกระถิน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขัน โดยนายบุญยืน เจ้าของวงศ์ดนตรี ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เกรงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
ในวันเกิดเหตุ ได้รับจ้างให้ไปเล่นงานอุปสมบท หมู่ 2 บ้านดอนมะขาม ต.ดอนยายหนู อ.กุยบุรี จว.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2555 ด้วยเงินค่าจ้าง 20,000 บาท ซึ่งก็ได้มีการจ้างวงแดนเซอร์ต่างหาก ซึ่งเป็นวงของนายเชิงชาย ค้าเจริญดี (ผู้เสียชีวิต)
วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 00.10 น. ขณะนั้นตนได้แสดงจบแล้ว แต่นายธนกฤต แสงเขียว หรือนายเฉลิม เดินทางมาร่วมงานด้วยในตอนใกล้เลิก จากนั้นนายเฉลิม ก็เดินเข้ามาที่หลังเวที พร้อมถือปืนติดมือเข้าเจรจากับตนให้มีการทำแสดงต่อ แต่ตนบอกนายเฉลิมไปว่า หมดเวลาแสดงแล้ว โดยนายเฉลิมยื่นข้อเสนอจะให้เงินเพิ่มอีก 2,000 บาท ซึ่งตนจึงตัดสินใจว่าจะเล่นต่อให้อีก 2-3 เพลง โดยจะขอไม่เอาเงิน แล้วตนก็เดินมายังหน้าเวที
จากนั้นนายบุญยง จึงเข้าไปอธิบายต่อนายเฉลิมถึงสาเหตุที่ไม่สามารถเล่นต่อได้ และจะไม่ขอรับเงินเนื่องจากวงแดนเซอร์เป็นส่วนที่ตนจ้างมาอีกที จากนั้นนายเชิงชาย ค้าเจริญดี (ผู้เสียชีวิต) เป็นเจ้าของวงแดนเซอร์ เดินมาพลักนายบุญยงออก แล้วบอกกับนายเฉลิมว่า “ผมเป็นเจ้าของวงดนตรีเอง” มีอะไรให้คุยกับผม แล้วนายเฉลิมก็ชักปืนยิงเข้าที่ศีรษะ และช่วงหน้าอกของนายเชิงชาย เสียชีวิต
ที่สภ.กุยบุรี เวลาประมาณ 13.30 น. มีกระแสข่าวว่านายเฉลิม ถูกจับตัวแล้วที่ สภ.กุยบุรี ทีมข่าวจึงรุดเดินทางมายัง สภ.กุยบุรี จึงได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนายอาทิตย์ แสงใส อายุ 31 ปี น้องชายนายภุชงค์ (ผู้เสียชีวิต) กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่ามีการจับตัวของนายธนกฤต แสงเขียว หรือนายเฉลิม จึงรีบมายังที่ สภ.กุยบุรี ซึ่งตนมาถึงก็ยังไม่มีตำรวจท่านไหนมาชี้แจงหรืออธิบายให้ตนฟัง ว่าจับได้หรือยังจับไม่ได้ อีกทั้งยังไม่มีการโทรศัพท์มาแจ้งทางครอบครัวแต่อย่างใด
ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ตนรู้สึกระหวาดระแวงตลอด เวลาจะนอนก็ยังผวากลัวว่า นายเฉลิมหรือพรรคพวกจะบุกมาทำร้ายที่บ้านของตน และสภาพจิตในของทางครอบครัวเองก็ยังทำใจไม่ได้ แล้วยังต้องมารู้สึกระแวงความปลอดภัยของตัวเองอีก ซึ่งในทางกฎหมายตนก็ไม่ทราบว่าจะสามารถทำเรื่องขอความคุ้มครองความปลอดภัยได้หรือไม่ เนื่องจากตนเป็นห่วงสวัสดิภาพของครอบครัว
ส่วนการจับตัวของนายเฉลิมนั้น ตนก็ยืนยันว่าจะไม่ยอมความ และขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งตนก็ยังมีความกลัวในใจว่า นายเฉลิมจะรอดเหมือนครั้งก่อน ๆ ตนวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นนายเฉลิม ก็อาจจะออกมากระทำเช่นนี้อีก
จากนั้นทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับ พ่อตาของนายเฉลิม บอกกับทีมข่าวว่า สาเหตุที่ตนมา สภ.กุยบุรี ในวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าเฉลิมมามอบตัวจริงหรือไม่ เพราะทราบข่าวว่านายเฉลิมใช้ปืนยิงนายภุชงค์ หรือ นายไผ่ และนายธนสิทธิ์ หรือนายตู่ เสียชีวิต แต่ตนไม่รู้ว่าปืนของใคร
ทั้งนี้ทางด้านนายเฉลิม ก็ไม่มีการติดต่อมาหาใครในครอบครัว ซึ่งทางลูกสาวของตนก็ไม่สามารถติดต่อนายเฉลิมได้ โดยค่อนข้างมีอาการเครียดหลังทราบข่าวว่ามีการยิงกันเกิดขึ้น
หลังจากที่เกิดเหตุเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา นายเฉลิมพยายามเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ตั้งใจทำงาน ลดการเที่ยวและพยายามไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับทางครอบครัว ส่วนสาเหตุในการลงมือในครั้งนี้ ตนมองว่าน่าจะเป็นอารมณ์โมโห และพลาดพลั้งมือไป แต่ปัญหาที่นายเฉลิมกับนายไผ่มีปัญหาอะไรกัน ส่วนนี้ตนไม่ทราบจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ทางในครอบครัวก็ยังไม่ได้มีการคุยกันว่า จะให้มีการประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้เจอตัวนายเฉลิม ด้านคดีความก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนญาติผู้เสียชีวิตถ้าจะไม่ยอมความ หรือจะดำเนินคดีก็ทำอะไรไม่ได้
เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายธนกฤต แสงเขียว หรือ นายเฉลิม และนายถนอมศักดิ์ เพ็ชรประดับ หรือ นายเหลือ เข้าห้องขังที่สภ.กุยบุรีแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทั้งคู่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล โดยในวันที่ 28 ธ.ค.63 จะนำตัวทั้ง 2 คนไปฝากขังยังศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับน.ส.บุญมา พรมโยธา เพื่อนบ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ตนพอทราบคดีเก่าที่นายเชิงชาย ถูกนายเฉลิมก่อเหตุยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา และตนก็รู้สึกตกใจ ที่คนร้ายพ้นคดีแล้วไปก่อเหตุซ้ำ กรณีของนายเชิงชายนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่า เขาถูกนายเฉลิม ยิงด้วยปมเหตุอะไร ตนทราบแค่ว่าเป็นเรื่องของเวลาการที่แสดงเท่านั้น และตกลงเรื่องเวลาการแสดงไม่ตรงกัน ทั้งนี้ตนก็อยากให้นายเฉลิม ถูกประหารชีวิต เพราะเขามีพฤติกรรมที่โหดร้าย เคยก่อเหตุกับนายเชิงชาย และมาก่อเหตุคดีล่าสุดอีก
