สุดเหี้ยม! "โอชา" นั่งคู่ศพแฟน 7 ชม.ไขกระจกรถระบายคาวเลือด เพื่อนวินช็อกไม่รู้มีปืน (คลิป)

23 ธ.ค. 63

กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือ เอ้ อายุ 35 ปี เจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพฯ ภูมิลำเนาชาว จ.ชัยภูมิ ถูกฆ่าหมกรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพฯ ที่จอดริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ทราบว่า นายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-รวบ “โอชา” ฆ่าสาวหมกเก๋งรับยิงก่อนลงใต้ สวมแมสก์ศพตบตา แม่จี้รับโทษประหาร
-ล่า “โอชา” ลวงฆ่าสาวสำนักปลัดหมกรถ แม่แฉอ้างรวยที่แท้ขับวินหวังปอกลอก

466918520795

ล่าสุดวันที่ 23 ธ.ค.63 ตำรวจชุดสืบสวนคดี จ.สุราษฎร์ธานี ให้ข้อมูลว่า ได้คุมตัวนายโอชา สวนจันทร์ ไปตามหาปืนตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เวลา 03.00 น. ของวันนี้ โดยนายโอชาอ้างว่า ทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ริมถนนเลี่ยงเมืองชะอำ-หัวหิน พื้นที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งตำรวจได้คุมตัวไปหาปืนตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้ตำรวจเตรียมฝากขังในวันที่ 24 ธ.ค.63 โดยมีพล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี แถลงข่าวที่ สภ.พุนพิน

922025119565

ทั้งนี้ตั้งแต่นายโอชา ถูกจับกุมตัวได้ อ้างว่าทิ้งปืนไว้ใน 3 พื้นที่ และได้กลับคำให้การไปเรื่อย ๆ โดยอ้างว่าทิ้งไว้ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จ.ชุมพร และ จ.เพชรบุรี

cg2_4

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโอชา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากเกิดการทะเลาะกันระหว่างเดินทางลงใต้ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านของตน จึงเอาปืนมาขู่ ก่อนจะก่อเหตุยิงแฟนสาวเสียชีวิต ตนยิงในช่วงขับผ่าน จ.สมุทรสาคร พร้อมนำอาวุธปืนไปทิ้ง

421131

จากนั้นได้ขับรถพาศพนั่งมาในรถนานกว่า 7 ชั่วโมง จนมาพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โทรไปบอกกับน้องชายว่า "ได้ทำปืนลั่นใส่แฟนจนตาย" และได้นำรถมาจอดที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้น้องชายขับรถมารับเพื่อหลบหนีไป อ.หัวไทร

titled

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำเบื้องต้นจนทราบว่า หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปทิ้งบริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองเส้นชะอำ-ปราณบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาไปค้นหาอาวุธปืนที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งใช้เวลาค้นหานานกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่พบอาวุธปืนตามที่ผู้ต้องหาอ้าง จึงได้นำตัวกลับ สภ.พุนพิน เพื่อสอบสวนอย่างละเอียด และดำเนินคดีต่อไป

936029

ในเวลา 20.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัวนายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่หมู่ที่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทีมข่าวเดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 170 หมู่ 8 ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช หรือ เอ้ อายุ 35 ปี ช่วงเช้าทางญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิดได้เดินทางมาพูดคุยกับนางลี แม่ของผู้ตายตลอด

363010

เมื่อทีมข่าวมาถึง สังเกตเห็น นางลี สีห์ราช ซบลงไปร้องไห้ที่ตักของคนข้าง ๆ พร่ำบอกว่า ไม่ได้กินข้าวเลยสักคำ นอนก็นอนไม่หลับ ญาติพี่น้องพากันปลอบ และบอกกับแม่ของผู้ตายว่า ขอให้ตั้งสติ และดูแลตัวเอง เพราะน.ส.เอ้ ไปสวรรค์แล้ว ลูกสาวจะได้ไม่เป็นห่วง ส่วนญาติพี่น้องคนอื่น ๆ รวมถึงเพื่อน และคนใกล้ชิด เมื่อเห็นว่าแม่ของผู้ตายไม่ให้ข้อมูลข่าว ก็ไม่มีใครอยากจะคุยกับทีมข่าว

ทั้งนี้นางลี สีห์ราช แม่ของผู้ตาย เคยให้สัมภาษณ์ผ่านอมรินทร์ ทีวี ว่า นายโอชา เคยมาที่บ้านเพียงครั้งเดียว เมื่อประมาณวันที่ 7-8 ธ.ค.63 และกลับไปวันที่ 10 ธ.ค.63 ซึ่งลูกสาวบอกว่า นายโอชาเป็นเพื่อน ที่กำลังดูใจกันอยู่ เป็นคนพูดจาดี ซึ่งตนรู้เพียงว่า นายโอชายทำงานบริษัทรถ และขับวินจักรยานยนต์

404993200999

และวันที่มาตนได้บอกกับตนว่า อยากจะแต่งงานกับลูกสาวของตน หลังจากที่แต่งงานแล้ว นายโอชาจะย้ายมาอยู่ จ.ชัยภูมิ เพื่อจะมาทำกิจการ แต่ตนไม่ทราบว่ากิจการเกี่ยวกับอะไร ส่วนตัวไม่ได้ต่อว่าอะไร และขอให้ดูใจกันไปก่อน แต่อย่ามาหลอกลวงกันก็พอ เพราะตนไม่ได้สนใจเรื่องฐานะ ตนอยากได้คนที่รักลูกสาว และอยากได้คนที่ดูแลลูกสาวของตนได้ เรื่องเงินทองค่อยมาหาด้วยกัน

775610589898

หลังจากที่กลับจาก จ.ชัยภูมิ ลูกสาวของตนบอกว่า พ่อกับแม่ของฝ่ายชายอยากจะเจอ ลูกสาวเลยจะเดินทางไปที่ภาคใต้ และพอไปถึงบ้านของฝ่ายชายก็ไม่ได้โทรมาเล่าอะไรให้ฟัง โดยลูกสาวไม่เคยปิดบัง และมีอะไรจะเล่าให้ตนฟังหมด ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวไปภาคใต้

881965

โดยวันสุดท้ายที่คุยกับลูกสาวคือ วันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 09.00 น. ลูกสาวโทรมาบอกว่า จะไปกินข้าว แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนกับใคร ตนจึงเข้าใจว่ากินข้าวอยู่ไหน กทม. กระทั่งมาทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต ตนจึงเดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าภายในรถเก๋งคันดังกล่าวไม่มีเสื้อผ้าของลูกสาวอยู่ ลักษณะเหมือนลูกสาวไม่ได้ตั้งใจจะเดินทางมาที่นี่ เพราะเวลาลูกสาวไปไหน จะต้องเอาเสื้อผ้าไปด้วย

549542

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วินจักรยานยนต์รับจ้าง ซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 ซึ่งนายโอชา สวนจันทร์ ได้พบกับนายชานันท์ นิลเอสงฆ์ เพื่อนร่วมวิน เปิดเผยว่า นายโอชาวิ่งวินอยู่ที่วินแห่งนี้จริง โดยมาขี่วินมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยพบมีปัญหาอะไร นิสัยปกติ ไม่ก้าวร้าว ใจเย็น ไม่ใช่คนที่โมโหง่าย

986221

ทั้งนี้ปกติแล้ว นายโอชา จะมาวิ่งวินตั้งแต่เวลา 07.00 น. วิ่งไปจนถึง 23.00 น. ที่ผ่านมานายโอชา ไม่เคยปรึกษาอะไร มีแต่เคยเล่าเรื่องแฟนที่ตอนนี้กำลังคบหาอยู่ ซึ่งก็ดูรักกันดี ไม่เคยเห็นมีปัญหาอะไร แต่นายโอชายังไม่เล่าเรื่องแต่งงานให้ฟัง ตนเจอนายโอชาครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ธ.ค.63 ช่วงเช้า โดยนายโอชาขี่รถจักรยานยนต์มาที่วิน และบอกว่าจะกลับบ้าน เพื่อไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาวันไหน ตนก็เห็นนายโอชาสีหน้าปกติ ไม่ได้ดูเครียด โดยนายโอชาเดินทางมาคนเดียว

856475

เรื่องความร่ำรวย การปล่อยเงินกู้ ตนไม่ทราบ เท่าที่รู้ตนไม่เคยทราบมาก่อน แม้แต่ที่พักตนก็ไม่ทราบ รู้เพียงอยู่ห้องเช่า เรื่องอาวุธปืน ตนไม่เคยรู้มาก่อน ส่วนตัวคิดว่าเจ้าตัวไม่น่ามีอาวุธปืน ซึ่งเอามาจากไหนตนไม่ทราบ นายโอชาไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ไม่กร่าง แต่ยอมรับว่าเห็นข่าวแล้วก็ตกใจ ตนไม่คิดด้วยซ้ำว่านายโอชาจะก่อเหตุ เพราะหากดูจากนิสัยไม่ใช่คนแบบนั้น

183496

อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมวินคนอื่น ๆ ยังระบุว่า สำหรับเอ้ ผู้ตาย นายโอชาไม่เคยมาพาให้เพื่อนเจอหน้า ทำให้เพื่อนไม่รู้จัก จะรู้แต่จากที่นายโอชาเล่า ซึ่งก็ดูรักกันดี ชาวบ้านในพื้นที่บางคน ระบุว่า นายโอชาดูเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ทราบข่าวก็ตกใจเช่นกัน

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายโอชา ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พบว่า บ้านเป็นบ้านไม้ 1 ชั้น ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร บรรยากาศที่บ้านค่อนข้างเงียบ พบเพียง นายเหลี่ยว พ่อของนายโอชา ที่ป่วยต้องเจาะคอ และแม่ที่พิการตาบอด อยู่ในบ้าน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเหลี่ยว ทำได้เพียงพยักหน้า หรือส่งภาษามือ โดยทีมข่าวถามว่า รู้ไหมว่าลูกชายไปขอผู้หญิงแต่งงาน พ่อส่งภาษามือว่าไม่รู้

469379

ทีมข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ลูกชายทำปืนลั่นใส่แฟนตาย พ่อของนายโอชา เอามือตบไปที่หน้าอก โดยทีมข่าวถามว่า ใจไม่ดี เสียใจมากใช่ไหม พ่อพยักหน้ายอมรับ ขณะเดียวกันทีมข่าว ถามอีกว่า ทราบสาเหตุการตายหรือไม่ พ่อนายโอชา ทำมือลักษณะเหมือนยิงปืน แต่พอถามว่าเอาปืนมาจากไหน พ่อโบกมือไปมาว่าไม่รู้

345553

ทางด้าน แม่ของนายโอชา ที่ตาบอด ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ลูกชายเป็นคนนิสัยดี ไม่เกเรอะไร ส่วนลูกของนายโอชา วัย 12 ปี กับภรรยาเก่า ก็อยู่บ้านคอยเลี้ยงวัว ช่วยทำงานบ้าน และดูแลคนแก่ทั้ง 2 คน

174098

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "คุณหมอสตอรี่" เปิดเผยว่า ปกติแล้วเลือดอยู่ในร่างกายจะไม่มีความเหม็น หรือความหืน ถ้าออกมานอกร่างกายสัมผัสกับอากาศจะมีความเหม็นมาก หรือกลิ่นหืนมาก ยิ่งมีเลือดมาก็ยิ่งเหม็นหรือหืนมาก เหมือนกับจะเน่า หากศพที่เสียชีวิตภายใน 1-2 ชั่วโมง จะเริ่มแข็งตัว แข็งมากที่สุดช่วง 6-12 ชั่วโมง จากนั้นศพจะค่อย ๆ อ่อนตัว เพราะพลังงานในการแข็งตัวหมดไป

503212

ส่วนกลิ่นค่อนข้างคาวพอสมควร หากจะนั่งรถ 6 ชั่วโมง โดยที่ไม่เปิดหน้าต่างระบายอากาศคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเอาศพไปไว้เบาะหลัง ก็ยังเหม็นอยู่ เป็นไปได้ว่าหากฆ่ากันที่ จ.สมุทรสาคร และขับรถมาที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะต้องเปิดกระจกระบายอากาศอย่างแน่นอน เลือดภายนอกร่างกายไม่ถึง 5 นาที จะแข็งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ภายในร่างกาย หรือบาดแผลแต่ละคน การแข็งตัวของเลือดขึ้นอยู่กับสภาพสารเคมีในเลือดของแต่ละคน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส