รวบ “โอชา” ฆ่าสาวหมกเก๋งรับยิงก่อนลงใต้ สวมแมสก์ศพตบตา แม่จี้รับโทษประหาร (คลิป)

22 ธ.ค. 63

กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือ เอ้ อายุ 35 ปี เจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ภูมิลำเนาชาว จ.ชัยภูมิ ถูกฆ่าหมกรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร ที่จอดริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน

703834

จากการตรวจสอบพบเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ในสภาพสวมหน้ากากอนามัย ใส่เสื้อยืดสีชมพู ทับด้วยเสื้อคลุมยีนส์สีน้ำเงิน คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งอยู่ในสภาพคอพับไปด้านขวา ที่ใบหน้ามีบาดแผลถูกทำร้ายปูดบวม เป็นรอยเขียวช้ำที่ขอบตาด้านขวา บริเวณหน้าท้องมีรอยคล้ายกระสุนปืน 3 แห่ง เป็นแนวขึ้นชายโครงด้านขวา กระเป๋าเงินตกอยู่ที่วางเท้า ส่วนที่เบาะด้านหลังมีกระเป๋าถือสีดำ 1 ใบวางอยู่ จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.พุนพิน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่า “โอชา” ลวงฆ่าสาวสำนักปลัดหมกรถ แม่แฉอ้างรวยที่แท้ขับวินหวังปอกลอก

cg2_3

จากการสืบสวนพบว่า ในวันที่ 21 ธ.ค.63 นายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ชาว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้แสดงตัวกับตำรวจชุดสืบสวนคดีในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก หลังจากวันที่ 19 ธ.ค.63 ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร คันที่เกิดเหตุ ขับผ่านแยกปฐม อ.เมือง จ.ชุมพร ในเวลาประมาณ 15.00 น.

996721

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนสืบหาข้อมูลพบว่า ในเวลาประมาณ 15.00 น. นายโอชา ได้โทรศัพท์หาน้องชาย อ้างกับน้องชายว่าทำปืนลั่นใส่แฟนตาย ให้ช่วยมารับหน่อย ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการนัดแนะกันจนไปจอดรถทิ้งไว้ที่ริมไหล่ทางด้านซ้ายบริเวณใต้ร่มต้นกระถินณรงค์ บนถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้า สุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นก็หลบหนีเข้าที่พักในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แต่อ้างว่าได้ทิ้งปืนที่ใช้ก่อเหตุไปตั้งแต่หลบหนีใน จ.ชุมพรแล้ว

119404

อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้แจ้งข้อหานายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าแฟนสาว ในข้อหาฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ และพาอาวุธปืนฯ 

210165

ล่าสุดวันที่ 22 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ตายในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเพชร อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือ เอ้ อายุ 35 ปี หญิงสาวข้าราชการหน้าตาดี สำนักปลัดกรุงเทพฯ

451458

โดยวันนี้เป็นวันแรกที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งทางญาติพี่น้องได้นำร่างของผู้เสียชีวิตมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี และเดินทางมาถึงที่บ้านพัก ในเวลา 8.00 น. ระหว่างที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ ญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดที่เข้ามาร่วมงานต่างเศร้าสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนแม่กับพ่อของผู้ตายยังคงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง

915682

นางลี สีห์ราช แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า นายโอชา เคยมาที่บ้านเพียงครั้งเดียว เมื่อประมาณวันที่ 7-8 ธ.ค.63 และกลับไปวันที่ 10 ธ.ค.63 ซึ่งลูกสาวบอกว่า นายโอชาเป็นเพื่อน ที่กำลังดูใจกันอยู่ เป็นคนพูดจาดี ซึ่งตนรู้เพียงว่า นายโอชายทำงานบริษัทรถ และขับวินจักรยานยนต์

729686392399637217

และวันที่มาตนได้บอกกับตนว่า อยากจะแต่งงานกับลูกสาวของตน หลังจากที่แต่งงานแล้ว นายโอชาจะย้ายมาอยู่ จ.ชัยภูมิ เพื่อจะมาทำกิจการ แต่ตนไม่ทราบว่ากิจการเกี่ยวกับอะไร

571501

ส่วนตัวไม่ได้ต่อว่าอะไร และขอให้ดูใจกันไปก่อน แต่อย่ามาหลอกลวงกันก็พอ เพราะตนไม่ได้สนใจเรื่องฐานะ ตนอยากได้คนที่รักลูกสาว และอยากได้คนที่ดูแลลูกสาวของตนได้ เรื่องเงินทองค่อยมาหาด้วยกัน

957307

หลังจากที่กลับจาก จ.ชัยภูมิ ลูกสาวของตนบอกว่า พ่อกับแม่ของฝ่ายชายอยากจะเจอ ลูกสาวเลยจะเดินทางไปที่ภาคใต้ และพอไปถึงบ้านของฝ่ายชายก็ไม่ได้โทรมาเล่าอะไรให้ฟัง โดยลูกสาวไม่เคยปิดบัง และมีอะไรจะเล่าให้ตนฟังหมด ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวไปภาคใต้

571430444241

โดยวันสุดท้ายที่คุยกับลูกสาวคือ วันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 09.00 น. ลูกสาวโทรมาบอกว่า จะไปกินข้าว แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนกับใคร ตนจึงเข้าใจว่ากินข้าวอยู่ไหน กทม. กระทั่งมาทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต ตนจึงเดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าภายในรถเก๋งคันดังกล่าวไม่มีเสื้อผ้าของลูกสาวอยู่ ลักษณะเหมือนลูกสาวไม่ได้ตั้งใจจะเดินทางมาที่นี่ เพราะเวลาลูกสาวไปไหน จะต้องเอาเสื้อผ้าไปด้วย

493069915228

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจมากที่มีการออกข่าวว่า ลูกสาวเห็นว่า มีฐานะจนเลยตีตัวออกห่าง ซึ่งลูกสาวไม่เคยตีตัวออกห่าง และตนก็ไม่เคยบอกให้ทำ เพราะเป็นเรื่องของคนสองคน และยืนยันว่า ลูกสาวไม่เคยคบกับคนเพราะเงิน และจะคบเพราะนิสัยดี พึ่งพาได้ โดยลูกสาวของตนเคยแต่งงานมาก่อน และอยู่กินกับสามีเก่ามาประมาณ 4-5 ปี ก่อนจะเลิกกันด้วยดี และเลิกกันนานแล้ว จนฝ่ายชายไปมีครอบครัวใหม่

698606

หากนายโอชาเป็นคนที่ทำลูกของตนจริง ตนก็ไม่ทราบสาเหตุ และไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องไปฆ่า และได้แต่สงสัยว่า ถ้าบอกว่า รักและอยากจะแต่งงาน ทำไมต้องทำแบบนี้ ขณะนี้นายโอชามอบตัวแล้ว และตนก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนไม่อนุญาตให้บุคคลนั้นเข้ามาที่บ้านอีก และขอให้คนที่ทำลูกสาวได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต

434268

ทั้งนี้ในระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ นางลี แม่ของผู้ตายได้นอนหลับพักผ่อน ด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจ และเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพ่อกับแม่ของผู้ตายเพิ่งจะกลับมาถึง จ.ชัยภูมิ ในเวลาประมาณ 08.00 น. และไม่ได้นอนทั้งคืน แม้แต่ข้าวก็กินได้แค่ 2-3 คำ

ขณะที่เพื่อนสนิทของผู้ตายเข้าไปคุยกับแม่ของผู้ตาย แม่ของผู้ตายได้พูดทั้งน้ำตาว่า “ช่วยแม่ด้วยเด้อ” ทั้งนี้ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ นายชื่น สีห์ราช พ่อของผู้ตาย วันนี้มีท่าทีซึม ๆ และบอกให้ทีมข่าวคุยกับแม่ เพราะไม่ค่อยรู้อะไร และยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูล

602161

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ น.ส.จิราพร กระพันธ์เขียว อายุ 35 ปี เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยม เปิดเผยว่า ตนกับผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทกัน สมัยเรียน ม.1-6 กระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ได้แยกย้ายกัน เลยไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนใหญ่จะคุยกันผ่านคอมเมนต์ และกดไลก์กันในเฟซบุ๊ก ซึ่งน.ส.เอ้ เป็นคนที่เข้ากับคนง่าย และชอบลงคลิปตลก ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ติดตาม แต่ไม่ค่อยโพสต์เรื่องส่วนตัว และส่วนใหญ่จะขายสินค้าออนไลน์

168167

เมื่อต้นปี 63 ช่วงหลังปีใหม่ ตนกับน.ส.เอ้ โทรศัพท์คุยกันว่าจะนัดเจอกัน แต่ยังไม่มีโอกาส เพราะน.ส.เอ้ติดงาน และหลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยกัน ผู้ตายไม่เคยมาเล่าเรื่องที่จะแต่งงาน แต่ตนทราบมาจากญาติพี่น้องว่า น.ส.เอ้ ได้พาเพื่อนชายที่กำลังดูใจกันอยู่ มาหาที่บ้าน ก่อนเกิดเรื่อง ประมาณ 1 สัปดาห์ ตนทราบจากญาติพี่น้องของผู้ตายว่า น.ส.เอ้ จะย้ายกลับมาทำงานแถวบ้าน แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาในสภาพนี้ กระทั่งตำรวจโทรมาหาที่บ้าน แล้วน้าสาวมาเล่าให้ฟังต่อว่าเพื่อนเสียชีวิตที่ จ.สุราษฎร์ธานี

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าโหดร้ายเกินไป ทำกับเพื่อนของตนขนาดนี้ไม่ใช่คน โดยสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของน.ส.เอ้ กับแฟนหนุ่ม และหากเป็นไปได้ ตนอยากจะให้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต เพราะเงินเท่าไรก็ทดแทนชีวิตไม่ได้

231179

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เข้าขออำนาจศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีอนุมัติหมายจับ แฟนหนุ่มที่ถูกกล่าวอ้างว่าเคยพาผู้เสียชีวิตกลับบ้านที่ อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

342228

ล่าสุดเวลา 19.30 ตำรวจชุดสืบสวน ได้คุมตัว นายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา และเป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต จาก สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจก็ได้คุมตัวผู้ต้องหาออกไปตามหาหลักฐานชิ้นสุดท้าย คือ ปืนที่ใช้ก่อเหตุ เพราะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุด โดยทางคนร้ายอ้างว่านำอาวุธปืนทิ้งไปใน จ.ชุมพร ตั้งแต่ก่อนที่จะนำรถมาทิ้งในที่เกิดเหตุ

469379

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายโอชา ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พบว่า บ้านเป็นบ้านไม้ 1 ชั้น ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร บรรยากาศที่บ้านค่อนข้างเงียบ พบเพียง นายเหลี่ยว พ่อของนายโอชา ที่ป่วยต้องเจาะคอ และแม่ที่พิการตาบอด อยู่ในบ้าน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเหลี่ยว ทำได้เพียงพยักหน้า หรือส่งภาษามือ โดยทีมข่าวถามว่า รู้ไหมว่าลูกชายไปขอผู้หญิงแต่งงาน พ่อส่งภาษามือว่าไม่รู้

ทีมข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ลูกชายทำปืนลั่นใส่แฟนตาย พ่อของนายโอชา เอามือตบไปที่หน้าอก โดยทีมข่าวถามว่า ใจไม่ดี เสียใจมากใช่ไหม พ่อพยักหน้ายอมรับ ขณะเดียวกันทีมข่าว ถามอีกว่า ทราบสาเหตุการตายหรือไม่ พ่อนายโอชา ทำมือลักษณะเหมือนยิงปืน แต่พอถามว่าเอาปืนมาจากไหน พ่อโบกมือไปมาว่าไม่รู้

118073

ทีมข่าวถามอีกว่า พ่อรู้หรือไม่ หลังเกิดเหตุ น้องชายไปรับนายโอชา กลับมาบ้าน พ่อส่งสัญญานพยักหน้า พร้อมควักมือเป็นสัญลักษณ์ว่า รู้ว่าน้องไปรับพี่กลับมาบ้านหลังเกิดเหตุ ทีมข่าวถามว่า หลังนายโอชา และน้องชาย กลับมาบ้านได้ปรึกษาอะไรกันหรือไม่ พ่อทำสัญญาน ยกนิ้วชี้ 2 ข้างมาประกบกัน แล้วสะบัดมือไปด้านบน ทีมข่าวจึงถามว่า พ่อพาไปมอบตัวใช่หรือไม่ พ่อได้พยักหน้าตอบรับว่าใช่

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวถามว่า อยากขอโทษครอบครัวแฟนสาวที่เสียชีวิตหรือไม่ พ่อดวงตาเศร้าหมองในทันที พร้อมพยักหน้าตอบรับ ทีมข่าวถามว่า หลังจากนี้ใครจะดูแล เพราะพ่อเจาะคอ และแม่ตาบอด พ่อส่งสัญญานว่า มีลูก 4 คน ไม่มีใครอยู่เลย ตนเองอยู่กับหลาน มีหลานคอยดูแล โดยนายโอชา มีลูก 1 คน วัย 12 ขวบ ตนก็เป็นคนส่งเสียให้เล่าเรียน ยอมรับชีวิตลำบาก

795520

กระทั่งเวลา 20.40 น. ตำรวจได้คุมตัวนายโอชา สวนจันทร์ ผู้ต้องหา จากกองกำกับการสืบสวนจังหวัดสุราษฏร์ธานี ไปคุมขังไว้ที่ สภ.พุนพิน เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากคนร้ายให้การวกวน ซึ่งระหว่างเดินคุมตัว ทันทีที่ผู้ต้องหาเห็นนักข่าว ก็รีบนำเสื้อมาคุมหัวทันที โดยทีมข่าวได้พยายามสอบถามว่า ทิ้งปืนไว้ที่ไหน ปมการสังหารคืออะไร และต้องการขอโทษอะไรหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่ก้มหัวและนำเสื้อปิดไว้และเดินขึ้นรถไป

141846

ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายยิงผู้ตายตั้งแต่ที่ จ.สมุทรสาคร และได้เอนเบาะให้นอน ใส่แมสก์ให้ศพ และนำผ้าคุมศพไว้เพื่ออำพรางในช่วงเดินทาง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม