รองผู้ว่าฯ เอาผิดโรงงานต้นตอน้ำคลองสีชมพู - เจ้าของขอโทษ บอกไม่เคยเกิดแบบนี้เลย

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “เคยเห็นคลองแห่งความรักไหม น้ำเป็นสีชมพูหวาน แต่มีพิษร้ายแรงแค่ไหนไม่รู้ คลองคึกฤทธิ์ หมู่ 5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตำบลนี้อีกแล้ว รอบก่อนก็มีโรงงานเคยทำน้ำเน่า ครั้งนี้เป็นคลองอีกคลองหนึ่งซึ่งมีโรงงานแอบปล่อยน้ำเสียตอนกลางคืนที่ไม่ผ่านการบำบัด จนชาวบ้านสุดทนแจ้งนายอำเภอออกตรวจ”

วันนี้ (19 เม.ย.) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน, พ.อ.เกรียงชัย สุวรรณทัต รอง ผอ.รมน.สมุทรสาคร, นายวิชัย แตงเอี่ยม นายกเทศมนตรีตำบลดอนไก่ดี, สภาอุตสาหกรรมจังหวัด, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 นครปฐม, ผู้แทนสาธารณสุขตำบลดอนไก่ดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก เกิดเหตุการณ์น้ำในคลองคึกฤทธิ์ ที่มีความกว้างของคลองประมาณ 2 เมตร ความยาวตรงจุดที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร โดยน้ำมีลักษณะเป็นสีชมพูเข้ม แต่ไม่มีกลิ่นเหม็น ตั้งแต่เมื่อคืน (18 เม.ย.) ที่ผ่านมา

จากการเข้าตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าว พบว่า มีทั้งพลาสติกที่ได้รับการบดโม่จนเป็นเศษ กองตากแดดไว้จำนวนมาก และมีน้ำสีชมพูกระจายบนพื้นภายในร้าน รวมถึงมีน้ำทิ้งจากภายในร้านไหลลงไปสู่บ่อรองน้ำก็เป็นสีชมพูด้วย ซึ่งน่าจะเป็นต้นเหตุของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในสถานประกอบการรับซื้อของเก่า ประเภทกระป๋องพลาสติก เพื่อนำมาตัดโม่เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนส่งไปรีไซเคิลนั้น พบว่า ตรงบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งมีน้ำสีชมพูเจิ่งนอง และภายสถานประกอบการยังพบชิ้นส่วนพลาสติกที่ถูกตัดย่อยเป็นชิ้นเล็กตากกองอยู่ โดยกองเศษพลาสติกนั้นมีสีชมพูแบบเดียวกับสีของน้ำในบ่อและในคลองคึกฤทธิ์เช่นกัน

ขณะที่ตรวจระบบน้ำทิ้งของทางสถานประกอบการรับซื้อของเก่าแห่งนี้ พบว่า ไม่มีระบบบำบัดทิ้งที่ใช้ในการล้างพลาสติก ที่จะนำมาตัดโม่เพื่อส่งขาย และยังพบว่ามีคราบตะกอนสีชมพูติดอยู่ตามท่อระบาย เมื่อไล่ตรวจเส้นทางท่อระบายน้ำก็พบว่า น้ำทั้งหมดไหลสู่คลองคึกฤทธิ์จริง ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน เพราะมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ขอจดตั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ตาม ต้องสั่งระงับการประกอบกิจการและให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนความเสียหายเรื่องการลักลอบปล่อยน้ำทิ้งลงสู่คลอง สาธารณะ เจ้าหน้าที่จะนำกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ามาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังจะได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบซ้ำ ว่ามีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่

ส่วนผู้ที่ได้รับอนุญาตค้าของเก่าที่สถานประกอบกิจการดังกล่าว ระบุว่า ถังพลาสติกที่ตนเองนำมารีไซเคิลมีคนมาส่งให้ โดยที่ไม่รู้ว่าภายในบรรจุสีอะไรไว้ ซึ่งเมื่อนำมาโม่บดแล้วจึงทำให้มีสีปนเปื้อนลงไปในน้ำทิ้ง และกลายเป็นสีชมพู ส่วนน้ำที่ไหลออกไปในคลองจนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ น่าจะมาจากน้ำในบ่อพักน้ำเกิดล้นขึ้นมา โดยตนเองก็พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างตามที่หน่วยงานสั่ง และต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โดยที่ผ่านมาก็ไม่เคยเหตุการณ์แบบนี้เลย