หวิดตาย! หนุ่มมองหน้าก๊วนเหล้าถูกไล่ตีถึงห้อง หนีขาขวิด จ้วงไขควงแทงจบศึก (คลิป)

จากกรณี ร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายทำร้ายร่างกายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่ภายในอาคาร ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 2 ธ.ค. 63 โดยหลังรับแจ้งเหตุจึงรีบเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ

มีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 รายในที่เกิดเหตุ คือนายภูชิชย์ เซ็นพานิช อายุ 39 ปี มีบาดแผลคล้ายถูกของมีคนฟันเข้าที่กลางศีรษะ และศีรษะด้านหลังรวม 2 แผล และนายอภิสิทธิ์ สาครสิทธิ์ อายุ 30 ปี มีบาดแผลถูกแทงด้วยไขควงที่ต้นแขนซ้าย 1 แผล เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ขณะกำลังจะนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนส่งรักษาที่โรงพยาบาล มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นพรรคพวกของผู้บาดเจ็บ มาล้อมรถมูลนิธิเอาไว้ไม่ยอมให้นำคนเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาล ทำให้เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอกำลังสายตรวจมาเสริม ก่อนที่จะนำตัวผู้บาดเจ็บขึ้นรถยนต์กระบะสายตรวจออกมาจากจุดที่เกิดเหตุ

วันที่ 3 ธ.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เป็นจุดตั้งโต๊ะ เก้าอี้ ที่พักตามอัธยาศัยของลูกบ้านของคอนโดฯ และได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคาร 3 คลิป คลิปแรกเป็นผู้ชาย 2 คน คนแรกฝั่งซ้ายมือสวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น ส่วนอีกคนฝั่งขวามือสวมเสื้อสีเทา กางเกงสีดำ ทั้งคู่วิ่งไล่ต่อยนายภูชิชย์ ซึ่งสวมเสื้อสีขาวแขนยาว กางเกงสีครีมขายาว คาดกระเป๋าที่เอว

คลิปที่ 2 เป็นภาพอีกมุม ลักษณะเหตุการณ์เดียวกันกับภาพแรก และคลิปสุดท้ายนายภูชิชย์ ได้พยายามวิ่งหนีชาย 2 คน และมีชายคนที่สามสวมชุดสีดำ คือนายอนุวัฒน์ จันทร์กุลโล อายุ 35 วิ่งตามหลังทั้ง 3 คน ระยะห่างประมาณ 30 เมตร

นายภูชิชย์ ผู้บาดเจ็บ พร้อมนางสาวปาริชาติ แซ่เตีย แม่ อยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางมายัง สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเข้าพบ ร.ต.อ.ชัยณเรศ เพื่อให้การ โดยนายภูชิชย์อยู่ในสภาพศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผล ถูกตีด้วยขวดคาดว่าเป็นขวดเบียร์ แพทย์เย็บทั้งหมด 10 เข็ม กลางศีรษะ 6 เข็ม และหลังศีรษะ 4 เข็ม

นายภูชิชย์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้เดินออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม 3,000 กว่าบาท บริเวณปากทางเข้าคอนโด หลังจากกดเงินเสร็จได้เดินกลับเข้าไปเพื่อที่จะกลับห้องพัก อยู่อาคารด้านหลังสุด ชั้น 2 ระหว่างที่กำลังเดินกลับ ถือเงินสดที่กดมา และโทรศัพท์มือถือ เห็นนายอภิสิทธิ์และพวกรวม 3 คนกำลังใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องคล้ายหาอะไรอยู่ที่พื้น ตนเองจึงได้มองไปทางนายอภิสิทธิ์ เพราะคิดว่ากำลังส่องไปดูงู ระหว่างมองไปนายอภิสิทธิ์และพวกได้ตะโกนถามตนว่า "มองค-ยอะไรวะ" ตนเองจึงตอบว่า "เปล่าพี่" ก่อนที่จะเดินเข้ามาพูดจาคล้ายหาเรื่องตนเองว่า "มึงเอากับกูไหม" ตนเองตอบกลับว่า "ไม่พี่ ผมจะขึ้นตึก" ก่อนที่เข้ามาชกหน้า ตนก็เซถอยหลัง

กระทั่งเพื่อผู้ชายอีกที่สวมเสื้อสีขาว สวมใส่แว่นตามเข้ามา ทั้งคู่ไล่ตนเองไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจะมีการมาล็อกตน และต่อยอีกครั้ง ตนเองจึงต่อยสวน แต่เห็นคนเสื้อดำจะเข้ามาอีกคน จึงรีบวิ่งหนีขึ้นไปเคาะประตูเรียกแฟนสาวให้แจ้งตำรวจ แต่ได้ยินเสียงว่ามากันหลายคน คิดในใจว่าพวกเขาเยอะ ตนตัดสินใจจะวิ่งออก แต่เจอทั้ง 3 คนพอดี และถูกตีเข้าที่ศีรษะและถูกรุมชกต่อย ตนเองจึงล้วงกระเป๋าคาดเอวหยิบเอาไขควงหัวเฉียกออกมาได้ หลับตาแทงสวนเข้าที่แขนนายอภิสิทธิ์ แต่ตนก็ยังถูกพวกนายอภิสิทธิ์ทำร้ายอยู่ จึงได้ตัดสินใจวิ่งหนีกลับมาเข้าห้อง และล็อกประตูก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกว่าจะออกไปโรงพยาบาลได้ ตำรวจต้องนำกำลังเสริมมาช่วย

สำหรับตนเองเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ 10 วัน ทำงานรับจ้างทำไฟฟ้าให้คอนโดฯ ส่วนแม่และภรรยามาเป็นแม่บ้าน ยืนยันว่าไม่ได้ไปหาเรื่องก่อนแน่นอน หากดูกล้องวงจรปิดตนเองเดินแบบไม่ได้ย้อนกลับไปหากลุ่มนั้นเลย และตนตัวคนเดียวคงไม่โง่เอาตัวไปแลกกับคน 3 คนแต่นอน

อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะตัดสินว่าทะเลาะวิวาทไม่ได้ เพราะตนเองมาตัวคนเดียว และการต่อยการแทงคือการป้องกันตัว ดังนั้นการเอาขวดมาตีศีรษะตนเองมองว่าเป็นการหมายเอาชีวิต ขอยืนยันว่าการที่มีอาวุธที่มีไม่มีเจตนาจะแทง จึงขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย และตนเองก็ยังคงอยู่ที่คอนโดฯ แห่งนี้ต่อไป สำหรับการเจราจาก็ไม่รู้จะเจรจาอย่างไร เพราะคงคุยไม่ได้ เพราะตอนทำทำไม่คิดเลย โอกาสมันแพง ไม่เช่นนั้นใครก็ทำร้ายร่างกายกันได้ง่าย ๆ

ภายหลังร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าของคดีสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย นายอภิสิทธิ์ สาครสิทธิ์ อายุ 30 ปี คู่กรณี ผู้ถูกนายภูชิชย์แทงด้วยไขควงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า เป็นเหตุการณ์ที่ต่างคนต่างต่อย เพราะเกิดจากอาการหัวร้อนของตัวเอง จึงมีการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนเพื่อนคนอื่นอีก 2 คน วิ่งไปห้ามไม่ได้รุมต่อยแน่นอน แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตนเองก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันเช่นกันว่าไม่ได้รุมทำร้าย และถูกแทงด้วยไขควงก่อน

ส่วนสาเหตุที่ต้องวิ่งตามไปบนอาคาร จนถูกคู่กรณีใช้ไขควงแทงแขน เพราะตนเองโดนต่อยหลายทีจึงไม่ยอม และวิ่งตามไปเพื่อเอาคืน โดยไม่มีอาวุธใดติดมือไป แต่เป็นจังหวะที่เจอกันพอดีช่วงชั้น 2 ตนลงจากชั้น 3 เพราะหาคู่กรณีไม่เจอจึงเดินลงจากอาคาร แต่มาเจอคู่กรณีพอดี จึงชุลมุนกัน แต่ยังยืนยันเช่นเดิมว่าโดนแทงก่อนที่คู่กรณีจะหัวแตก

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.ชัยณเรศ เปิดเผยหลังการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายว่า โดยหลักฐานภาพในกล้องวงจรปิดปรากฎชัดเจนพบว่านายภูชิชย์ ถูกนายอภิสิทธิ์และพวกอีก 2 คนวิ่งไล่ทำร้ายร่างกายและชัดว่ามีพฤติการเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน โดยจากคำให้การของนายภูชิชย์ ซึ่งบอกกว่าออกจากห้องไปซื้อของระหว่างนี้ เดินผ่านกลุ่มดังกล่าวประมาณ 3-4 คน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความปกติ กระทั่งเสร็จภารกิจก็เดินกลับเข้ามาคอนโดฯ เพื่อจะขึ้นห้อง ก็เห็นกลุ่มดังกล่าวมีการฉายไฟ จึงสอบถามกัน จุดนี้ตำรวจจึงสรุปได้ว่าเป็นเรื่องแค่คำพูดที่อีกฝ่ายไม่พอใจ จึงมีการไล่ตีทำร้าย

ทั้งนี้ ตำรวจจึงรับคำร้องทุกข์นายภูชิชย์ จึงตกเป็นผู้เสียหาย ถูกนายอภิสิทธิ์ และพวกได้แก่นายอนุวัฒน์ จันทร์กุลโล อายุ 35 ปี และนายภูไท แข็งข้อ อายุ 26 ปี ผู้ตกเป็นผู้ต้องหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ซึ่งทั้ง 3 คนรับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แม้จะโต้แย้งกลับ แต่ยังไม่ชัดด้วยหลักฐาน จึงปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เนื่องจากมีมอบตัวกับตำรวจด้วยตัวเอง