สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แถลงข่าวการบุกจับกุม "นายแทนไท ณรงค์กูล" นักธุรกิจเจ้าของค่ายหนัง แทนไทฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด ในข้อหาเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งภายหลังมาพบว่าในส่วนของค่ายหนัง แทนไทฟิล์ม เพิ่งได้เปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่มีมีพระเอกชื่อดังอย่าง “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” ร่วมเป็นนักแสดงด้วย
แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางเป้ เองจะออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นถึงเรื่องราวของเจ้าของค่ายหนังไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดทีมข่าวได้มีโอกาสเจอกับทาง "หนุ่มเป้ อารักษ์" ก็เลยขออัปเดตเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องดังกล่าวที่เจ้าตัวได้ไปร่วมเล่น ว่าขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไร
โดยทาง "เป้ อารักษ์" เผยว่า ส่วนตัวหลังได้เห็นข่าวก็แอบกังวล แต่ด้วยที่ไม่ทราบถึงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องหรือปัญหาของผู้ใหญ่ ทั้งนี้ในส่วนของภาพยนต์ดังกล่าวนั้นก็กลับมาถ่ายทำเหมือนเดิมแล้ว โดยทางผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่เป็นเจ้าภาพหลักก็ได้มีการจัดการเคลียร์ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ลั่นในส่วนของที่มีการฉ้อโกงหรืออะไรที่เกิดขึ้น ในส่วนของภาพยนต์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะตนได้ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารแล้ว มั่นใจได้
ลั่นในส่วนของแพลนภาพยนต์นั้นก็อาจจะคงเหมือนเดิม เพียงแค่มีการเลื่อนถ่ายออกไปในขณะนี้เท่านั้น ส่วนวันฉายหรือโปรแกรมที่จะเข้าโรงภาพยนตร์อาจจะคงไว้เหมือนเดิม เผยในส่วนของตัวนักแสดงทุกคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะเราทุกคนมาทำหน้าที่เล่นภาพยนต์ส่วนเรื่องธุรกิจส่วนตัวของใครเป็นอย่างไร ส่วนนี้ไม่ทราบเป็นเรื่องของบุคคล
"เป้ อารักษ์" เผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถึงขั้นหวาดระเเวงในการรับงานเลยทีเดียว เพราะตื้นลึกหนาบางชีวิตของแต่ละคนเราไม่สามารถล้วงลึกไปรู้ได้ ท้ายสุดอยากจะบอกกับแฟนๆทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะในส่วนนักแสดงไม่ได้มีอะไรเกี่ยวอยู่แล้ว
ตอนนี้หนังยังถ่ายทำต่อมั้ย
"หยุดถ่ายอยู่ครับ และทางบริษัทกำกับหนังซึ่งเป็นเจ้าภาพ เป็นโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับเขาจัดการเรียบร้อยแล้วครับ"
ตอนที่ได้ยินข่าวตกใจมั้ย
"ก็ตกใจครับ"
ได้ถามรายละเอียดมั้ย
"คือผมไม่ได้รู้เรื่องว่าอะไรยังไง ผมทำงานกับคุณพุทธิพงศ์ และบริษัทกำกับหนัง คนดีลทั้งหมดครับ ตอนนี้เขาก็ไปจัดการกันเรียบร้อย ผมก็เซ็นสัญญาถ่ายต่อกับทางบริษัทกำกับหนังครับ"
แพลนหนังยังคงเป็นไปตามเดิมทั้งหมดมั้ย
"ตอนนี้ก็แค่เลื่อนถ่ายนะครับ เลื่อนเวลาถ่ายเฉยๆ"
ส่วนตัวเรื่องคดี ทางนักแสดงมีส่วนเกี่ยวข้องมั้ย
"ตัวนักแสดงไม่เกี่ยวเลยครับ คือนักแสดงทั้งหมดคุยกับทางบริษัทกำกับหนังครับ แต่ทางบริษัทกำกับหนังไปคุยต่อยังไงอันนั้นผมไม่รู้เรื่องว่ายังไง ถามว่าตกใจมั้ย ก็ตกใจครับ แต่ที่เหลือก็เป็นทางบริษัทหนังเขาจัดการครับ"
ทำให้ครั้งต่อไปเราต้องเลือกการรับงานมากขึ้นมั้ย
"มันยากเกินไปที่จะทำแบบนั้นนะครับ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเรื่องของข้างในเป็นยังไง สมมติเรารับหนัง เราก็คุยกับผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะไปทำอะไรกันต่อ เราก็ไม่มีสิทธิจะไปยุ่งอะไรตรงนั้นด้วย ก็คงทำเหมือนเดิมครับ"
กลัวจะมีปัญหาตามมาทีหลังจากที่หนังถ่ายเสร็จมั้ย
"ตอนนี้จากการที่ผมอ่านหนังสือ เป็นลายลักษณ์อักษรก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เพราะเขาก็จัดการกันเรียบร้อยแล้ว"
เป็นหนังสือจากเขาใช่มั้ย
"มันก็มีเรื่องของทางกฎหมายจัดการครับ คือผมก็อยากทำภาพยนตร์ ก็เลยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวว่าตรงนั้นเขาเป็นยังไง ถ้าเขาเรียบร้อยแล้ว กฎหมายเรียบร้อยแล้ว เราก็ทำงานต่อไป"
คนที่ถูกดำเนินคดีเขามีส่วนเกี่ยวข้องมากขนาดไหน
"อันนี้ต้องไปถามทางบริษัทกำกับหนังครับ ผมก็พูดอะไรไม่ได้"
มีความกังวลมั้ย เพราะหนังเราก็ต้องถ่าย แต่มีข่าวนี้ออกมา
"ตอนนี้เรื่องทางกฎหมายสำเร็จแล้ว เราก็ทำงานต่อไป ไม่ได้กังวลครับ ก็รอดูต่อไป เป็นภาพยนตร์ที่ผมได้ทำงานแบบนี้นานๆ ทีนะ จะซีเรียสจริงจังในความเป็นหนังไทยอยู่มากๆ ครับ ก็รอดูกัน"
แฟนๆ เป็นห่วงกันเยอะ
"ตอนแรกที่มันออกมาแล้วหน้าพวกผมไปอยู่บนหนังสือพิมพ์ หรือหน้าข่าวออนไลน์ ไม่ต้องแฟนๆ หรอกครับ ผมก็เป็นห่วงตัวเองเหมือนกันครับ (ยิ้ม) แต่พอถึงเวลาเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ทางบริษัทกำกับหนังก็ยังทำภาพยนตร์ต่อไป เรื่องรายละเอียดผมอยากให้ไปถามเขาเอง แต่ทางนักแสดงไม่ได้มีอะไรที่จะต้องกังวลครับ"
