"จิ้งหรีดขาว" เจ็บช้ำ!! รักซ้อนเจ็บปางตาย เมียตัวจริงประกาศตัว จนเกือบคิดสั้น

30 พ.ย. 63

นางเอกลิเกดัง "จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ" เผยเรื่องราวความรักที่เป็นบาดแผลในใจที่ไม่อาจลืมเลือน เคยเกือบจะได้หมั้นกับผู้ชายที่มาดูลิเกทุกวัน แต่มีอันต้องเลิกลาเพราะเกิดไปรักผู้ชายที่ไปเจอหน้ากันแค่วันเดียว ขณะที่ทุกคนเตือนแล้วว่าผู้ชายคนนี้ มีลูกมีเมีย แต่เจ้าตัวก็ไม่เชื่อ พอรู้ความจริง เจ็บปางตายจนเกือบคิดสั้น พร้อมเผยเรื่องลี้ลับ เกือบโดนผีปล้ำเพราะคำสัญญา!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "กวินท์-ปุ้ย" เปิดใจทั้งน้ำตา กดดัน! คนจับตาคู่รักเน็ตไอดอลต้องมีความสุขตลอดเวลา
- "นิโคล" เปิดใจทั้งน้ำตา เผยความรักที่ทำให้อกหักจนปางตาย เป็นรักแท้ที่เจ็บที่สุด
- "มดดำ คชาภา" เคยถูกจับรูดทรัพย์จนหมดตัว-มีแฟนเป็นผู้ชายขายตัว
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่ 

s__65093944

จิ้งหรีดขาว เป็น FC พี่อ้อย พี่ฉอด มากๆ เพราะชอบฟังเรื่องความรัก ทำไมมันโดนใจขนาดนี้ ชอบฟัง ชอบดู เป็นแฟนรายการ เพราะว่าเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในความรักเลย เป็นคนที่คิดกับตัวเองตลอดเวลาว่าไม่ใช่คนสวย แต่ว่าอาจจะเป็นคนน่ารัก (หัวเราะ) เพราะตัวไม่สูงมาก จมูกไม่ค่อยมี ได้ขาวอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าเราไม่ใช่คนสวย เพราะว่าพี่ของเราสวยมาก มันมีข้อเปรียบเทียบเยอะมาก ตอนสมัยเด็กๆ คิดอย่างนั้น แต่พอเริ่มโตแล้วก็แต่งได้ เสริมจมูกได้ อะไรอย่างนี้ ก็ดูดีขึ้น


ถาม มาเป็นนางเอกลิเกได้ยังไง

จิ้งหรีดขาว : ตระกูลของจิ้งหรีดขาวเป็นลิเกหมดเลย คุณพ่อเป็นครูลิเก คุณแม่ไม่ใช่ลิเก แต่ก็เป็นครอบครัวลิเกเหมือนเรา ตั้งแต่เราลืมตาตื่นมา หนูก็เห็นแสงเพชรสะท้อนเข้าตาแล้ว เราก็คิดว่าชีวิตเราเกิดในตระกูลที่รวยหรือเปล่า เพชรมันแสบหูแสบตามากเลย  เล่นลิเกจริงๆ คือตอน 4 ขวบ เหมือนเป็นธุรกิจครอบครัว ทุกคนเป็นหมดแล้ว เราเกิดมาในตระกูลลิเก ก็ต้องเป็นตามเขาเลย

จิ้งหรีดขาว : ส่วนที่มาของชื่อ จิ้งหรีดขาว คือตอนแรกมาจากจิ้งหรีด ชื่อเล่นของเรา เราก็ถามแม่ว่าทำไมเราต้องชื่อจิ้งหรีดด้วยเพราะเพื่อนล้อ แม่ก็บอกว่าเพราะตอนเด็กเราร้องไห้เก่งมาก งอแงมาก ก็เลยชื่อจิ้งหรีด แล้วมันมีฉายาเกิดขึ้นคือกระต่ายขาว เราเลยมาตั้งของเราว่าเป็นจิ้งหรีดขาว


ถาม ทุกวันนี้ยังเล่นลิเกไหม

จิ้งหรีดขาว : ยังเล่นอยู่ เพราะความอยากเล่น เพิ่งตั้งคณะตัวเองก่อนโควิด เพราะว่าเจ้าภาพเขาบนลิเกเรา จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ เราก็บอกว่าไปหากุ้งสิคะ เรารับเชิญ กุ้ง สุธิราช (ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งคณะ) เพราะกุ้งมีคณะ เรารับเชิญไปเล่นที่คณะเขา แต่สรุปแล้ว เจ้าภาพบอกว่าจะแก้บนคณะจิ้งหรีดขาว ซึ่งตอนที่เรายังไม่ได้ตั้งคณะ เราทิ้งงานเราไปประมาณ 50 คืน แล้วที่ผ่านมาคือวันเกิดก่อนโควิด มีคนโทรมาถามว่ารับไหมๆ จะแก้บน เราก็ถามแม่เลย แม่คะ อยากจะตั้งคณะแม่ว่าไง เราก็มีอายุแล้ว แล้วอีกอย่างรากเหง้าของเราก็เป็นลิเก แม่บอกตั้งเลย เราเลยตั้งเลยเดือนนึง 5-6 คืนก็แฮปปี้แล้ว


ถาม ด้วยความเป็นนางเอกลิเก ต้องมีหนุ่มๆ ที่มาดู มาชื่นชม ชื่นชอบเยอะ คนมาจีบเยอะไหม

จิ้งหรีดขาว : เยอะมากค่ะ ณ ตอนแรกที่เราเริ่มเป็นนางเอก มีคนมาจีบ มาชอบเยอะมาก แต่ครั้งแรกในชีวิตที่มีผู้ชายมาจีบ อันนี้เหมือนเด็กแก่แดดนิดนะคะ อายุประมาณ 13-14 ปี เราไม่ได้ชอบเขา เขามาชอบเรา ด้วยที่บ้านเป็นลิเก แล้วยากจนมาก เวลาพักช่วงหน้าฝนเ ราก็ต้องหาอาชีพมาทำ คุณแม่ขายของตลาด ส่วนเราตี 4-5 ไปรับจ้างเขาขายของ ซึ่งผู้ชายคนนี้เขาเป็นลูกเจ้าของ  เราก็ไปขายวันละ 20-40 บาท ไปรับจ้างเขา แล้วเขาดูแลเราดีมาก หนูกินอะไรไหม ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นนางเอกลิเกนะคะ แต่ก็เริ่มแสดงบ้างแล้ว และในเวลาเดียวกันที่มีคนมาจีบเรา ก็มีคนมาจีบพี่สาวเราด้วย ซึ่งพี่สาวเราสวยมาก คนที่มาจีบพี่สาวเราคือหล่อมากแต่สุดท้ายผู้ชายที่มาจีบพี่สาวถูกผู้หญิงจับ(เขาท้อง) เลยต้องเลิก ทำให้เรารู้สึกว่าหล่อสวยขนาดนี้ยังเลิกกันไปมีคนอื่น เราเลยคิดเองว่าต่อไปถ้าจะมีแฟน ต้องไม่หล่อ


ถาม แล้วมีแฟนเป็นตัวเป็นตนตอนไหน

จิ้งหรีดขาว : ตอนนั้นเป็นนางเอกเต็มตัวแล้ว มีผู้ชายมาดูลิเก ตอนแรกไม่ได้คิดว่าเขาชอบเรา เพราะเขามาดูทุกครั้ง เขาจะมากับผู้หญิงหลายคน และเขาเป็นเจ้าของร้านทอง ซื้อของมาให้เราทุกวัน ให้รางวัลเรามากมาย เขามาดูเราทุกวัน 8-9 ปี เขาสามารถรู้แล้วว่านางเอกคนนี้ร้องกลอนนี้อย่างไรได้แล้ว ตอนแรกๆ มาดูก่อน แล้วพอ 3 ปี เริ่มจีบเรา ออกตัวว่าชอบเรา เราชอบเขานะ แต่ไม่กล้าจะเปิดใจ พอเวลาผ่านไปสัก 5 ปี ซึ่งในระหว่างความสัมพันธ์ 5 ปี ได้มีการพูดคุยกัน พอเล่นลิเกเสร็จก็มานั่งคุยกัน ถ่ายรูปแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป อาจจะมีคุยโทรศัพท์กันบ้าง แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันเลย แต่พอมาปีที่ 6-7 เริ่มไปบ้าง มารับไปทานข้าวใกล้ๆ บ้าน ซึ่งการที่อยู่กับเขาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงเอง ตอนนั้นเราก็เริ่มรักขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเขามานะมากๆ แล้วเราก็เห็นใจเขา ทุกคนรอบข้างก็เริ่มรู้ว่าชอบกัน จนพี่น้องเชียร์หมดเลย เข้าปีที่ 8 เขาก็คุยกับพี่น้องเราทุกคนว่าหมั้นก่อนไหม เขาก็เตรียมซื้อของเลยว่าเราชอบอะไร ชอบสร้อยข้อมือเพชร ชอบเพชรเขาก็ซื้อ ซึ่งตอนนั้นเราก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าหมั้นไว้ก่อน 4-5 ปีแล้วค่อยแต่ง

จิ้งหรีดขาว มีอยู่วันหนึ่ง เขาพาหนูไปที่หนึ่ง แล้วเราได้ไปเจอผู้ชายคนหนึ่ง เราเจอผู้ชายคนนั้น เรารู้สึกว่าฉันรักผู้ชายคนนี้จัง ฉันอยากจะเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้ เขาเป็นคนที่หล่อมาก หล่อเกินจะบรรยาย


ถาม แต่คนที่เพิ่งเจอเขาเป็นคนแปลกหน้าไหม หรือได้เจอ ได้คุยกันอยู่แล้ว

จิ้งหรีดขาว : เขาไม่ได้แปลกหน้านะคะ แต่มาเจอตัวจริงเขาที่นี่ เหมือนเคยเจอเขาตามภาพ ตามอะไรบ้าง เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน มีชื่อเสียง มีเงินทอง มีอะไรที่ครบอยู่แล้ว เรารักเขาเลย ในวันที่ไปเจอเขา เขาก็ขอเบอร์โทรศัพท์เราไป ใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่เขาจะโทรมา ทั้งๆ ที่ข้างๆ คือแฟน แต่ใจเรารอเขาโทรมา แล้วพอถึงบ้าน เขาก็โทรมาจริง ตอนนั้นคือใจเราสั่น หน้าเราแดง นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าความรัก ตอนนั้นที่เราใกล้หมั้น แฟนเขาหอบตะกร้าผ้าย้ายมาอยู่บ้านเราเลย แต่แยกกันนอนนะคะ ไม่ได้ลองอยู่ด้วยกันเขามาอยู่บ้านเรา 1 วัน ทานข้าวคุยกันมันเหมือนไม่ใช่ แล้วมาประจวบเหมาะกับที่เรามาเจอผู้ชายคนนี้ด้วย


ถาม ที่รู้สึกว่าไม่ใช่ เพราะว่าเราเจอผู้ชายคนใหม่ด้วยหรือเปล่า

จิ้งหรีดขาว : หนึ่งเลยคือใช่ สองมีอาการรักเขาไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนดี อยู่ด้วยแล้วอึดอัด เรานิสัยไม่ดีเลย เพราะเราเริ่มอึดอัด ไม่คุยกับเขา เริ่มไม่อยากหมั้นแล้ว สุดท้ายก็คือไม่หมั้นกับเขา แต่เราไม่ได้บอกเลิกนะ เรามีวิธีการของเรา ด้วยอาชีพของเรา เวลาเราบอกเลิกใคร เขาจะเสียใจมาก เราไม่ต้องการให้ใครเสียใจ เราเลยบอกเขาว่าตอนนี้ยังไม่พร้อม เขาอึ้งเลย เขาคงรู้ว่าเราเจอผู้ชายคนนี้ เราคงแสดงออกอาการให้เขาเห็น เราก็พยายามพูดหว่านล้อม ว่า ตัวเอง หนูมีความรู้สึกว่าอยากแสดงลิเกต่อ ยังไม่อยากเสียความอิสระ อยากเล่นลิเกไปก่อน รอได้ไหม คำของเราที่บอกกับเขา ถึงเวลาแล้วค่อยหมั้นค่อยแต่ง

s__65093942

ถาม ความตั้งใจของการพูดประโยคนี้ เราตั้งใจอยากให้เขารอจริงๆ หรืออยากจะเลิกแต่ไม่รู้จะพูดยังไง

จิ้งหรีดขาว : เอาจริงๆ อยากเลิก แต่ว่าการพูดที่มันไม่เจ็บช้ำน้ำใจกันจนมากเกินไป เขาก็ให้ตามคำที่เราขอ และก็อยู่รอเหมือนเดิมเขารอเราอีกประมาณ 7- 8 ปี เขาก็แต่งงานเ พราะเขารู้ว่ามันหมดแล้ว


ถาม แล้วอีกคนที่เราลุ่มหลงเขาขนาดนั้น เราได้มีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อไหม

จิ้งหรีดขาว : สานค่ะ ซึ่งในระหว่างที่เราสานสัมพันธ์กับอีกคน คนที่เราจะหมั้นเขาก็มาดูเราเหมือนเดิมทุกวัน ตบรางวัลให้เราเหมือนเดิม แต่เพียงแค่ว่าเราไม่ได้คุยกัน จนเขาหยุดไปเองแล้วไปแต่งงาน ต้องยอมรับว่าเราหลงคนนั้นมาก ใครเตือนก็ไม่ฟังว่าผู้ชายคนนี้มีลูก มีเมียแล้ว ตอนนั้นเราเป็นแฟนเขาแล้ว ครอบครัวก็รับรู้ พอมีคนเตือนเรา โทรไปถามเขาเลยกระแสเป็นแบบนี้นะ มีลูก มีเมียหรือยัง เขาจะยืนกระต่ายขาเดียวเลยคือไม่มี รักหนูคนเดียว คุยกันแบบนี้ สื่อสารกันแบบนี้ คุยโทรศัพท์บ้าง เป็นแบบนี้ 2 ปี เขามาบ้านเราครั้งแรก เขากราบเท้าพ่อแม่เรา ฝากตัวเองเป็นลูกเลย แล้วเขาก็มีเงิน หน้าตาดี ทุกอย่างพร้อม พ่อรักเขามาก แต่แม่ไม่ เพราะแม่เขารู้ แม่ก็เตือนว่าจะยืดเหรอ แล้วในเวลา 2 ปี พ่อเราเป็นมะเร็ง เขาดูแลพ่อดีมาก เขาไปต่อแถวซื้อยาประมาณ 40,000-50,000 บาท ซื้อให้พ่อทานทุกเดือน แล้วเวลาเราไปเล่นลิเก เขาจะโทรหาพ่อเราตลอด เหมือนเป็นลูกพ่อแม่ไปแล้ว แต่พี่น้องคือให้เราหยุดอย่างเดียว ต้องหยุดคบกัน เราเชื่อเขาคนเดียว หน้ามืดตามัว แต่เขาเปิดตัวกับพี่น้องเราหมดเลย แต่พอเขาว่างๆ 1 อาทิตย์ต้องมาหาเราสองวัน เขาอยากไปเที่ยวน้ำตกมากเลย เขาขับรถมารับหน้าบ้าน เราต้องขับรถให้เขา ทั้งๆ ที่เราก็ง่วง แต่เพราะเขาก็งานเยอะ เขาก็หลับในระหว่างที่เราขับรถไป) พอไปถึงน้ำตกปูเสื่อนั่งกินข้าวกัน คุยๆ กันครึ่งชั่วโมงแล้วกลับเลย เพราะต่างคนต่างรีบ ชีวิตเป็นแบบนี้สองปี


ถาม จากที่ปิดหูปิดตาว่าเชื่อว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว วันที่ฟ้าเปิดตาเปิดใจมันเกิดขึ้นได้ยังไง

จิ้งหรีดขาว : มีคนแถวบ้านเขา แล้วสนิทกับเขา เอารูปมาวางให้ดู พ่อแม่ลูก เชื่อไหมว่าเราจำภาพที่เห็นวันนั้นไม่ได้เลย เพราะเราช็อกเลย ก่อนหน้านั้นเขาดูแลเราดีมาก ชีวิตเราไม่เคยมีคนเปย์หนัก อยากได้สร้อยให้สร้อย วันเกิดเขาซื้อเค้กให้ 10 ปอนด์ อยากได้อะไร ฉันให้หมด มันเลยรักเขามาก พอเราเห็นภาพ ราบอกตัวเองเลยว่าไม่จริง แล้วก็โทรหาเขา เขาก็อึ้ง จากที่บอกว่าไม่จริง รักหนูคนเดียว เขาเงียบเลย แล้วเขาก็เริ่มไม่โทรมา ค่อยๆ หายไปๆ ตอนนั้นทุกข์มากเพราะรักเขามาก ชีวิตเรามีแต่เขา มีวันหนึ่งพ่อเราเสียเขาก็มารดน้ำศพนะ พอเราเห็นเขา น้ำตาไหลเลย พ่อเสียเราก็เสียใจอยู่แล้ว แต่พ่อเรายังมีเวลาเสียใจ เพราะพ่อเป็นมะเร็งมาหลายปีแล้วทำใจไว้แล้ว แต่กับเรื่องเขาเหมือนสายฟ้าฟาด


ถาม พ่อก็เสีย แฟนก็ทิ้ง ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง

จิ้งหรีดขาว : มันไม่เหลืออะไร น้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเราไม่ได้มีโอกาสได้พูด ได้เคลียร์กันในสิ่งที่เราเห็นเลย เพราะเขาเงียบไปเลย เราอยากเคลียร์มากๆ เหมือนตอนที่เขามารดน้ำศพพ่อ ชีวิตของเราล้มหมดทุกอย่าง แล้ววันที่พ่อเผา เขาไม่มา เราเลยอธิษฐานจิตว่าเผาเขาไปกับพ่อแล้ว แต่ใจตัดไม่ได้เลยนะ มันเหมือนว่าหนูอยู่ไม่ได้ เหมือนจะตายตามพ่อไปแล้วตอนนั้น จนญาติพูดว่าสติมีไหม เพราะลิเกก็ต้องเล่น งานศพพ่อก็ต้องทำ มันลอยมากชีวิตไม่มีอะไร


ถาม ทำให้คิดว่าไม่อยากอยู่

จิ้งหรีดขาว : ใช่ค่ะ คิดว่าไม่อยากอยู่ แล้วสิ่งที่เรียกสติเราคือสงสารแม่ แม่เสียพ่อไป พอเผาพ่อเรียบร้อยแล้ว ยิ่งว้าเหว่มาก ไปบวชชีเลยตอนนั้น ขอให้ลืมให้ได้เท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ได้บวชชี ฉันน่าจะตาย ไปบวชชี 1 เดือน ถามว่าตัดได้ไหม ช่วยได้บ้าง ทำงานในระหว่างบวช ไปถูกุฏิบ้าง ถูศาลาบ้าง และหลังจากสึก เราไปเจอเขาด้วย แต่ไม่ได้คุยกัน หมือนน้ำตาเราไหลอยู่ตลอดเวลา แล้วชีวิตเราไม่ได้แล้ว เขาพยายามที่จะเคลียร์กับเราเหมือนกัน เราพูดคำเดียวเลยว่าฉันเผาเธอไปกับพ่อแล้ว เธอตายไปแล้วจากใจฉัน แต่ใจจริงๆ เจอไม่ได้เลยเพราะเจอแล้วน้ำตามันไหล ขนาดเจ็ดปีผ่านไปน้ำตายังไหลอยู่เลย


ถาม พังพินาศกับความรักครั้งนี้ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องของความรักเปลี่ยนไปอย่างไร

จิ้งหรีดขาว : หน้ามือเป็นหลังมือเลย มีความรู้สึกว่าในเมื่อความรักมันไม่มีจริง ไม่เป็นไร ก็ไม่รักใครเลย เพราะเราเจ็บมากที่สุดในชีวิตครั้งแรก ครั้งเดียว พบจบจากคนนี้ ตั้งใจว่าฉันไม่รักใครแล้ว แต่ถ้าใครรักฉัน ช่วยไม่ได้ ตอนนั้นคือเป็นนางมารร้ายเลย แต่ว่าเราไม่ได้เป็นคนที่หลอกใครนะ แต่ถ้าใครอยากรักก็มา มีคนเข้ามาเยอะ ตำรวจ ทหาร หมอ ดีเจ นักร้อง เพราะตอนนั้นเรามีชื่อเสียง มีเงิน มีทุกอย่างครบ ไม่ง้อใครเลย ทุกคนที่เข้ามา เราคุยแต่ไม่คิดจริงจังกับใครเลย ไม่หวั่นไหวกับใครด้วย ปิดตายไปเลย และสิ่งที่น่าแปลกคือคนที่เข้ามาหลังๆ เขาก็ไม่โสดด้วย มีเมียมีลูกหมดแล้ว ส่วนใหญ่คือไม่บอกด้วย

จิ้งหรีดขาว : แล้วคนที่ต่อจากคนนี้ ตอนพ่อป่วย เขารับราชการที่บ้าน เขามาเสียบพอดีเลย เหมือนเป็นรอยต่อ พาพ่อเราไปโรงพยาบาล ฐานะดี อะไรดีหมดอีกแล้ว พอพ่อเสีย เขาดูแลหมด แล้วพี่น้องเราเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้ชายคนนี้ดีเหลือเกิน ดูแลเราได้ หมั้นไหม ไม่ได้ทิ้งห่างจากคนที่เราจับได้ว่าเขามีลูกมีเมียเลยค่ะ เพราะเขามาเสียบแทนเลย คนนั้นเริ่มไม่โทรไม่มา ตอนนั้นคือ เราอยากลืมคนนี้ เลยคิดว่าจะแต่งก็แต่ง จะหมั้นก็หมั้น เพราะไม่รักอยู่แล้ว แต่แม่รัก พี่น้องรัก แล้วก็ซื้อของหมั้นมาเลย อีกหนึ่งเดือนกำลังจะหมั้น เมียเขามาเลย ประกาศว่าฉันคือเมีย ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ รู้สึกขำด้วยซ้ำ ตอนนั้นสามารถคบซ้อน 4-5 คนได้ในเวลาเดียวกัน รับทุกคน ไม่ปฏิเสธ คุณจะตบรางวัลอะไร หรือให้อะไร เราไม่ปฏิเสธใครเลย แต่เรามาเจอคนท้ายสุด ตอนนั้นเรากำลังจะเป็นนักร้อง เมียเขาโทรมาหาเราเลย เขาบอกว่าพี่เขาขอมีหนูอีกคน เขาอยู่กับพี่มา 8 ปี ถ้าเขาขอ พี่ก็ยอมนะ แต่ตอนนี้พี่เพิ่งท้อง เราช็อกแล้วก็ตัดเลย จริงๆ อยากจะคบผู้ชายคนนี้ เขาค่อนข้างพร้อมทุกอย่าง แต่ถ้ามีลูกมีเมียแล้วเลิกนะคะ 


ถาม เคยวิเคราะห์ไหมว่าทำไมเราถึงเกิดมาแล้ว ไม่ประสบผลสำเร็จในความรักสักที

จิ้งหรีดขาว : มันมีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ ฟังดูแล้วลึกลับนะคะ มีผีมาปล้ำ ตอนนั้นบ้านเพิ่งสร้างได้ 2-3 ปี ห้องเราแอร์เสีย เราเลยต้องไปนอนอีกห้อง ไปนอนครั้งแรกเหมือนกึ่งๆ ฝัน มีผู้ชายใส่โจงกระเบนตัวใหญ่ๆ แต่เขาอ่อนโยนมากกับเรา เขาค่อยๆ จับมือเราแล้วหอม ค่อยๆ กอดเรา ความรู้สึกตอนนั้นอบอุ่นมาก รักผู้ชายคนนั้นมาก แต่เหมือนมันอยู่ในฝัน เหมือนเราฝันอยู่ เรารู้ตัวว่าไม่ใช่คน ก็สวดมนต์ แล้วเขาก็หายไป ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย ครั้งที่สอง 6-7 เดือนผ่านไป แอร์เสียเหมือนเดิม เราก็ไปนอนห้องเดิม เหมือนจะเคลิ้มหลับ มากอดเลย คนเดิมด้วยค่ะ กอดเรา รักเราเหมือนคิดถึงเรามากกว่าครั้งแรก เรารู้สึกไม่ดี ก็สวดมนต์อีก แล้วก็หายไป แต่ครั้งที่สาม แอร์ไม่ได้เสีย แต่เราไปนอนเอง เหมือนมีอะไรดลจิตดลใจเรา พอเข้าไปนอน ยังไม่ทันหลับตาเลย กระโดดกอดเราและเหมือนจะข่มขืนเลย แต่เหมือนเรารักผู้ชายคนนี้จังเลย เราก็ปล่อยตัวไปกับเขา แต่เราก็คิดได้ว่าเขาไม่ใช่คน ก็ท่องทุกบทสวด แล้วพอหลุด ก็วิ่งออกจากห้องนั้นเลย ก็เลยมาบอกแม่ ก็เลยไปปรึกษาพระ ท่านบอกว่าเมื่อก่อนผู้ชายคนนี้เป็นของเรา เคยสาบานสัญญากันไว้ ว่าจะรักกันทุกชาติไป พอได้ยินดี เราก็มาคิดเพราะแบบนี้หรือเปล่า เราถึงไม่สามารถรักใครได้และรักใครก็ไม่ประสบความสำเร็จเลย เขาจะมัดเราอยู่แบบนี้ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเขาเลย เพราะเขาบอกเลยว่าถ้าไม่มีคู่ ยิ่งอยู่ ยิ่งรวย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส