ญาติ-เพื่อนลุงซาเล้ง ฉะ "จ๊อด" ไม่จริงใจไถ่บาป ตีมึนไม่บวช อ้างต้องเกณฑ์ทหาร (คลิป)

4 เม.ย. 61
จากกรณีนายนราธร โสดติจัง อายุ 21 ปี หรือ “จ๊อด” ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี ที่ขับซาเล้งหาของเก่าขายจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยครอบครัวนายจรูญได้ตั้งศพสวดอภิธรรม ที่วัดห่อหมก จ.พระนครศรีอยุธยา
บรรยากาศงานศพ ของนายจรูญ มณีพันธ์
วันนี้ (3 เม.ย.) บรรยากาศพิธีสวดอภิธรรมศพ ของนายจรูญ ในคืนที่ 5 ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ในวันนี้เจ้าภาพครอบครัวมณีพันธ์ ได้นำวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่มาบรรเลงภายในงาน
นายนราธร โสดติจัง หรือ “จ๊อด” พร้อมภรรยา และพี่ชาย ร่วมฟังสวดอภิธรรม
โดยเวลา 18.15 น. นายจ๊อด พร้อมภรรยา และพี่ชาย ได้เดินทางมาที่วัด ซึ่งนายจ๊อดได้สวมชุดสีขาว โดยทันทีที่มาถึง นายจ๊อดได้ตรงเข้าไปหานางฉลวย ภรรยานายจรูญ และญาติๆ ทันที จากนั้น นายจ๊อดได้บอกเหตุผลที่ไม่สามารถบวชให้นายจรูญได้ เนื่องจากติดภารกิจเข้าคัดเลือกทหาร ก่อนจะเข้าไปเคารพศพนายจรูญ และก้มหน้าก้มตา ไม่มีการสนทนากับใคร
นายโจ้ พี่ชายของจ๊อด
ด้าน นายโจ้ พี่ชายของจ๊อด ให้เหตุผลกับทีมข่าวว่า เหตุที่น้องชายไม่สามารถบวชได้ เพราะติดเกณฑ์ทหาร เดิมเคยดูหมายเรียก เป็นวันที่ 2 เมษายน แต่วันนี้กลับไปดูใหม่ จึงเห็นว่าเป็นวันที่ 4 เมษายน ซึ่งก็ตรงกับวันที่มีพิธีฌาปนกิจศพของนายจรูญ โดยที่เดินทางมาวันนี้เพื่อขอโทษทางญาติผู้เสียชีวิต แต่ในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) จะแบ่งญาติออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือแม่และญาติๆ จะเดินทางมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้า และอีกส่วนหนึ่งจะเดินทางไปที่เขตดินแดง เพื่อติดตามการเกณฑ์ทหารของนายจ๊อด จากนั้นจะขอคุยกับสัสดีอำเภอ เพื่อขอจับใบดำใบแดงก่อน หากเสร็จสิ้นทัน ก็จะรีบตามมาที่วัดเพื่อร่วมพิธีฌาปนกิจศพของนายจรูญทันที นายโจ้ บอกด้วยว่า ตอนนี้คนที่บ้านเป็นทุกข์กับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แม่ก็เครียดจนป่วย ส่วนคนอื่นๆ ก็นอนไม่ค่อยหลับ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
นราธร โสดติจัง หรือ "จ๊อด" พูดคุยกับ "ไก่" ลูกชายนายจรูญ
ทั้งนี้ ขณะที่นายประพจน์ มณีพันธ์ หรือ "ไก่" ลูกชายนายจรูญ เดินทางมาถึงงาน นายจ๊อดและพี่ชาย จึงได้เข้าไปคุยด้วย โดยบอกว่า ตนจะรับผิดชอบเรื่องการบวช เมื่อมีการพูดคุยกัน นายจ๊อดตอบเพียงสั้นๆ สลับกับเงียบเฉยโดยยืนยันว่าตนเองติดทหารจริงๆ จึงบวชให้นายจรูญไม่ได้ แต่ถ้าเกณฑ์ทหารเสร็จ จะรีบเข้ามาร่วมงาน แต่ระหว่างนั้นจะให้ญาติมาร่วมงานก่อน
นางฉลวย จริตเอก ภรรยาของนายจรูญ
ขณะที่นางฉลวย จริตเอก ภรรยาของนายจรูญ ระบุว่า ตนเริ่มไม่มั่นใจกับความคิดของนายจ๊อด เพราะเหมือนเป็นการตอบกลับญาติแบบรายวัน บางวันบอกจะขอบวชให้ บางวันบอกจะไม่บวช สุดท้ายมาวันนี้ นายจ๊อดจะไม่บวชอีก อ้างว่าติดเกณฑ์ทหาร วันที่ 4 เมษายน ดังนั้น ตนเองขอไม่คิดอะไรกับการบวชของนายจ๊อดแล้ว ทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวของนายจ๊อดเอง ไม่ใช่ทางครอบครัว ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่าย ที่ฝ่ายครอบครัวจ๊อดได้มอบให้นั้น ก็คงจะจบกันที่เงินจำนวน 80,000 บาท เพราะไม่อยากยื้อกันอีก อย่างไรก็ตาม ป้าฉลวย มองว่า เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอแน่นอน เพราะค่าใช้จ่ายงานศพเกินจากยอด 80,000 บาทแล้ว นางฉลวย ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ตนขอเปลี่ยนใจไม่ไปอยู่ที่จังหวัดลพบุรีแล้ว อยากขอพักและอยู่กับญาติที่จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเวลาเดินทางไปเจอญาติๆ ค่อนข้างลำบาก ส่วนลูกๆ ก็ขึ้นอยู่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ตนไม่บังคับ
นายอมร บวรศิริสกุล หรือ "เอก" เพื่อนนายจรูญ
นอกจากนี้ นายอมร บวรศิริสกุล หรือ "เอก" เพื่อนนายจรูญ บอกถึงความรู้สึก หลังจากที่ทราบข่าวว่านายจ๊อดจะไม่บวชให้กับนายจรูญว่า คนอย่างนายจ๊อดไม่จริงใจกับญาติ ไม่จริงใจต่อตนเอง เปลี่ยนคำพูดไปมา ตนเองก็เสียใจ ที่นายจ๊อดทำกับนายจรูญเอาไว้ แล้วไม่ล้างบาปให้ตนเองและนายจรูญสักครั้ง ซึ่งการบวชก็ไม่ใช่เรื่องที่มีความวุ่นวายซับซ้อน แค่บวชหน้าไฟใช้เวลาไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง ก็ลาสิขาแล้ว ส่วนที่อ้างว่าต้องไปเกณฑ์ทหาร นายเอก บอกว่า ฟังไม่ขึ้น การเกณฑ์ทหารปกติเขาก็สามารถผ่อนผันได้ ทำไมนายจ๊อดไม่ทำ “เหตุผลแค่นี้ฟังไม่ขึ้นหรอก” และจนถึงตอนนี้ แม้ว่านายจ๊อดจะมากราบขอโทษ ตนเองก็จะไม่ยอมให้อภัย เพราะนายจ๊อดทำอะไรไม่คิด กล้าทำร้ายคนแก่ได้ ปกติจะมีเรื่องไม่พอใจ ก็ควรแค่เข้ามาด่ากันก็พอ ไม่ควรถึงขั้นทำร้ายกันแบบนี้ วันนี้ตนก็ไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาพูดแล้วกับพฤติกรรมแบบนี้ นายเอก ยังบอกว่า วันนี้ก็ยังรู้สึกเสียใจไม่หาย เคยกิน เคยนอน เคยทักทายกันทุกวัน และวันที่ไปเยี่ยม ก็พยายามคุยด้วย แต่นายจรูญก็ยังคุยอะไรไม่ได้เลย ดังนั้น สิ่งที่ตนจะทำเพื่อนายจรูญได้ ก็คือการบวชให้เพื่อนได้ไปอย่างสบาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ