จากกรณีที่มีเหตุคนขับแท็กซี่ถูกแทงจนเสียชีวิต หลังจากมีปากเสียงกับชายคนหนึ่ง บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนี ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน:
ภาพนาทีโหด! คนขับแท็กซี่ตะลุมบอนคนร้าย พลาดท่าถูกแทงจมกองเลือด ดับคาที่)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี วันนี้ (2 เม.ย.)
พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับ สน.บางเขน เปิดเผยว่า ได้ขออนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุตามภาพจากกล้องหน้ารถที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีด โดยเชื่อว่าผู้เสียชีวิตได้จอดรถแล้วเกิดมีปากเสียงกัน คาดว่าน่าจะเป็นเหตุจากการใช้รถใช้ถนน จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้ตายถูกฟันที่ศีรษะและสะบักหลัง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งให้ชุดสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ คาดว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ จึงอยากบอกผู้ก่อเหตุให้เข้ามามอบตัว เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง
ขณะที่วัดออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพ นายศราวุธ ตั้งปัญญาศักดิ์ อายุ 44 ปี คนขับขี่รถแท็กซี่ที่เสียชีวิต
นางสายสุณีย์ สารโท อายุ 37 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ซึ่งสามีออกไปขับรถแท็กซี่ช่วง 03.00 น. และเมื่อถึงเวลาประมาณ 04.30น. เพื่อนของสามีก็โทรศัพท์มาบอกตนว่า สามีตนถูกแทงเสียชีวิต พอได้ยินก็ตกใจ เสียใจเหมือนใจจะสลาย ทำอะไรไม่ถูก เพราะสามีคือเสาหลักของครอบครัว และเพิ่งมีลูกวัย 7 เดือน ซึ่งสามีเป็นคนหาเลี้ยงทั้งหมด
ส่วนตัวอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ อยากถามว่า จิตใจทำด้วยอะไร หากมีปัญหาแค่สั่งสอนก็ได้ ไม่ต้องถึงกับฆ่ากันตาย หลังจากนี้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอหลังงานศพแล้วเสร็จก่อน ซึ่งยอมรับว่าสามีตนเป็นคนใจร้อน แต่จะไม่ไปเริ่มทำร้ายใครก่อน หากไม่ถูกกระทำก่อน
ด้าน
น.ส.ส้ม (นามสมมติ) น้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สนิทกับพี่ชายมาก ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตสายไหม ได้พบเจอกันบ่อยครั้ง ล่าสุดเจอเมื่อ 2 วัน ที่ผ่านมา ซึ่งพี่ชายก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นลางบอกเหตุ ทุกอย่างยังปกติ พอทราบเรื่องว่าพี่ชายถูกทำร้าย ก็รีบออกไปยังสถานที่เกิดเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยปั๊มหัวใจพี่ชาย ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นแย่มาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว
พี่ชายเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่อาจจะอารมณ์ร้อนบ้างบางครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ทราบเลยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะไม่รู้จักและไม่คุ้นหน้า เท่าที่ทราบพี่ชายไม่ได้มีศัตรูที่ไหน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งจับคนร้ายให้ได้ เพราะมองว่าผู้ชายทะเลาะกันมันเป็นเรื่องปกติ แต่การนำอาวุธมีดมาก่อเหตุแบบนี้ มันร้ายแรงเกินไป ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจที่จะเอาชีวิต และตนอยากถามคนก่อเหตุว่า มีครอบครัวไหม ถ้าหากมีก็น่าจะรู้ว่าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ คนในครอบครัวตัวเองจะรู้สึกอย่างไร
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณสถานที่เกิดเหตุ อยู่ด้านหน้าป้อมตำรวจจราจร หน้าตลาดยิ่งเจริญ จุดที่ภาพจากกล้องหน้ารถจับภาพไว้ได้ ห่างไปประมาณ 20 เมตร เป็นจุดที่นายศราวุธเสียชีวิต พบคราบเลือดอยู่บนพื้นถนน ทั้งนี้ บริเวณร้านค้า ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิดที่คาดว่าจะเก็บภาพคนร้ายได้
โดย
นายบอล (นามสมมติ) ผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุประมาณ 04.00 น. ตนได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน โดยเห็นผู้เสียชีวิตและคนร้ายไล่กันมาจากบริเวณป้อมตำรวจ โดยมีเสียงเอะอะ ตนคิดว่าคนทะเลาะกันเฉยๆ จนกระทั่งผู้เสียชีวิตวิ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนที่เป็นบริเวณจุดก่อสร้าง ซึ่งตอนนั้นผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีไปอีกมุมหนึ่งของเกาะกลางถนน ปรากฏว่า ผู้เสียชีวิตไม่วิ่งตาม แต่วิ่งย้อนกลับมาและล้มลงที่บริเวณกลางถนน พร้อมกลับมีเลือดไหลจากร่างกายจำนวนมาก
ส่วนตัวตอนนั้นไม่ได้สนใจคู่กรณี และเข้าไปดูคนเจ็บ ซึ่งตนเห็นว่าคนเจ็บอาการสาหัสมาก ตนจึงวิ่งเข้าไปปลดกระดุมเสื้อผู้เสียชีวิตที่นอนอยู่กลางถนน โดยผู้เสียชีวิตไม่โต้ตอบอะไร และหายใจเหมือนคนจะขาดใจแล้ว จากนั้นเมื่อหันไปอีก ก็ไม่พบผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนก็คิดว่าคนเจ็บคงจะเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากมีเลือดไหลออกมาก แต่คนที่เห็นเหตุขณะนั้นก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือแล้ว