กรณีพบศพน.ส.ทรงศิริ ภักดีราช อายุ 35 ปี ซึ่งท้องได้เพียง 2 เดือน เป็นพนักงานบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง จมน้ำเสียชีวิตที่สวนสาธารณะหนองทา บ้านกลิ้งคำ ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี คาดว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ด้วยการเดินลงหนองน้ำ เพราะพบรองเท้าแตะสีดำถูกถอดอยู่ริมน้ำ และตามร่างกาย และรอบบริเวณไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย ส่วนทรัพย์สินมีค่ายังอยู่ในรถเก๋งครบ
ล่าสุดวันที่ 22 พ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ ริมบึงน้ำสาธารณะหนองทา ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี พบว่าบริเวณโดยรอบไม่มีบ้านคน ซึ่งบ้านหลังที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ที่ริมบึงยังพบก้านธูป 16 ก้าน ที่ญาติได้จุดเชิญวิญญาณปักอยู่ข้าง ๆ ต้นไม้
นายนิ่งหน่อง หอมสมบัติ อายุ 50 ปี ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ตายนำรถเก๋งสีขาว ทะเบียน ขค-6511 อุดรธานี จอดอยู่บนถนนริมฝั่ง ตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 21 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านผ่านไปผ่านมาก็เห็นว่า มีรถจอดอยู่แต่ไม่เจอตัวคน กระทั่งทางญาติผู้เสียชีวิตประกาศตายหาทางเฟซบุ๊ก และมีชาวบ้านแจ้งไปก็ทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตมายังที่เกิดเหตุ และสิ่งที่ทำให้มั่นใจว่าผู้ตายจมน้ำ เนื่องจากริมฝั่งมีรองเท้าแตะสีดำของผู้เสียชีวิตถอดทิ้งไว้ และมีรอยเท้าเดินลงไปในน้ำ ทางญาติจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เมื่อกู้ภัย 6 คนมาถึงจึงดำน้ำระดมค้นหาร่าง ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็พบร่างของผู้เสียชีวิตจมอยู่ในน้ำลึก 2 เมตร อยู่ห่างจากฝั่งที่เดินลงประมาณ 3 เมตร
นายนิ่งหน่อง กล่าวต่อว่า ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตตอนไหน เพราะไม่มีใครเห็นตอนเดินลงน้ำ เจอเพียงรถที่จอดอยู่ริมฝั่งเป็นเวลานาน ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นศพแรกของบึงน้ำนี้ ยอมรับว่าตนก็รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตตายท้องกลม และตนก็ต้องขี่รถผ่านที่จุดเกิดเหตุเป็นประจำ
ทีมข่าวเดินทางไปยังงานศพของ น.ส.ทรงศิริ ภักดีราช ซึ่งถูกจัดขึ้นที่วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ญาติ ๆ ได้ช่วยกันห่อกำพรึก เพื่อใช้โปรยทานในวันฌาปนกิจในวันที่ 24 พ.ย.63
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวันชนะ ภักดีราช อายุ 37 ปี สามีผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ เปิดเผยว่า ภรรยาหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.63 โดยได้ลางานหัวหน้าและเดินทางออกจากออฟฟิศ ประมาณเวลา 11.00 น. เนื่องจากมีอาการแพ้ท้อง อาเจียน จึงตั้งใจกลับบ้านมาพัก ซึ่งตนคาดว่าในระหว่างที่ภรรยาเดินทางกลับ คงจะเกิดอาการแพ้ท้อง จึงได้จอดรถนอนพัก ซึ่งตนได้สืบหาข้อมูลภายหลัง มีคนที่ไปตกปลาใกล้ ๆ บอกว่าเห็นภรรยาออกจากรถมาอาเจียน และเดินไปมาเหมือนกับออกมาสูดอากาศ ทำให้ตนคาดว่าภรรยาน่าจะลงไปนั่งอาเจียนริมน้ำ และเกิดเป็นลมจนพลัดตกน้ำเสียชีวิต ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย
นายวันชนะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาภรรยาไม่เคยมีอาการซึมเศร้า หรือส่อว่าจะฆ่าตัวตายเลย เป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี แม้จะเคยมีอาการน้อยใจตนบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขึ้นรุนแรง ขณะเดียวกันหนี้สินค่าผ่อนรถและบัตรเครดิต รวมกว่า 1 ล้านบาทตนก็ได้ช่วยเหลือรีไฟแนนซ์รถ และจ่ายค่าบัตรไปบางส่วนแล้ว ทางภรรยาไม่ได้รับภาระตรงส่วนนี้ ตนจึงเชื่อว่าภรรยาไม่ได้เครียดจากเรื่องนี้แล้วฆ่าตัวตาย แต่เป็นการพลัดตกน้ำ
อย่างไรก็ตาม ภรรยารักลูกชาย อายุ 4 ขวบมาก หลังจากนี้ตนก็จะเป็นคนที่ดูแลลูก ซึ่งตอนนี้ลูกชายยังไม่รู้ความจริงที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ถามอยู่ตลอดว่า "พ่อ ๆ แม่ไปไหน" ตนก็ได้แต่โกหกลูกชายว่า แม่นอนพักผ่อนอยู่
