แม่ “เก” โชเฟอร์ ไม่เชื่อลูกทิ้งรถปล่อยลูกทัวร์ตาย - เศร้า! เหยื่อรอดเขียนถามลูก “เขาตัดขาแม่เหรอ” (คลิป)

26 มี.ค. 61
จากกรณี อุบัติเหตุรถทัวร์ ทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นรถโดยสาร 2 ชั้น พานักท่องเที่ยวกลับจาก จ.จันทบุรี ไป จ.กาฬสินธุ์ เกิดเสียหลักข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนกับรถบรรทุก 18 ล้อ บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กม.ที่ 242 บริเวณโค้งมะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (25 มี.ค.) ทีมข่าวได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสอบถามอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทีมข่าวได้พบกับ นางเอ็มอร สุทธิชุม อายุ 45 ปี ผู้ได้รับเจ็บ และ ด.ช.จักรวาล ทิดถนอม อายุ 11 ปี
นางเอ็มอร ผู้สูญเสียขาข้างซ้าย จากเหตุการณ์รถทัวร์ 18 ศพ
โดย ด.ช.จักรวาล ได้รับการผ่าตัดสมอง และยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา แต่สามารถลืมตา รับรู้ และสื่อสารได้ปกติ ส่วน นางเอ็มอร ต้องสูญเสียขาข้างซ้ายไป 1 ข้าง ส่วนขาข้างขวาหักบริเวณเข่า และมือทั้ง 2 ข้างยังใส่เฝือกอ่อนไว้ ส่วนที่ใบหน้ามีบาดแผล แต่ยังสามารถสื่อสารได้ นางเอ็มอร สื่อสารกับทีมข่าว ผ่านการเขียนข้อความบนกระดาษว่า "ขอบคุณมากค่ะ ที่มาเยี่ยม" ทีมข่าวได้ถามอาการทั่วไป พร้อมทั้งเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ซึ่ง นางเอ็มอร บอกว่า "ขณะที่รถกำลังส่ายไปมา ควบคุมรถไม่ได้ และมีคนบอกว่าเบรคแตก ตนจึงลงไปชั้นล่างของรถทัวร์ เพื่อไปดูหลานที่เดินทางมาด้วยกัน แต่ในระหว่างนั้นรถก็ประสบอุบัติเหตุก่อน ส่วนเมื่อถามถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่ารู้สึกอย่างไร นางเอ็มอร บอกด้วยว่า ไม่ติดใจอะไรเพราะเข้าใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ ขอแค่ตนไม่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็พอ”
กระดาษที่ป้าเอ็มอรเขียนสื่อสารกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี
ขณะเดียวกัน นางเอ็มอร ได้เขียนข้อความว่า "ตนเองเป็นแฟนคลับของทีมข่าวอมรินทร์ทีวี และดูรายการทุบโต๊ะข่าวตลอด และยังดูคุณพุทธ และติดตามข่าวหวย 30 ล้าน”
น.ส.อมรา วิเชียรซอย ลูกสาวของ นางเอ็มอร
ทางด้าน น.ส.อมรา วิเชียรซอย ลูกสาวของนางเอ็มอร เล่าว่า อาการทั่วไปของแม่เริ่มดีขึ้น ก่อนหน้านี้อาการค่อนข้างแย่ เพราะต้องโดนตัดขา มีอาการแพ้เลือด ในวันที่เข้าโรงพยาบาลวันแรก แม่ยังพอมีสติ และพูดได้บ้างว่า เจ็บตรงไหน แต่มาวันนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะยังติดท่อเครื่องช่วยหายใจ สำหรับคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีผู้หญิงสวมใส่เสื้อสีขาว กำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนาน หญิงในคลิปดังกล่าวคือแม่ตนเอง แต่พอแม่ทราบว่า รถเบรคแตกควบคุมรถไม่ได้ แม่จึงตัดสินใจลงไปดูหลานที่ชั้นล่างของรถ จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว น.ส.อมรา ยังบอกกับทีมข่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า วันที่แม่ของตน ต้องสื่อสารผ่านกระดาษ ทุกคนในครอบครัวถึงกับร้องไห้ เพราะแม่พูดว่า "เค้าตัดขาแม่หรอ เค้าจะทำอย่างไร ตัดแค่ไหน แม่เจ็บ" ซึ่งเป็นช่วงที่แพทย์รอให้ครอบครัวตัดสินใจว่า จะอนุญาตให้ตัดขาหรือไม่ เพราะเนื่องจากขาข้างซ้ายมีแผลฉีกขาด และเกรงว่าจะเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง ตนและพ่อจึงตัดสินใจให้คุณหมอตัดขาข้างซ้ายของแม่ออก ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า จะดำเนินการอย่างไรหรือจะหาขาเทียมที่ไหนให้แม่ของตน ก็คงจะรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ ค่อยคิดกันอีกทีในภายหลัง เบื้องต้นเมื่อวานนี้ได้มีประกันของรถทัวร์บริษัทดังกล่าว เข้ามาติดต่อกับครอบครัว โดยบอกว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง ทั้งหมดให้เบิกกับทางบริษัทได้
นาง กำจัด บุญนาค ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้าน นางกำจัด บุญนาค ซึ่งเป็นญาติ นายศักดิ์ศรี ไซยกำบัง อายุ 54 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคน ที่ถูกของมีคมบาดเข้าที่คอจนเป็นแผลยาวใต้คาง และบริเวณศีรษะกระแทกกับของแข็งทำให้มีรอยยุบ ซึ่งนางกำจัด บอกว่า อาการของคนเจ็บตอนนี้ยังคงปวดหัว แพทย์ยังรอดูผลเอ็กซเรย์ ว่าจะมีเลือดออกในสมองหรือไม่ อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่หากเลือดในสมองหยุดแล้ว ก็อาจจะไม่ต้องผ่าตัด ส่วนตัวยังมีความกังวลว่า หากผ่าตัดสมองกลัวว่า นายศักดิ์ศรี ผู้ได้รับบาดเจ็บ อาการจะไม่เหมือนเดิม ขณะนี้ยังพอสื่อสารได้ สามารถพยักหน้า กระพริบตาได้ตามปกติ แต่พูดไม่ได้ เนื่องจากยังติดเครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ได้มีบริษัทประกันภัยของรถทัวร์ เข้ามาเยี่ยม และสอบถามอาการเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ประสานไปยังฝั่งญาติของ นายกฤษณะ จุฑาชื่น หรือ "เก" อายุ 44 ปี คนขับรถ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยนางรัชนี จุฑาชื่น ผู้เป็นแม่ บอกกับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า หลังจากเยี่ยมลูก ก็ไม่ได้กังวลอะไร หลังจากนี้ให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันเกิดเหตุลูกตน ขับรถแบบไหนก็ให้ตอบตำรวจไปแบบนั้น ส่วนการประกันตัวทางครอบครัวยังหาหลักทรัพย์ไม่ได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องประกันตัว เพื่อนำตัวลูกออกมารักษาอาการป่วย ก็จะหายืมจากเพื่อนบ้านไปประกันตัว
พล.ต.ต.วัชรรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค3
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา บอกกับทีมข่าวว่า ตำรวจกำลังดำเนินการเรื่องสำนวนคดีสั่งฟ้อง ซึ่งจะต้องมีการสอบพยานเพื่อประกอบสำนวนเพิ่มเติม ตอนนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พยายามหลบหนี, ส่วนข้อหายาเสพติดนั้นตอนนี้รอผลตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันก่อน จึงจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งการทำสำนวนคดีนี้ตำรวจจะมองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ จะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่า วันเกิดเหตุ เขาได้ขับรถสลับกับคู่กะอีก 1 คน นั้น ตอนนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ แต่กำลังสอบถามคำยืนยันจากเจ้าของอู่รถ เพื่อเชิญเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานเพิ่มเติม แต่คู่กะจะไม่มีความผิดใดๆ เพราะตาม พ.ร.บ.ขนส่งฯ ได้กำหนดไว้ชัดเจน ผู้ช่วยคนขับถือเป็นการพักระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จะไม่มีความผิด แต่ตำรวจเพียงจะเชิญมาเป็นพยาน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ