“ธนาธร” เมินม็อบไล่ ส.ส. เดินหน้าหาเสียง ป้าเสื้อเหลืองกร้าวไปที่ไหน จะตามเปิดเพลงไล่ทุกที่ (คลิป)

15 พ.ย. 63
กรณีคณะก้าวไกลจัดกิจกรรมสัญจร ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่ามีมวลชนที่เห็นต่างในทางการเมือง มาดักรอ เมื่อได้พบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าคณะก้าวไกล ได้โห่ร้องตะโกนใส่ พร้อมเปิดเพลงหนักแผ่นดิน และร้องตามอย่างฮึกเหิม พร้อมกับขับไล่กลุ่มของคณะก้าวไกล ไม่ให้อยู่ในประเทศไทย 
 
403228
 
ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.กัลยาณี จูปรางค์ อายุ 63 ปี เปิดเผยว่า ตนได้รับคลิปที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ว่า มีคนของคณะก้าวไกล แสดงตัวไม่เหมาะสม โดยมีการชูสามนิ้วในรัฐสภา และยังมีตัวแทนบางคน เดินทางไปร่วมกิจกรรมการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม ตนจึงเกิดความไม่พอใจ เดินทางไปติดตามการลงพื้นที่ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าคณะก้าวไกล เพราะไม่พอใจต่อพฤติกรรมของตัวแทนคณะ รวมถึงตัว สส.ที่มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในอาคารรัฐสภา
 
228175
 
นางกัลยาณี บอกว่า ในตอนที่ลงพื้นที่ไปเจอกับนายพิธา ตนได้ถือไมค์ ประกาศชัดเจนว่า “ถ้าหากจะเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือต้องการขับไล่บิ๊กตู่ ก็ทำไป แต่ไม่ต้องการให้มาล่มล้างสถาบัน หรือมาโกหกประชาชน หรือโกหกตัวเองว่าไม่เคยชูสามนิ้ว ทั้งที่มีคลิปเผยแพร่อยู่เต็มโลกออนไลน์” และแม้ว่าหลังจากที่นายพิธา จะชี้แจงกับตนว่า เป็นคนละเรื่องกัน เกิดจากความเข้าใจผิด ส่วนตัวขอยืนยันอีกครั้งว่า การชูสามนิ้วของ สส.ก้าวไกล อย่างไรก็ผิด เพราะแสดงออกถึงการล้มล้างสถาบัน ดังนั้นตนในฐานะคนที่ออกมาเคลื่อนไหว และเป็นกลุ่มที่ปกป้องสถาบัน จะไม่ยอมให้ใครออกมาทำกิจกรรมดังกล่าว และจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องสถาบัน
 
724228
 
ส่วนกรณีเพลงที่นำไปเปิดเพื่อขับไล่ กลุ่ม สส.ก้าวไกล ชื่อเพลงว่า “หนักแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเพลงที่เหมาะสมที่สุดที่จะเปิดให้ฟัง “เพลงนี้เหมาะสมที่สุด สำหรับคณะก้าวไกล ก้าวไถล” ซึ่ง ณ วินาทีนี้ ไม่สามารถสรรหาเพลงไหนที่จะเหมาะสมได้ เท่ากับเพลงนี้ และที่สำคัญหากกลุ่มตัวแทนคณะเตรียมที่จะลงพื้นที่จังหวัดไหนก็ตาม ตนก็จะเดินทางไปเพื่อเปิดเพลงหนักแผ่นดินให้ฟังทุกจังหวัด และยังเชื่อว่ากลุ่มคนที่รักและปกป้องสถาบัน ทุกคนก็จะออกมาทำเหมือนที่ตนทำเช่นกัน

โดยกิจกรรมการต่อต้าน หรือเคลื่อนไหวเพื่อรักสถาบันใน จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นจุดประกาย จุดเริ่มต้น และยังจะเป็นโมเดลให้สำหรับการออกมาเคลื่อนไหว ที่ปราศจากความรุนแรง ปราศจากการใส่เสื้อสีเหลือง เพราะเสื้อสีเหลืองเป็นเสื้อสีที่เคารพบูชา และเทิดทูนเอาไว้เหนือหัว จะไม่ยอมให้ใครนำสีเสื้อไปใส่ให้เปื้อนหรือไปยุ่งเกี่ยวกับพวกที่ไม่รักสถาบัน เพราะกิจกรรมวันนี้ คนที่ออกมาเคลื่อนไหวก็ไม่มีใครใส่เสื้อสีเหลือง ทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าตามอาชีพ ชุดชาวไร่ชาวนา ชุดพ่อค้าแม่ค้า ออกมาร่วมปกป้องในฐานะคนรักชาติสถาบัน

667994

อย่างไรก็ตาม ตนยังคงยืนยันเสมอว่า จะเป็นกลุ่มคนที่ร่วมปกป้องสถาบัน ไม่ให้มีใครมาจาวจ่วง และถ้าหากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง จะเอาเด็กนักเรียนนักศึกษามาเป็นโล่ หรือออกมาปะทะกับกลุ่มรักสถาบัน ตนก็พร้อม “ขอยอมตายเพื่อปกป้องสถาบัน ยอมตายถวายชีวิต ยอมตายในรุ่นนี้ แล้วพวกเข้าที่จาบจ้วงสถานบัน ก็ต้องติดคุกในรุ่นนี้เหมือนกัน”

น.ส.กัลยาณี ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเท่านี้ ยังไม่เคยเห็นนักศึกษานักเรียน จะออกมาชูสามนิ้ว จะออกมาล้มล้างสถาบัน เพราะตัวเองไม่เคยเจอมาก่อน แต่ตนก็ยังคงยืนยันที่จะร่วมปกป้อง และไม่ให้มีใครมายุ่งเกี่ยวกับระบบสถาบัน เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นเหมือนหลายประเทศ ที่เปลี่ยนจากระบบสถาบัน กลายมาเป็นระบบประธานาธิบดี แล้วมีการสืบทอดอำนาจ

761417

ทีมข่าวย้อนเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.63 นายธนาธร เจอป่วนหาเสียง ที่ตลาดบ้างฉาง จ.ระยอง และวันที่ 10 พ.ย.63 ที่ตลาดปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ  

351400

ในวันที่ 11 พ.ย.63 นายธนาธร โดนไล่ที่หน้าโรงแรม ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และวันที่ 12 พ.ย.63 ที่หน้าโรงแรม ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา 

697694

ในเวลา 13.00 น. ที่ห้องเอนกประสงค์ 1 หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร องค์กร Protection International และโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่ (PPM) จัดเสวนาในหัวข้อ “แด่นักสู้ผู้จากไป ประชาธิปไตยแบบไหนที่จะไม่ลอยนวลพ้นผิด”

256430

โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ สมาชิกเยาวชนปลดแอก และนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ร่วมวงเสวนาพูดถึงการบังคับสูญหายของนักสิทธิมนุษยชนและผู้ที่ต่อสู้ในสิทธิขั้นพื้นฐานของชุมนุมตัวเอง รวมถึงข้อเสนอในการแก้ปัญหา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน รวมถึงการล้างบางระบบยุติธรรมในประเทศไทย

269841

นายธนาธร กล่าวว่า การลงพื้นที่แล้วมีการขัดขวางจากบุคคลบางกลุ่มนั้น ทุกครั้งที่ไปพื้นที่ปกติไม่ได้แจ้งล่วงหน้ามักไม่มีปัญหา แต่ทุกครั้งที่มีการแจ้งล่วงหน้าก็จะมีการจัดตั้งกลุ่มคนที่ขัดขวางมา ทำให้ประสิทธิภาพในการหาเสียงลดลง แต่ตนก็ไม่ได้ท้อถอย เดินหน้าทำงานตามปกติ

โดยจากการลงพื้นที่ก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก กลุ่มขัดขวางสวมเสื้อสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ปกป้องสถาบัน ตนมองว่า การดึงสถาบันมาโจมตีคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นคุณกับสถาบันเลย การบอกไม่ให้คนอื่นเลือกผู้สมัครจากทีมของตนเป็นสิทธิ์ แต่อย่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของคนอื่น

โดยยิ่งใกล้เลือกตั้ง ตนยืนยันว่ากระแสตอบรับยิ่งดี หลายที่นำของกินของฝากมาให้ แม้บางจุดมีกระแสต่อต้านก็ไม่กลัว จะลงทุกจุด เพราะตนปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ส่วนกรณี กกต.เตรียมตรวจสอบคณะก้าวหน้าที่ทำตัวเหมือนนักการเมืองนั้น จะทำอะไรก็เชิญ เพราะตนไม่มีอำนาจใด ๆ หากอยากตัดสินก็เป็นหน้าที่ของอีกฝ่าย ตอนนี้ตนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส