กรณีแฟนเพจสมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก แชร์ภาพเหตุการณ์ ระบุว่า "#อุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้ง ชนต้นไม้ริมถนน พื้นที่บ้านหนองตะเคียน ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย ชื่อว่านายโบ๊ท บาดเจ็บที่ขาซ้าย เป็นแผลฉีกขาด ข้อเท้าแตก ต้องนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล เพราะต้องผ่าตัด"
ทั้งนี้ยังมีข้อความ ระบุอีกว่า "ส่วน น.ส.ส้ม อายุ 18 ปี แฟนสาว ที่ซ้อนมาด้วยกัน เสียชีวิตคาที่ สภาพศพนอนหงาย เลือดออกปากและจมูก ขาทั้ง 2 ข้างฉีกออกจากกัน จากการกระแทกต้นไม้อย่างแรง นอนอยู่บนพื้นถนนเสียชีวิต พร้อมลูกชายในครรภ์อายุ 6 เดือน ซึ่งญาติตั้งศพไว้ที่บ้าน พื้นที่ ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก"
ล่าสุดวันที่ 6 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นทางโค้งริมถนน เป็นไร่อ้อยไม่มีบ้านคน ที่ป่าหญ้าริมทางยังมีชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ตกอยู่ ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของน.ส.ส้ม ที่ตั้งสวดศพไว้ที่บ้าน ครอบครัว และญาติ ๆ ยังอยู่ในความเสียใจ ที่ต้องสูญเสียผู้ตายไปพร้อมกับลูกในท้อง
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ นางวันเพ็ญ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี แม่ของ น.ส.ส้ม บอกกับทีมข่าวว่า พอรู้ว่าลูกสาวตั้งท้อง กำลัง มีหลาน ทุกคนในบ้านก็ดูแล เอาใจใส่เป็นอย่างดี จนลูกสาวอุ้มท้องได้ 6 เดือนเป็นหลานชาย ตั้งชื่อไว้ล่วงหน้าว่า "น้องแน็ก"
ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ ลูกมาขอไปลอยกระทง ที่วัดใกล้บ้าน ห่างไป 1 กม. ตนก็ห่วงไม่อยากให้ไป เห็นว่าท้องอยู่ อีกทั้งเช้าวันนั้น ตนมีลางสังหรณ์ห่วงลูกแปลก ๆ และตนก็มีอาการเหนื่อยหอบ ทำงานไม่ไหว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับลูกสาว กระทั่งเที่ยงคืนมีคนโทรบอกว่า ลูกสาวประสบอุบัติเหตุรถล้ม ตนก็ไม่คิดว่าลูกจะเสียชีวิต เพราะคนที่โทรมาไม่ได้บอก และอีกแค่ 700 เมตรก็จะถึงบ้าน คิดว่ารถล้มธรรมดา
ในตอนนั้นรู้สึกเป็นห่วง และกังวลมาก ๆ กลัวจะกระทบกระเทือนหลานในท้อง แต่พอเดินทางไปถึง เห็นสภาพลูกสาว นอนหงายเสียชีวิตบนถนน ตนหมดแรงช็อกและเสียใจมากที่ลูกเสียชีวิต แต่เข้าใจดีเรื่องนี้เกิดจากอุบัติเหตุ ไม่โทษใคร
ภายหลังจากเกิดเหตุ ได้ให้แแพทย์ผ่าศพหลานชายอายุครรภ์ 6 เดือนออกจากครรภ์ และตั้งใจจะนำมาฝังตามความเชื่อ และรอครบ 1 ปีค่อยเผาให้เด็กโตมีฟัน มีผมก่อน เนื่องจากเสียชีวิตไม่เหมือนคนทั่วไป ลักษณะตายโหง จะได้ไม่เฮี้ยน ตั้งแต่ลูกสาวและหลานเสียชีวิตไป เงียบมาก ไม่มีมาเข้าฝัน แต่ตนอยากบอกลูกว่า ไม่ต้องห่วงกังวลอะไร อยากให้ลูกไปดี ไม่ต้องห่วงทางนี้ จะเผาในวันที่ 7 พ.ย.63
นางวัญเพ็ญ บอกอีกว่า ก่อนจะเกิดเรื่องตนได้คุยกับลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า อย่าไปเที่ยวงานลอยกระทงเลย เพราะเห็นว่าท้องไม่อยากให้ไป กระทั่งมาเกิดเหตุ ตนเสียใจมาก ส่วนลูกเขยที่ผ่านมาก็รักและดูแลลูกสาวตนดี แต่พอเกิดเรื่องยังไม่เจอกัน และไม่มีโอกาสมาร่วมงานศพ เพราะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กของนายโบ๊ท ยังโพสต์ข้อความสุดเศร้า พร้อมรูปถ่ายภรรยาและลูกที่เสียชีวิต ระบุข้อความว่า "หล่อจังเลยลูกพ่อ พ่อหายดีแล้ว พ่อจะบวชให้หนูกับแม่หนูนะ ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ พาลูกมาเข้าฝันบ้างนะ เค้าคิดถึง แม่โทรมาบอก หนูชื่อ น้องแน็ก อีก 1 ปีพ่อจะไปเผาหนูนะ ลูกพ่อหล่อที่สุดแล้ว" ซึ่งมีเพื่อน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันพบว่าเฟซบุ๊กของ น.ส.ส้ม ได้โพสต์ข้อความไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในคืนวันงานลอยกระทง ระบุว่า "ปีที่ 2 แล้วที่ได้ลอยด้วยกัน แต่ไม่มีรูปกระทงเลย เพราะลอยไปแล้ว"
