คู่อริเสี่ยโป้มีหลักฐานเด็ดเอาผิด งัดโชว์ศาลจับพิรุธคำพูด เชื่อคดีนี้มีคนติดคุก (คลิป)

จากกรณีเหตุยิงกันที่ร้านนวดแผนไทยย่านราชพฤกษ์ เป็นเหตุทำให้นายณัฐพงศ์ และนายจำเรียง ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งฝ่ายญาติผู้บาดเจ็บออกมายืนยันว่าเสี่ยโป้และเสี่ยเคนเป็นคนยิง แต่เสี่ยโป้ก็สวนกลับว่า ไม่ได้เป็นคนยิง โต้กันพัลวัน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

โต้กันยับ! เสี่ยโป้โยนแก๊งอริยิงกันเอง จู่ ๆ พยานโผล่แฉ มือปืนตัวจริงคือผู้หญิง

ล่าสุดวันที่ 31 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาล เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนในฐานะผู้ใหญ่ได้มีการเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเคลียร์และเจรจากันแล้วก่อนหน้านี้ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอมฟังกัน กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งความตั้งใจในตอนแรก ตนได้ไปพูดคุยกับฝั่งทางผู้บาดเจ็บ และยินดีจะรับผิดชอบให้

ส่วนกรณีเรื่องความถูกผิดนั้น ตนจะต้องมีการฟังรายละเอียดที่แน่ชัดอีกทีว่า เรื่องทั้งหมดมีความเป็นมาอย่างไร แต่หลังจากมีการพูดคุย ทั้งสองฝ่ายกลับพูดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก อีกฝ่ายเป็นฝ่ายผิด อีกทั้งทางฝั่งผู้บาดเจ็บมีการไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของตำรวจ จนมีการออกหมายจับเสี่ยโป้ และเสี่ยเคน เสมือนเป็นการชี้ว่าสองคนนี้ เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงทางฝั่งผู้บาดเจ็บ เป็นการกล่าวหาไปโดยปริยาย

ส่วนตัวคดีนี้คิดว่าเป็นความผิดของทั้งสองฝั่ง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเหตุที่เกิดขึ้นตัวต่อตัว แต่เป็นเหตุที่เกิดจากความชุลมุน ซึ่งไม่เหมือนคดีที่มีการยิง ลอบทำร้ายกันทั่วไป แต่เป็นเหตุที่คู่กรณีทั้งสองมารวมตัวกันจำนวนมาก ฉะนั้นความผิดจะต้องผิดทั้งสองฝ่าย แต่ทางด้านเจ้าที่ตำรวจที่มีการดูแลรับผิดชอบคดี กลับรีบไปฟังคำของฝั่งผู้บาดเจ็บและทำการออกหมายจับฝั่งผู้ที่ถูกกล่าวหาทันที ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเรียกสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาก่อน และไม่ได้มีการหลบนี้แต่อย่างใด ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตามปกติ ทำให้ตนรู้สึกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดี มีพิรุธหลายอย่าง

อีกทั้งมีการปฏิบัติผิดระเบียบตามขั้นตอนในลักษณะเร่งรีบรวบรัดที่จะออกหมายจับ จึงคิดว่าเป็นเพราะทางฝั่งผู้บาดเจ็บ มีการเรียกผลประโยชน์จำนวน 10 ล้านบาทจากทางผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ ตนจึงคิดว่าไม่ถูกต้อง เลยพาผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คนไปเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างที่เห็นก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าคดีนี้คงไม่จบง่าย ๆ เนื่องจากรูปคดีไปถึงชั้นศาลแล้ว และทางฝั่งผู้บาดเจ็บมีการชี้ชัดแล้วว่าทางฝั่งผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลตัดสิน แต่ถ้าถามตนมั่นใจว่า ฝั่งผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เป็นผู้ที่กระทำผิด

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้โทรศัพท์ไปหาน.ส.ณัฐฎา หรือ จี้ พี่สาวของนายณัฐพงศ์ ซึ่งเจ้าตัวไม่ประสงค์จะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออีก เนื่องจากกลัวอิทธิพลของฝ่ายเสี่ยโป้ และต้องการเดินหน้าต่อสู้คดี

โดยเจ้าตัวได้บอกเพียงว่า ตนรู้สึกงงว่าทำไมอีกฝ่ายถึงบอกว่านายเอ็มโก้และนายตั้งเป็นคนยิง อีกทั้งยังพาดพิงมาถึงตนว่า ตนเป็นคนส่งปืนให้นายตั้ง เนื่องจากนายเอ็มโก้ไม่เคยมีปัญหากับอีกฝ่ายมาก่อน ทั้งนี้ตนขอยืนยันคำเดิมตามที่ตนเคยให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ ทีวี ไปก่อนหน้านี้ว่าฝ่ายตนเป็นฝ่ายเสียหาย อีกฝ่ายเป็นผู้ก่อเหตุ

โดยผู้ที่อมรินทร์ ทีวี ได้ไปสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เช่น นายมอส ก็เป็นเพื่อนสนิทของเสี่ยบุ๊ค อีกฝ่ายจะพูดพาดพิงฝ่ายตนอย่างไรก็ได้ ขณะนี้มีหนึ่งในผู้บาดเจ็บอาการทรงตัวค่อนไปทางดีขึ้น และมีหนึ่งคนที่อาการทรุดลง แต่ตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร ตนอยากให้คนเจ็บ ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญเป็นคนให้การในชั้นศาลเอง ตนไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับพ่อของนายตั้ง ซึ่งนายตั้งเป็นคนที่มีปัญหากับเสี่ยบุ๊คจนเรื่องบานปลาย กลายเป็นเหตุยิงกันเกิดขึ้น

พ่อของนายตั้ง บอกว่า นายตั้งกับเสี่ยโป้รู้จักกันมาก่อน นายตั้งไม่เคยมีปืนและไม่เคยพกปืน อีกทั้งยังเป็นไปไม่ได้ที่นายตั้งจะพาพวกไปที่ร้านนวดแผนไทยกว่า 100 คน เนื่องจากลูกตนไม่ได้มีเพื่อนมากขนาดนั้น ที่ลานร้านนวดแผนไทยมีคนเยอะ เพราะว่าเสี่ยโป้ออกตัวว่าจะเป็นกรรมให้เสี่ยบุ๊คกับนายตั้ง คนจึงแห่ไปดู

ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าลูกชายตนไม่ได้เป็นคนยิงอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง ตนเชื่อในความยุติธรรม ถ้าลูกชายตนทำจริง ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงออกหมายจับเสี่ยโป้ ในวันเกิดเหตุ มีคนบอกกับตนว่า ลูกชายตนมีเรื่อง ตนจึงได้ตามไปที่เกิดเหตุในเวลา 21.00 น. แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่แล้ว จากนั้นนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ก็ได้เรียกตนกับลูกชายไปพูดคุยกันในร้านอาหารย่านปิ่นเกล้า จนถึงเวลาประมาณ 05.00 น. (คืนวันที่ 27-28 ตุลาคม 63) ใจความในการพูดคุยคือขอให้เรื่องจบ โดยฝ่ายนายสันธนะ จะเป็นผู้ดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ไม่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายและค่าปิดปาก ซึ่งตนได้ปฏิเสธ เนื่องจากลูกชายตนไม่ได้บาดเจ็บ อีกทั้งคนเจ็บก็บาดเจ็บสาหัส ตนจึงไม่สามารถตกลงอะไรด้วยได้ จากนั้นในวันรุ่งขึ้น (28 ตุลาคม 63) ก็ได้เดินทางไปแจ้งความ

พ่อของนายตั้ง ได้เปิดคลิปที่นายตั้งแอบถ่ายไว้ขณะที่กำลังคุยกับเสี่ยบุ๊ค โดยเสี่ยบุ๊คได้นัดนายตั้งให้ออกไปต่อยกัน ใจความของคลิปได้ยินเสียงเสี่ยบุ๊คพูดว่า “มึงจะเอายังไงกับกู เดี๋ยวกูเข้าที่บ้าน เดี๋ยวเจอกัน” ซึ่งในคลิปก็ได้ปรากฏเสียงนายตั้งพูดท้าทายเสี่ยบุ๊คเช่นกัน

อีกหนึ่งคลิปเเป็นสียงที่พ่อของนายตั้งเปิดให้ทีมข่าวดู เป็นคลิปที่ปรากฏเป็นเสียงของเสี่ยโป้ “เจอตรงไหน จะเจอที่สนามบอลย่านจรัญฯ 35 ไหม” ขณะนี้ตนเป็นห่วงเรื่องคดีความและความปลอดภัย เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ตนและนายตั้ง รวมถึงพยานและฝ่ายคนเจ็บทุกคน จึงไม่อยากจะให้สัมภาษณ์หรือพูดอะไรมาก ฝ่ายตนจะขอเปิดหลักฐานในชั้นศาลทีเดียว