จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ณัฐฎา คล่องบัญชี" โพสต์ข้อความอ้างว่า น้องชายถูกยิงอาการบาดเจ็บสาหัส โดยคนที่ยิงเป็นคนดังย่านเพชรเกษมที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ ทราบชื่อคนเจ็บ นายณัฐพงศ์ (สงวนนามสกุล) และพลทหารจำเรียง (สงวนนามสกุล) ตามที่เป็นกระแสวิจารณ์บนโลกออนไลน์นั้น
นายณัฐพงศ์ถูกยิงที่ก้นขวา กระสุนทะลวงตัดลำไส้ใหญ่ ฝังที่ลำไส้เล็ก กระสุนฝังในต้องผ่าตัดออก ส่วนพลทหารจำเรียง กระสุนเข้าที่กรามซ้าย เลาะฟันล่างหายเกือบหมด กระสุนทะลุท้ายทอย ทั้งคู่ยังใส่เรื่องช่วยหายใจ อาการ 50 : 50
ล่าสุด วันที่ 28 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่ขอให้รายละเอียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยขอไปประชุมกับเจ้าหน้าที่ก่อน
ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นฝั่งคู่กรณีของเสี่ยโป้ ยืนยันได้ว่า เสี่ยโป้อยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดได้ว่า เสี่ยโป้เป็นคนก่อเหตุยิง ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานรายอื่น โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และพี่สาวของผู้บาดเจ็บ (คนที่โพสต์เฟซบุ๊ก) อย่างไรก็ตามจะเตรียมเรียกเสี่ยโป้มาสอบปากคำ
ในเวลา 16.00 น. ที่สน.ภาษีเจริญ นายตั้ง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนมีเรื่องบาดหมางกับนายบุ๊ค น้องชายเสี่ยโป้กันมาก่อน โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเครื่องและเรื่องอื่น ๆ จนเสี่ยโป้นัดให้มาเคลียร์กันที่หน้าร้านนวดดังกล่าว โดยให้มาชกต่อยกันตัวต่อตัว เพื่อให้จบปัญหาจะไม่มีอะไรค้างกันอีก ซึ่งพวกตนมีประมาณ 20 คน ก็ไปพบกับเสี่ยโป้โดยไม่มีอาวุธ แต่พวกเสี่ยโป้มีกันเป็นร้อยคน พอไปถึงพบว่าขณะนั้นร้านนวดปิดทำการแล้ว แต่เห็นเสี่ยโป้ยืนอยู่หลังกระจกในร้านที่ชั้น 1
นายตั้ง กล่าวต่อว่า เสี่ยโป้ได้กวักมือเรียกให้ตนเข้าไปหา ก่อนจะมีคนสวมเสื้อสีแดงตะโกนว่า “ใครถ่ายคลิปกูยิง” แล้วถูกเสี่ยโป้สาดกระสุนใส่โดยไม่พูดจาอะไร ทำให้พวกตนต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด ตนยืนยัน เห็นเสี่ยโป้เป็นคนยิง ส่วนตัวได้รับบาดเจ็บขาซ้ายเล็กน้อย ทั้งนี้เชื่อว่ามีกล้องวงจรปิดภายในร้านนวดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้แน่นอน ส่วนคนฝั่งของเสี่ยโป้บอกไม่ได้ยิงนั้นโกหก มีคนเห็นมากมาย แต่อยู่ที่จะกล้าออกมาพูดหรือไม่
ด้านนายเค (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุฝั่งเสี่ยโป้เสนอเงิน 1 แสนบาทมาต่อยกันโดยให้นายตั้งต่อยกับนายบุ๊ค ซึ่งพวกตนไม่สนใจเงิน แต่อยากไปเคลียร์ปัญหาให้จบ ขณะเดียวกันนายตั้งก็จะไม่ไป เพราะเป็นถิ่นของเสี่ยโป้ แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่คงรักษาคำพูด และเสี่ยโป้บอกว่าจะเป็นกรรมการให้ ก่อนพวกเสี่ยโป้จะแหวกทางเปิดให้เสี่ยโป้ยิงปืนกราดใส่กลุ่มพวกตนเป็นคนแรกอย่างเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นกระสุนปืน ซึ่งคาดว่าน่าจะเอาชีวิต ไม่ใช่แค่ยิงขู่
ส่วนเรื่องทางคดีก็กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะขณะกลับไปเอารถจักรยานยนต์ เพื่อนตนถูกตำรวจควบคุมตัว แต่กลุ่มเสี่ยโป้ถูกปล่อยกลับบ้าน ในขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายเค ทางนายเจผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคน ฝั่งของผู้รับบาดเจ็บได้ขึ้นไปให้พยานปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาพบกับ น.ส.ณัฐฎา คล่องบัญชี พี่สาวของนายณัฐพงศ์ ระบุว่า น้องชายถูกยิงที่ก้นขวา กระสุนทะลวงตัดลำไส้ใหญ่ ฝังที่ลำไส้เล็ก กระสุนฝังในต้องผ่าตัดออก ส่วนพลทหารจำเรียง เป็นน้องรู้จักกัน กระสุนเข้าที่กรามซ้าย เลาะฟันล่างหายเกือบหมด กระสุนทะลุท้ายทอย ทั้งคู่ยังใส่เรื่องช่วยหายใจ อาการ 50 : 50
น.ส.ณัฐฎา เปิดเผยว่า น้องตนทั้ง 2 คนยังพอรู้สึกตัว แต่พูดไม่ได้ ยังมีอากาตอบสนอง เบื้องต้นเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากน้องชายเสี่ยโป้ ไปประกาศทั่วว่าอยากมีเรื่องกับพวกตน ทำนองว่าอย่าให้เจอ ซึ่งน้องเสี่ยโป้ฝากบอกกับน้องชายอีกคนของตน ทำนองว่าอย่าให้เจอ เชิงเหม็นขี้หน้า ทำให้แฟนของตนโทรไปสอบถามวานนี้ช่วงหัวค่ำ หากไม่พอใจอะไร ก็ให้ออกมาต่อยกันตามประสาผู้ชาย ขอให้ต่อยตัวต่อตัวแบบนักเลง จึงมีการนัดกันให้ไปเจอที่ร้านนวดที่เกิดเหตุ ซึ่งเสี่ยโป้เป็นคนพูดแทรกมาในสายเองว่า ให้มาเจอกันที่ร้านนวดดังกล่าว และยังพูดอีกว่า “ร้านนี้เป็นของเสี่ยโป้ สน.เป็นของเสี่ยโป้ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีการยิงกัน” ทำให้พวกตนสบายใจ ก็ออกไปตามนัด
ฝ่ายตนคิดว่าฝ่ายคู่กรณีเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เมื่อตนไปถึงช่วงเวลา 21.00 น. ตอนนั้นเพิ่งได้คุยกันไม่ถึง 5 นาที ตั้งท่าจะต่อยกัน แต่ยังไม่ทันได้ต่อย ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งตนมีพยานเห็นว่าเสี่ยโป้เป็นคนเปิดฉากยิง โดยเสี่ยโป้ยืนอยู่บนช่องประตูด้านหลังของกลุ่ม
โดยจุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิด แต่หลังเกิดเรื่องตนทราบว่าวงจรปิดถูกลบออกไปแล้ว นอกจากนี้ก่อนจะมีการยิง ฝ่ายของเสี่ยโป้พูดดักคอไว้ก่อนว่า หากมีใครหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ กูจะยิง ทำให้ไม่มีใครกล้าอัดคลิป จึงถ่ายภาพมาได้แค่นี้ ตนไม่มีอาวุธ ฝ่ายตนรวม 20 คน ก็ไม่มีใครมีอาวุธ เพราะหากพวกตนมีอาวุธ ฝ่ายคู่กรณีก็ต้องมีคนเจ็บ แต่เรื่องนี้มีแต่ฝ่ายตนที่เจ็บ ตน และคนอื่น ๆ ได้แต่ "วิ่งจนตีนแตก"
ทั้งนี้ มีพยานบางคนเห็นว่า ฝ่ายของคู่กรณีหยิบปืนออกมาจากเอว คนที่ยิงนายจำเรียง คือ ชายเสื้อแดง ระยะห่างไม่ถึง 20 เมตร ส่วนนายณัฐพงศ์ ถูกเสี่ยโป้ยิง การยิงของอีกฝ่ายไม่ได้มีปืนแค่กระบอกเดียว เพราะเสียงปืนดังนับไม่ถ้วน ตนเชื่อว่าอาจจะมีมากถึง 40 นัดได้ โดยเป็นการยิงสาดกระสุนเข้ามาหลังจากที่เสี่ยโป้เปิดฉากยิง เพราะมีคนหลายคนเห็นเสี่ยโป้ยิงปืน
น.ส.ณัฐฎา ระบุทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตนมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ และเชื่อว่าวงจรปิดที่ร้านก็ต้องจับภาพได้ ตนขอให้ตำรวจ สน.ภาษีเจริญ ให้ความเป็นธรรม ตนยังมีหลักฐานที่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าตำรวจเข้าไปที่ร้าน ไปลบกล้องวงจรปิดออก ตนมีหลังฐานเด็ดที่เตรียมงัดออกมา หากตนไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกอย่างตนยืนยันว่า พวกตนไม่ได้ยิงกันเอง หากตนยิงกันเองคงไม่วิ่งหนีตายตีนแตกแบบนี้ อย่างตอนนี้มีข่าวว่า "เอ็มโก้" ซึ่งเป็นพี่ชายตนยิง หลังเกิดเหตุพี่ชายตนยังวิ่งหลบกระสุนอยู่ด้วยกัน ตนมีพยาน
ทั้งนี้ ตนขอความเป็นธรรม ตนไม่ขอเคลียร์ ตนไม่รับเงิน เพราะตอนนี้เสี่ยโป้โทรมาหาแฟนของคนเจ็บ ระบุว่า จะเคลียร์เงินให้ 4 - 5 แสนบาท แต่ขออย่าแจ้งความ ตนได้โทรไปหาเสี่ยโป้หลังจากเกิดเหตุ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ต้องยิงกัน แต่เสี่ยโป้ก็บ่ายเบี่ยง และตัดสายติดต่อไม่ได้ ตนยังได้ข้อมูลจากคนรู้จักว่าเห็นเสี่ยงโป้หนีไปทางชายแดนของ จ.สระแก้ว ตนขอท้าหากเสี่ยโป้ไม่ได้ก่อเหตุ ทำไมไม่มาพบตำรวจ ทำอะไรแล้วออกมารับผิดชอบ เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง คนก่อเหตุแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นางคำเปียว ราศี ยายของพลทหาร จำเรียง ตะโบ๊ะ หนึ่งในคนเจ็บ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนเดินทางไปแจ้งความ หลังจากทราบข่าวช่วงเวลา 02.00 น. โดยตำรวจก็รับเรื่องแจ้งความไว้ สน.ภาษีเจริญ ส่วนตัวไม่ได้เจอหลายช่วงก่อนเกิดเหตุเลย ตนมารู้เรื่องตอนหลังเกิดเรื่องแล้ว หลานก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนตามปกติ อาการตอนนี้หลานยังมีอาการตอบสนอง แต่พูดไม่ได้ เพราะใส่ท่อช่วยหายใจ หลังแจ้งความตำรวจก็ไม่ได้ให้ใบแจ้งความอะไรมา ส่วนตัวก็ห่วง ตนขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต้องการให้คนแบบนี้ติดคุก
ทีมข่าวเดินทางมาบ้านของเสี่ยโป้ ซึ่งพบว่าไม่มีคนอยู่อาศัย มีเพียงรถจอดอยู่หน้าบ้าน จึงโทรศัพท์หานางบานเย็น ชาญนรา แม่เสี่ยโป้ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเสี่ยโป้จะออกมาให้ข่าวอีก 2 วัน โดยขณะนี้ติดงานไปช่วงน้ำท่วมที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเพิ่งออกเดินทางมาเมื่อคืนที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการสอบถามลูกชาย ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะถูกท้าทาย ซึ่งเสี่ยโป้จะไปที่ร้านนวดแห่งนี้ประจำอยู่แล้ว และเหตุที่เกิดขึ้นเพราะฝ่ายคนเจ็บมีอาวุธ และคนเจ็บที่ถูกยิงอาจถูกลูกหลงจากกลุ่มเดียวกัน แต่ใครยิงกัน หรือเหตุการณ์เป็นอย่างไร ตนไม่ทราบ
ล่าสุดเวลา 19.40 น. นายตั้ง นายเจ และนายเค ได้สอบปากคำเสร็จเรียบร้อย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปส่งกลับบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยขอความกรุณากับผู้สื่อข่าวไม่ให้สอบถามเนื่องจากรีบกลับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อเสี่ยโป้ได้ และยังไม่มีพยานฝั่งเสี่ยโป้มาสอบปากคำ แต่ไม่ต้องกังวลเจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างสุดความสามารถ
พลตำรวจตรี พงศ์อนันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสน.ภาษีเจริญว่า เมื่อช่วงบ่ายให้ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ ไปเชิญตัวภรรยาหนึ่งในผู้บาดเจ็บมาให้ข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับข้อมูลที่ถูกเผยเเพร่สื่อสาธารณะ เพราะขณะนี้มีความเข้าใจผิดว่าตำรวจช่วยเหลือ เเละปกปิดหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์รายอื่นมาให้ข้อมูลกับตำรวจ
จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าใครเป็นคนทำผิด เเต่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น เเละพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดอื่นด้วยหรือไม่ พร้อมยืนยันขณะนี้ตำรวจส่งเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมกล้องบริเวณที่เกิดเหตุรวมทั้ง 16 ตัวทั้งในและนอก โดยให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่มีการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุเเน่นอน เเละจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายเอ็มโก้ ระบุว่า ตนไม่ได้เป็นคนยิงตามที่มีพยานให้ข้อมูล ส่วนตัวยืนยันเพราะตนไม่มีอาวุธ อีกอย่างคนถูกยิง คือ น้องชายตน เป็นไปไม่ได้ที่ตนจะยิงน้องชาย ตนยืนอยู่ฝั่งเดียวกับน้องชายที่เป็นคนเจ็บ ก็ยังเห็นกันอยู่ พวกตน รวมทั้งคนเจ็บเพียงแค่จะเดินทางไปดู ไม่ได้ตั้งใจไปมีเรื่องกับเสี่ยโป้ ตนเดินทางไปตัวเปล่า ก็ไปดูเฉย ๆ เพราะคิดว่าเป็นการต่อยกันตัวต่อตัว
การที่มีเหตุยิงกันแบบนี้ ตนมองว่าเป็นเรื่องเกินเหตุ หลังจากเสียงปืนดังขึ้นตนก็ได้แต่วิ่งหนีตาย ไม่ทันฟังว่าใครพูดอะไร จำได้ว่าก่อนจะมีการยิง ฝ่ายคู่กรณีสั่งห้ามถ่ายคลิปและถ่ายภาพ พร้อมขู่ว่าหากไม่ทำตามจะยิงปาก ตนขอปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้อง ตนกังวลว่าจะถูกใส่ร้าย หากตนถูกจับตนเป็นแพะแน่นอน อีกทั้งตนพร้อมจะไปตรวจเขม่าดินปืน ซึ่งตนคิดว่าจะไปขอตรวจเองด้วย
